6 พ.ค. เวลา 14:11 • หนังสือ

ทำไม คนคิดนอกกรอบถึงรวย?

ในปี 2009 Tina Seelig ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย Stanford ได้แบ่งนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ในห้องเป็น 14 ทีม และให้ซองที่มีเงิน 5 ดอลลาร์แก่แต่ละทีมเป็นเงินทุนตั้งต้น ทีมมีเวลา 5 วันในการวางแผน แต่เมื่อเปิดซองแล้ว พวกเขามีเวลาแค่ 2 ชั่วโมงในการทำเงินให้ได้มากที่สุด และให้เวลา 3 นาทีในการนำเสนอผลงานดังกล่าวต่อคนในชั้นเรียน
8
บางทีมซื้อของราคาถูกมาขายต่อ บางทีมตั้งจุดบริการสูบลมยางจักรยาน บางทีมจองโต๊ะร้านอาหารยอดนิยมแล้วขายที่จองให้คนที่ต้องการ ทีมเหล่านี้สามารถสร้างรายได้หลายร้อยดอลลาร์ แต่มีอยู่ทีมหนึ่งที่ชนะทีมอื่นแบบขาดลอย
คนในทีมนี้มีความเห็นว่า ข้อจำกัดของเงินทุน 5 ดอลลาร์เป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ และเวลาที่ให้สองชั่วโมงในการทำเงิน ก็น้อยเกินไปกว่าที่จะทำให้เกิดผลตอบแทนที่ดี แต่พวกเขาเห็นว่าสิ่งที่มีค่าที่สุดในโจทย์ก็คือ เวลา 3 นาทีให้ต่างหาก และพอรวมกัน 14 ทีม พวกเขาก็มีเวลารวมกันเกือบ 1 ชั่วโมง
และพวกเขาก็คิดว่า คนที่จะมีความสามารถที่จะจ่ายเงินมากที่สุด ไม่ใช่นักเรียนของมหาวิทยาลัย แต่เป็นบริษัทต่างๆ ที่สนใจเด็กนักเรียนมากกว่า พวกเขาจึงเสนอเวลาให้กับบริษัทที่จะเข้าฟังการนำเสนอของเด็กนักเรียนในชั้นเรียนนี้ในราคา 650 ดอลลาร์​ และมีโอกาสที่จะดูว่า นักเรียนคนไหนมีแวว และน่าจะจ้างมาทำงาน
4
บทเรียนจากเรื่องนี้ จึงอยู่ที่
1
- การดูว่าอะไรสำคัญ ไม่สำคัญต่อการตัดสินใจ
- และมองหาโอกาสที่คนอื่นไม่เห็นที่จะสร้างผลตอบแทนที่เหนือความคาดหมาย
โฆษณา