การรับมือสภาวะโลกร้อนจีน กับไทย ต่างกันอย่างไร?
ผมยกตัวอย่าง ในรูป เป็นข่าวประธานาธิบดี Xi Jinping เดินตรวจ “ผลงาน” การปลูกป่าเพื่อหยุดการขยายตัวของทะเลทรายในเขต Bayannur
โครงการ “เขื่อนจีน” (ที่กระทบไทย ลาว เขมร) รวมถึงโครงการปลูกป่าหยุดทะเลทราย และอุตสาหกรรมนวัตกรรมพลังงานสะอาดของจีน ถูกวิจัยมาล่วงหน้าตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว เพื่อลดผลกระทบสภาวะโลกร้อนรุนแรงที่จะมีต่อจีน ซึ่งหมายถึงกระทบความมั่นคงทางอาหาร อากาศ และน้ำ
ผมไปงาน World Expo ที่เซี่ยงไฮ้ปี 2010 กับ อ. Sakkachat Sivabovorn พี่เอส Ace Thanaboon Somboon พี่กบ Anunta Intra-aksorn จีนก็พูดเรื่องนี้ซ้ำๆ ประเทศอื่นในโลกเห็นตรงกัน
ยกเว้นไทยที่เหมือนจะไม่เข้าใจ
วันนี้จีนทำสิ่งที่ชาติอื่นพยายามทำแต่ไม่สำเร็จ ให้สำเร็จได้เรียบร้อย ด้วยการขยายพื้นที่ป่าสู้ทะเลทรายด้วยงานวิจัยที่ต่อเนื่องมานับ 20 ปี
และถูก endorse ด้วยวิสัยทัศน์ของ ปธน. Xi Jinping ในขณะที่ผมไม่เห็นผู้นำไทยแม้แต่ 1 คน สนใจเรื่องนี้
ยกเว้น
สมเด็จย่า ในหลวง ร.9 ที่ลุยเรื่องนี้จริงจัง
ส่วนในขณะที่ผมบินกลับจาก Vienna
มองลงมาด้านล่าง
พม่า ยันไทย ยังเผาทั้งพื้นที่เกษตร และป่ากันเละอยู่
สวนแนวทางที่ในหลวง ร.9 มอบไว้ให้
ร้อนที ก็ตื่นเต้น
ฝนตก ก็ลืมหมด
แต่ climate change ไม่มีวันหยุดนะครับ
ควรเชิญ รมว.เกษตร และมหาดไทย รวมถึงข้าราชการระดับสูงของ 2 กระทรวง ตลอด 2 รัฐบาลที่ผ่านมา มาปรับทัศนคติเป็นอย่างยิ่ง ว่าทำไมทำลายแผ่นดินในหลวงได้มากขนาดนี้
ข่าวเพิ่มเติมได้ที่ CGTN (China Global Television Nerwork) https://youtu.be/l5nk9bWLL0Q?si=Mx2yz6WvaijAyEn5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
