8 พ.ค. เวลา 07:05 • กีฬา

วิเคราะห์จากผลงาน : ทำไมฤดูกาลนี้ ชลบุรี เอฟซี ถึงไม่ปังเหมือนแต่ก่อน | Main Stand

ชื่อของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี คือสโมสรฟุตบอลที่มีประวัติศาตร์ในวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนาน และภาพจำของแฟนบอลคือสุดยอดทีมที่มีแฟนบอลจำนวนมากและเป็นต้นแบบของฟุตบอลอาชีพ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 ชลบุรี นำพาตัวเองจาก #โปรวิเชียรลีก เข้าสู่ #ไทยลีก เป็นฤดูกาลแรก และตีประคองจบอันดับ 8 ของตาราง
จากนั้นปีถัดมา (2550) ชลบุรี คว้าแชมป์ไทยลีกได้เป็นสมัยแรกและนับเป็นทีมภูธรทีมแรกที่ได้แชมป์ลีกสูงสุดของเมืองไทย พร้อมกระแส #แฟนบอลล้นสนาม
1
ชื่อของ ชลบุรี กลายเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของ ไทยลีก นับตั้งแต่นั้นมา และหลังจากนั้นพวกเขาอยู่ในกลุ่มทีมลุ้นแชมป์มาโดยตลอด
แม้สุดท้ายจะไม่ได้แชมป์สมัยที่ 2 ซักที แต่ ชลบุรี ก็จบรองแชมป์ได้ถึง 5 ครั้ง ซึ่งนั่นทำให้ “ฉลามชล” คือทีมยักษ์ใหญ่ในความรู้สึกของทุกคน
แต่ช่วงหลัง ชลบุรี เริ่มห่างไกลจากการลุ้นแชมป์มาๆ กระทั่งฤดูกาลนี้พวกเขาคือทีมที่ต้องลุ้นตายอย่างเต็มตัวและเป็นหนึ่งในทีมเต็ง #ตกชั้น อย่างปฎิเสธไม่ได้
ตัวผู้เล่น
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ชลบุรี มีความชัดเจนในนโยบาย #เน้นสร้างไม่เน้นซื้อ คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี 😉 เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้ที่ขนผู้เล่นดาวรุ่งเข้ามาอยู่ในทีมชุดใหญ่จนแทบกลายเป็นแกนหลักของทีมด้วยซ้ำ
นักเตะเหล่านี้ #สุดในรุ่น คือเก่งในรุ่นอายุของตัวเอง ไล่ตบเด็กรุ่นเดียวกันมาทั่วสารทิศ
แต่นี่คือ #ไทยลีก ที่ไม่กำหนดอายุ ไม่มีหมูให้ตบ กบให้ยิง ดังนั้นความเขี้ยวจึงต่างกันลิบลับ ซึ่งต้องยอมรับว่าดาวรุ่งของ ชลบุรี บางคนเท่านั้น (บางทีอาจจะแค่คนเดียว) ที่พอพึ่งพาอาศัยได้ แต่บางคน #ยังไม่ถึง และบางคน #หมดแล้ว
กลายเป็นเด็ก ชลบุรี ต่างหาก ที่โดนทีม ไทยลีก ไล่ต้อนจนไม่อาจรับมือกับความแข็งโป๊กของลีกไว้ได้
ส่วนผู้เล่นต่างชาติก็ไม่อาจฝากผีฝากไข้ได้ทั้งหมด บางเกมเป็นภาระด้วยซ้ำ ทำให้ตัวผู้เล่นของ ชลบุรี ฤดูกาลนี้ คือข้อแตกต่างที่เห็นชัดที่สุด
งบประมาณ
ปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นมีต้นตอมาจาก #งบประมาณ ซึ่งพวกเขาไม่มีเงินมากพอในการจ้างนักเตะดีๆ ค่าตัว-ค่าเหนื่อยแพงๆ มาร่วมทีม
ครั้นจะเอาผู้เล่นต่างชาติเกรด A ก็สู้ราคาไม่ไหว เลยต้องอาศัยเลือกของมือ 2 ที่เคยมีผลงานให้เห็นกับสโมสรอื่นมาร่วมทีม ซึ่งข้อดีคือไม่ต้องเสี่ยงเพราะรู้อยู่แล้วว่าฝีเท้าเป็นอย่างไร
แต่หากอิมพอร์ตนักเตะต่างแดนก็ต้อง #เสี่ยงดวง เพราะเมื่อเซ็นสัญญาไปแล้ว แต่ผลงานกลับไม่ดี ก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากอยู่ๆ กันไป ไม่สามารถยกเลิกสัญญาได้เหมือนทีมใหญ่ๆ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ชลบุรี มีปัญหาเรื่องงบประมาณ ก็เพราะการที่พวกเขาห่างเหินตำแหน่งแชมป์ไปนาน ทำให้ไม่ใช่ทีมใหญ่ที่สปอนเซอร์พร้อมทุ่มเงินให้อีกแล้ว ขณะที่สโมสรต้องการนำเงินไปบริหารทีมตั้งแต่เยาวชนจนถึงชุดใหญ่ ดังนั้นต้องใช้ความพอเพียงมากๆ ในการบริหารงบประมาณ
โค้ชไม่โดน
การเลือก มาโกโตะ เทกุระโมริ มาเป็นเฮดโค้ชตั้งแต่ต้นฤดูกาลอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ ชลบุรี มาถึงจุดนี้ เพราะ “เทกุ” ไม่ได้ทำให้ “ฉลามชล” โหดอย่างที่คิด
“เทกุ” ได้รับสิทธิ์เด็ดขาดทั้งเรื่องของการเลือกตัวผู้เล่นตลอดจนแท็คติก แต่สุดท้ายก็ไม่อาจทำผลงานได้ตามเป้าหมายและหล่นไปอยู่ #รองบ๊วย หลังจบนัดที่ 11 ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของการ #หนีตกชั้น
“เฮงซัง” วิทยา เลาหกุล มารับช่วงต่อท่ามกลางความหวังใหม่และหน้าเก่า ซึ่งแน่นอนว่า “โค้ชเฮง” ต้องการใช้งานเด็กๆ ที่เขาปั้นมากับมือตั้งแต่ทีมอคาเดมีที่ปลุกปั้นมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย
แต่สุดท้ายก็ย้อนกลับไปข้อแรก #ตัวผู้เล่น ซึ่งไม่ได้เหนือกว่าชาวบ้านชาวช่อง ทำให้ ชลบุรี ต้องดิ้นรนหนีตายอยู่ทุกวันนี้
ผู้บริหาร
เหตุผลก่อนหน้าที่กล่าวมาเป็นแค่ส่วนประกอบ แต่สาเหตุหลักที่ไม่อาจปฏิเสธได้คือการบริหารงานของผู้บริหาร ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายต่างๆ และตัดสินใจในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกโค้ช, การหาเงิน ฯลฯ ดังนั้นพวกเขาอาจต้องกลับมาคิดใหม่ทำใหม่หากจะพา ชลบุรี กลับมาอยู่ในจุดเดิม
แต่ฤดูกาลนี้ต้องอยู่รอดให้ได้ก่อน‼️
บทความโดย : ธรรมวัตร เอกฉัตร
โฆษณา