8 พ.ค. เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Index Fund ตัวช่วยเพิ่มพลังเงินเก็บ ให้โตพร้อมเศรษฐกิจโลก

รู้หรือไม่ ว่าเราสามารถเพิ่มมูลค่าเงินเก็บ ให้งอกเงยและเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจโลกได้ ผ่านสินทรัพย์ที่เรียกว่า ‘กองทุนดัชนี’ หรือ ‘Index Fund’
โดย Index Fund เป็นกองทุนรวมรูปแบบหนึ่ง ที่มีนโยบายบริหารกองทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund) ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะซื้อหลักทรัพย์ทุกตัวในดัชนีตลาด ตามนโยบายของกองทุน เช่น
📈S&P500 คือ ดัชนีอ้างอิงที่รวมหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ จำนวน 500 บริษัท
📈SET100 คือ ดัชนีอ้างอิงที่รวมหุ้นขนาดใหญ่ 100 ตัวแรก ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
📈CSI300 คือ ดัชนีอ้างอิงที่รวมหุ้นจีนขนาดใหญ่ 300 ตัวแรก ของตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และเซินเจิ้น
ในเมื่อกองทุน Index Fund มีนโยบายลงทุนในหุ้นทุกตัวของตลาด จึงทำให้ผลตอบแทนและความเคลื่อนไหวของกองทุนคล้ายคลึงกับดัชนีของตลาดหุ้นนั้นๆ
ยิ่งถ้าในประเทศใดมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ดัชนีตลาดหุ้นของประเทศเหล่านั้นก็มักจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย
ดังเช่น ถ้าเราลงทุนในกองทุน Vanguard 500 Index Fund Investor Shares ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ กว่า 500 แห่ง ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2000 จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2024 เราจะได้รับผลตอบแทนมากถึง 246.25% (ข้อมูลจาก Google Finance) ซึ่งตัวเลขผลตอบแทนดังกล่าวก็เป็นสิ่งยืนยันถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมานั่นเอง
ถึงตรงนี้แล้ว จะเห็นได้ว่ากองทุน Index Fund เป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์ที่น่าสนใจมาก ๆ
หากใครที่ลงทุนในกองทุน Active Fund (กองทุนที่เน้นการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนีอ้างอิง) มาอยู่แล้ว ก็สามารถแบ่งเงินบางส่วนมาลงทุนใน Index Fund ได้ ซึ่งหากใครที่มีเป้าหมายลงทุนในระยะยาว ก็อาจเน้นสัดส่วนใน Index Fund เป็นหลัก
เพื่อให้นักลงทุนเห็นภาพชัดมากขึ้น จะขอยกตัวอย่างกรณีที่เราจัดพอร์ตลงทุนแบบ Core-Satellite Portfolio ซึ่งเป็นการจัดพอร์ตที่มีความยืดหยุ่น สามารถทำกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น และลดความผันผวนในช่วงตลาดขาลง ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนแบบ Active และ Passive เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยงมากที่สุดในทุกสภาวะตลาด
โดยตั้งสมมติฐานว่าจากการมีเงิน 1 ล้านบาท เราจะมีการแบ่งสัดส่วนเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
  • ส่วนหลัก (Core Portfolio)
- จุดประสงค์ : เน้นสร้างมูลค่าเพิ่มให้เงินลงทุนในระยะยาว และกระจายความเสี่ยง
- สัดส่วนการลงทุน: 60-70% หรือคิดเป็นเงินลงทุน 600,000 - 700,000 บาท
- สินทรัพย์แนะนำ: กองทุนที่อิงดัชนี (Index Fund) ในประเทศหรือภูมิภาคต่าง ๆ ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว เช่น สหรัฐฯ, จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, ยุโรป และไทย โดยอาจเลือกประมาณ 3-5 กองทุน
  • ส่วนเสริม (Satellite Portfolio)
- จุดประสงค์: เน้นการทำกำไรในระยะสั้น และลงทุนแบบโฟกัสเป็นรายกลุ่ม
- สัดส่วนการลงทุน: 30-40% หรือคิดเป็นเงินลงทุน 300,000 - 400,000 บาท
- สินทรัพย์แนะนำ: กองทุนเชิงรุก (Active Fund), กองทุนธีมเมติก (Thematic Fund) และสินทรัพย์ทางเลือก อย่างทองคำและน้ำมัน เป็นต้น
โดยเหตุผลที่ต้องนำเงินไปลงทุนใน Index Fund มากถึง 60-70% เป็นเพราะว่ากองทุน Index Fund มีการกระจายลงทุนที่มากกว่า มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ และมีแนวโน้มเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาวนั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพมาให้คำแนะนำทั้งเรื่องการลงทุนในกองทุน และการจัดพอร์ต ก็สามารถติดต่อ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้เลย
ปัจจุบัน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีผลิตภัณฑ์หลากหลาย ซึ่งรวมไปถึงกองทุน Index Fund จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ
พร้อมตอบโจทย์ทุกวิถีการลงทุน เพื่อความสำเร็จในรูปแบบของคุณตอกย้ำความเชื่อมั่น ด้วยรางวัลใหญ่จากสถาบันชั้นนำระดับประเทศและระดับโลก ได้แก่
🏆รางวัล “ Best Bank for Investment Solutions” 10 ปีซ้อน
🏆รางวัล “Derivatives House of The Year, Thailand” 4 ปีซ้อน
🏆รางวัล “Best Bond Dealer” 4 ปีซ้อน
🏆รางวัล “Most Active Bank in Corporate Bond Secondary Market” 4 ปีซ้อน
และรางวัลชั้นนำอื่นๆ อีกมากมาย
คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุน โปรดศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะของผลิตภัณฑ์ เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียด
📞 CIMB THAI Care Center โทร 02 626 7777
✅Wealth & Preferred Line: https://bit.ly/3vwTRnN
References
โฆษณา