8 พ.ค. เวลา 15:28 • ความคิดเห็น
ตัวตนที่เกิดขึ้นมาด้วยอวิชชา(ความเข้าใจผิด) ได้ดับไป
มีเสียงมากระทบเรา และด้วยความขาดสติและอวิชชาของเราเอง ได้สร้างตัวตนตัวนี้ขึ้น
มันเกิดขึ้น, พาเราด่ากลับ, แล้วมันก็ดับไป
ถ้าคุณมีสติและตัวตน(เหล่านี้ ที่มาจากอวิชชา)ไม่เกิดขึ้นมาอีกเลยตลอดชีวิต คุณคืออรหันต์ และชีวิตของคุณอยู่ในสภาวะนิพพาน
เมื่อมันไม่เกิด, มันก็ไม่ตาย ก็เรียกชื่อเล่นว่า อมตะ
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๑ [ฉบับมหาจุฬาฯ] สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค [๓. สติปัฏฐานสังยุต]
๕. อมตวรรค ๒. สมุทยสูตร
๕. อมตวรรค หมวดว่าด้วยอมตะ ๑. อมตสูตร ว่าด้วยอมตะ
[๔๐๗] เรื่องเกิดขึ้นที่กรุงสาวัตถี พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีจิตตั้งมั่นใน สติปัฏฐาน ๔ ประการอยู่เถิด อย่ามีจิตไม่ตั้งมั่นอยู่เลย และอมตะ (นิพพาน) พึงมี แก่เธอทั้งหลาย
สติปัฏฐาน ๔ ประการ อะไรบ้าง คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้
๑. พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้
๒. พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลาย ฯลฯ
๓. พิจารณาเห็นจิตในจิต ฯลฯ
๔. พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกได้ ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงมีจิตตั้งมั่นในสติปัฏฐาน ๔ ประการนี้อยู่เถิด อย่ามีจิตไม่ตั้งมั่นอยู่เลย และอมตะพึงมีแก่เธอทั้งหลาย”
ปฏิจจสมุปบาท
โฆษณา