9 พ.ค. เวลา 00:09 • ธุรกิจ

แค่เปลี่ยนผู้นำ องค์กรก็วิ่งฉลุยได้ในพริบตากับเคสตัวอย่างของ Microsoft

ถือว่าเป็นเคสตัอย่างการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับ CEO ของคนปัจจุบันของ Microsoft อย่าง สัตยา นาเดลลา ที่ก้าวผ่านจากกลุ่มผู้ก่อตั้งเดิมอย่าง บิลล์ เกตส์ , สตีฟ บัลเมอร์. รวมถึง พอล อัลเลน ซึ่ง CEO สองคนแรกของ Microsoft อย่าง. บิลล์ เกตส์ รวมถึง สตีฟ บัลมอร์ นั้น ถือเป็นกลุ่ม founder กลุ่มแรก ๆ ในการนำพา Microsoft ขึ้นสู่จุดสูงสุด
เมื่อเข้าสู่ยุคปลาย ของ CEO คนที่สองอย่างสตีฟ บัลเมอร์ ต้องบอกว่าแทบจะเป็นช่วงขาลงที่ตกต่ำที่สุดของ Microsoft เลยก็ว่าได้ มีการก้าวเดินที่ผิดพลาดหลายอย่างในยุคที่ สตีฟ บัลเมอร์ ขึ้นคุมบังเหียน ทั้งการพลาดในตลาดมือถือ ทั้งที่ตัวเองเป็นผู้นำอยู่ก่อนใน smartphone ยุคก่อนหน้า iPhone ที่มี Windows Mobile ซึ่งถือว่าล้ำที่สุดในสมัยนั้นครองตลาดอยู่
3
การประเมินบริษัทอย่าง google ต่ำไป ทำให้กลายมาเป็นริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกในปัจจุบัน กับการที่ออก Bing มาสู้ก็ถือว่าช้าเกินไปแล้ว google ได้ครองส่วนแบ่งตลาดไปเกือบแทบจะทั้งสิ้นแล้ว ทั้งที่ Microsoft นั้น เป็นบริษัทแรก ๆ ที่ทำให้ผู้คนทั่วไปสามารถเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตได้ผ่านทาง Internet Exproler
Microsoft กลายเป็นบริษัทที่ใหญ่เทอะทะมีพนักงานมากมายแทบไม่เหลือเค้าลางของบริษัทนวัตกรรมเหมือนในอดีต. การบริหารก็มีลำดับชั้นมากมายแทบจะกลายเป็นรัฐราชการ ปัญหาเหล่านี้ IBM นั้นเคยประสบมาก่อน ซึ่งการเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ทำให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ช้าไม่ได้สนับสนุนนวัตกรรมใหม่ ๆ เหมือนในอดีต
1
เมื่อถึงเวลา ก็ต้องเปลี่ยนผู้นำเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่คนยุคเก่า ๆ เริ่มตามไม่ทัน ซึ่งเป็นที่มาของหนังสือเล่มนี้. Hit Refresh ของ สัตยา นาเดลลา ที่เปรียบเสมือนการเข้ามา Refresh องค์กรใหม่ทั้งหมด ผ่านการบริหารงานของเขาหลังจากได้รับไม้ต่อมาจาก สตีฟ บัลเมอร์
2
การเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของ สัตยา นาเดลลา คือ วัฒนธรรมองค์กร ของ Microsoft เมื่อตอนที่เขาได้รับตำแหน่งนั้น องค์กรมีขนาดใหญ่เทอะทะ มาก ๆ การสั่งการเป็นลำดับขั้น ซึ่งเป็นปัญหาที่หลาย ๆ องค์กรใหญ่น่าจะเคยเจอ ทำให้ขับเคลื่อนเรื่องต่าง ๆ ได้ช้า มีการตัดสินใจหลายชั้นมากเกินไป โปรเจกต์หลาย ๆ ตัวถูกทิ้งไว้ ไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ให้กับบริษัท
และเริ่มที่จะปรับทิศทางผลิตภัณฑ์ของบริษัทใหม่ให้ก้าวทันสู่โลกยุคใหม่มากยิ่งขึ้น ไม่พึ่งพาเพียงแค่ windows และ office เหมือนอดีด ผลิตภัณฑ์สำคัญที่ช่วยพลิกโฉมหน้าของ microsoft ยุคใหม่คือ Cloud Service อย่าง Windows Azure ซึ่ง สัตยา นาเดลลา ได้โฟกัส กับ cloud service เป็นอย่างมาก โดยให้เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ซึ่งทำให้บริการต่าง ๆ ของ Microsoft นั้นเปลี่ยนมาให้บริการบน cloud เช่น office365 ทำให้สามารถเพิ่มรายได้ให้กับ microsoft มหาศาล
1
การเท Windows Phone
ในยุคบัลเมอร์นั้นมีการตัดสินใจที่ถือได้ว่าผิดพลาดครั้งใหญ่ของ Microsoft ในการสร้างแพลตฟอร์มมือถือใหม่ ที่เป็นจอสัมผัสโดยใช้ code name ว่า “Windows Phone” ซึ่งจะมีการ Design Interface ของหน้าจอรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Metro” และหันมาใช้เทคโนโลยีของตัวเองในการสร้างระบบปฏิบัติการใหม่นี้ขึ้นมาแทน
1
ในยุคนั้นสถานการณ์ของ Nokia ที่แม้จะยังคงเป็นผู้ผลิตมือถือรายใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ แต่กราฟการเติบโตของพวกเขาเริ่มดิ่งลงเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในตลาด smartphone ที่ Symbian โดนแย่งชิงตลาดจากทั้ง Android และ iOS ของ Apple อย่างหนักจนต้องมีการปลด CEO คนเก่าออกแล้วตั้ง Stephen Elop ที่เป็นอดีตลูกหม้อของ Microsoft ขึ้นมากุมบังเหียนแทน
1
ซึ่งสุดท้าย Elop ที่ด้วยความเป็นลูกหม้อเก่าของ Microsoft ก็ได้ตัดสินใจว่าจะร่วมวงกับ Microsoft ในการผลักดัน Windows Phone และรอให้ Windows Phone นั้นสมบูรณ์พร้อม
Stephen Elop ที่เป็นอดีตลูกหม้อของ Microsoft ขึ้นมากุมบังเหียน Nokia (CR:Digital Trend)
โดยทั้ง 2 บริษัทจะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone เป็นแพลตฟอร์มหลักของ smartphone ของ Nokia โดย Nokia จะอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งฮาร์ดแวร์ การเลือกสรรซอฟต์แวร์ ภาษาที่รองรับและขีดความสามารถในการผลิตและการเข้าถึงตลาด
1
นอกจากนี้จะร่วมกันให้บริการเพื่อขับเคลื่อนสินค้าใหม่ ๆ เช่น Nokia Maps ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของบริการเด่นของ Microsoft อย่าง Bing และ AdCenter แอพพลิเคชั่นและคอนเทนท์ของ Nokia จะรวมเข้ากับ Microsoft Marketplace ด้วยเช่นกัน
แต่ดูเหมือนกลยุทธ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้ทำให้ Nokia สถานการณ์ดีขึ้นแต่อย่างใดจนสุดท้าย Microsoft ก็ได้เดินเกมเดิมพันครั้งสุดท้ายในตลาดมือถือ smartphone ด้วยการเข้า Take Over เอา Nokia มาครอบครองได้สำเร็จในช่วงปลายปี 2013
แต่เนื่องด้วยความล่าช้าและการพัฒนาอย่างรวดเร็วของทั้ง android และ iOS ของ iPhone รวมถึงการที่ตัว Windows Phone ไม่ได้รับความสนใจจากเหล่านักพัฒนา และที่สำคัญด้วย UI ใหม่แบบ Metro นั้นทำให้เหล่านักพัฒนาแขยงที่จะร่วมวงด้วยเพราะมันมีความแตกต่างอย่างชัดเจนกับ iOS และ Android ที่พวกเขาแทบจะต้องพัฒนาแอปต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่หมด
ทำให้แอปดี ๆ ที่คนใช้งานทั่วไปในทั้ง Android และ iOS ไม่มีการมาพัฒนาบนแพลตฟอร์มของ Windows Phone และมันก็ได้ทำให้ผู้ใช้งานแทบจะไม่สนใจ Windows Phone เลย
สัตยา นาเดลลาจึงได้ตัดสินใจทิ้งผลิตภัณฑ์ Windows Phone ที่ไม่น่าจะต่อกรได้กับยักษ์ใหญ่ได้อีกแล้ว ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่สำคัญอย่างนึงของ สัตยา นาเดลลา ซึ่งมองว่าในระยะยาวการลงทุนด้าน Windows Phone นั้นไม่น่าจะสามารถแย่งส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดอย่าง iOS และ Android ได้อีกต่อไปแล้ว
2
การตัดขาดทุนรวมถึงการโละพนักงานออกไปเป็นจำนวนมากเป็นสิ่งที่ยากของคนระดับ CEO แต่เพื่อพยุงบริษัทในระยะยาวนั้นต้องถือว่าเป็นการที่ตัดสินใจที่ถูกต้องอย่างยิ่ง
1
เดิมพันกับ OpenAI
การตัดสินใจที่สุดยอดอีกครั้งของสัตยา นาเดลลาก็คือการเข้าไปสนับสนุน OpenAI ตั้งแต่ในช่วงแรก ๆ และเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ Microsoft ในการเติบโตไปสู่บริษัททางด้านเทคโนโลยี AI ชั้นนำ
Microsoft ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์กับ OpenAI ในปี 2019 และตามมาด้วยการทุ่มทุนอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2021 โดยถึงแม้ Microsoft จะสนับสนุนทางการเงินจำนวนมากก็ตามแต่ Microsoft ก็ไม่ได้ถือกรรมสิทธิ์ใด ๆ ใน OpenAI แต่จะได้รับส่วนแบ่งกำไรแทน
1
สัตยา นาเดลลา ที่เดิมพันกับ openai ได้ถูกที่ถูกเวลาเป็นอย่างมาก (CR: Loas Angeles Times)
มันเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ไปทั่วทุกมุมโลก เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะเราจะเห็นข่าว Microsoft เข้าไปลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานด้าน cloud และ AI ไปทั่วโลก ซึ่งล่าสุดในการมาเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ประกาศเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาล ซึ่งสุดท้ายรายได้ก็จะหลั่งไหลกลับมาที่ Microsoft ผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นใหม่เหล่านี้
ตัวอย่างของการเปลี่ยนผู้นำก็พลิกบริษัทได้
ถ้าถามว่าในยุคปลายของ สตีฟ บัลเมอร์ ในตอนนั้นภาพลักษณ์ของ Microsoft ดูย่ำแย่ไปทุก ๆ อย่าง ทั้งเรื่องรายได้ ภาพลักษณ์ในเรื่องนวัตกรรม ที่ไม่มีนวัตกรรมออกมาเลยจากฝั่ง Microsoft และสิ่งที่สำคัญคือ ไม่สามารถที่จะดึงดูดคนรุ่นใหม่ ๆ ให้มาทำงานได้ เพราะไม่มีความ cool ที่จะดึงดูดเด็กรุ่นใหม่ ๆ ให้เข้ามาร่วมงานได้อีกต่อไป
1
การแค่เพียงเปลี่ยนผู้นำเป็น สัตยา นาเดลลา ต้องบอกว่าเป็นการเลือกตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งนึงของ Microsoft เพราะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ทุกอย่างก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภาพลักษณ์ของ Microsoft ดูดีขึ้นมาทันที ทั้งในเรื่องรายได้ กำไร ความเป็นบริษัทนวัตกรรม เริ่มดึงดูดคนรุ่นใหม่กลับมาทำงานได้อีกครั้ง
2
และเราจะเห็นได้ว่า การแค่เพียงเปลี่ยนเพียงผู้นำเป็น สัตยา นาเดลลา ต้องบอกว่าเป็นการเลือกตัดสินใจที่ถูกต้องอีกครั้งหนึ่งของ Microsoft เพราะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปี ทุกอย่างก็พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ สุดท้ายสามารถทะยานขึ้นกลับมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกได้อย่างที่เราเห็นกันในทุกวันนี้นั่นเองครับผม
3
◤━━━━━━━━━━━━━━━◥
หากคุณชอบคอนเทนต์นี้อย่าลืม 'กดไลก์'
หากคอนเทนต์นี้โดนใจอย่าลืม 'กดแชร์'
คิดเห็นอย่างไรคอมเม้นต์กันได้เลยครับผม
◣━━━━━━━━━━━━━━━◢
The original article appeared here https://www.tharadhol.com/microsoft-change-ceo/
ติดตามสาระดี ๆ อัพเดททุกวันผ่าน Line OA ด.ดล Blog
คลิกเลย --> https://lin.ee/aMEkyNA
รวม Blog Post ที่มีผู้อ่านมากที่สุด
——————————————–
ติดตาม ด.ดล Blog เพิ่มเติมได้ที่
=========================
โฆษณา