9 พ.ค. เวลา 07:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

โยกไม่ทัน! รัฐเก็บข้อมูลเงินฝากแล้ว เกิน 5 แสนบาท อดได้เงินดิจิทัล

รัฐบาลเก็บข้อมูลบัญชีเงินฝากเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ใครมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท อดได้ดิจิทัลวอลเล็ต
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ในวันนี้เป็นการพูดคุยเรื่องเทคนิค การเชื่อมข้อมูลของระบบ มีกระบวนการที่จะต้องทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างหน่วยงาน เช่น การตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝาก หลังจากประชุม กว่า 2 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ในการเดินหน้าโครงการ
ประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต
ส่วนเงื่อนไขเข้าร่วมโครงการต้องมีเงินฝากไม่เกิน 500,000 บาท มีการเก็บข้อมูลบัญชีเงินฝากไปแล้วเมื่อ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ข้อมูลภาษีเงินได้ไม่เกิน 840,000 บาท จากกรมสรรพากร จะใช้ข้อมูลภาษีของปี 2566
ขณะที่เงื่อนไขคนที่ ลงทะเบียน เข้าร่วมโครงการ ต้องมีอายุ 16 ปี ขึ้นไป จะเก็บข้อมูลถึง วันที่ 30 กันยายน 2567 ซึ่งจะเป็นวันสุดท้ายของการลงทะเบียน ร่วมโครงการส่วนรายการสินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการหรือ Negative List ยังไม่ได้มีการพูดคุยเพิ่มเติม โดยคณะอนุกรรมการ จะมีการนัดประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า แอปพลิเคชั่น ที่ใช้ในการรับเงิน ยังคงใช้แอปฯทางรัฐ เป็นตัวเชื่อม ข้อมูล ซึ่งเป็น แอปฯที่มีการใช้งานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณเพิ่ม
ส่วนการที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมในคณะอนุกรรมการวันนี้ นายจุลพันธ์ ระบุว่า มาในฐานะผู้สังเกตการณ์ ได้ให้ความเห็นในหลายประเด็น ทั้งความสำคัญของโครงการ ที่จำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ให้ดำเนินการด้วยความปลอดภัย ป้องกันการทุจริตคอรัป และการใช้เงินผิดประเภท
ประชุมคณะอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า การพูดคุยรายละเอียดในคณะอนุกรรมการวันนี้ ได้พูดคุยถึง การเชื่อมต่อของระบบเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนของประชาชน เนื่องจากต้องมีการเชื่อมข้อมูลทั้งกรมสรรพากร กรมการปกครอง รวมถึง กฎหมายPDPA จะต้องมีการพูดคุยถึงการเชื่อมระบบกัน ทั้งในเชิงเทคนิคและข้อกฎหมาย ซึ่งจะต้องไปทำ MOU ร่วมกัน ระหว่างหน่วยงาน
นายเผ่าภูมิ ระบุว่า ร้านค้า ที่จะเข้าร่วมโครงการ ยังคงเป็นเงื่อนไขเดิม ตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นร้านค้าขนาดเล็ก ทั้งนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา เว้น ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต ขณะการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการยืนยันว่ายังคงเป็นในช่วงไตรมาส 3 แต่ยังไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา