9 พ.ค. เวลา 13:47 • ข่าวรอบโลก

เมื่อจีนทิ้งโมเดลอาวุธรัสเซีย….

จีนเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สาม คือ “ฟูเจี้ยน”
ไปเรียบร้อยแล้ว
หน้าตาก็อย่างในภาพแหละ คงไม่ต้องบอกว่าต้นแบบ
มาจากไหน ใช้คำว่าก็อปเรือ เจอรรัลด์ ฟอร์ด ของสหรัฐ
ทางจีนก็คงเถียงไม่ได้ล่ะนะ 555
ฟูเจี้ยน ทำลายสถิติของเรือฟอร์ด เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน
ที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้วล่ะ ที่ระวางขับน้ำ 100,000 ตัน
ในขณะที่เรือฟอร์ดนั้น 80,000
ใหญ่กว่า แต่ไม่ได้หมายความว่าดีกว่า
เพราะในขณะที่เรือฟอร์ดนั้น โหลดเครื่องบินได้ถึง 75 ลำ
แต่เรือฟูเจี้ยนนั้นทำได้เพียง 40 ลำเท่านั้น
แถมความเร็วในการนำเครื่องขึ้น ก็ทำได้ช้ากว่าถึง
1/4 ของเรือฟอร์ด
ที่สำคัญคือฟูเจี้ยนนั้นยังใช้เครื่องยนต์ดีเซลแบบ steam turbine อยู่เลย ส่วนฟอร์ดนั้นใช้การปั่นไฟฟ้าด้วยนิวเคลียร์
แบบเดียวกับในเรือดำน้ำคลาสสูงๆของสหรัฐ
นั่นทำให้ความสามารถในการปฏิบัติภารกิจระยะยาวในโพ้นทะเล ยังมีความต่างชั้นกันแบบเทียบกันไม่ได้
…ด้วยสเปกที่เป็น มันบอกเราได้ชัดเจนว่า เทคโนโลยีเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนนั้น ยังตามหลังสหรัฐอยู่ค่อนข้างไกลมากทีเดียว ….
…และคงต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ในการพัฒนาตามให้ทัน….
…ซึ่งไม่ใช่เร็วๆนี้แน่ ….
…แน่นอน ว่านี่ส่งผลถึงความสามารถของจีน หากต้องเผชิญหน้ากับสหรัฐ ในพื้นที่ที่ไม่ใช่หน้าบ้านตัวเอง ว่ายังเป็นรอง
แบบไม่สามารถเทียบกันได้
…เรือบรรทุกเครื่องบินคือเครื่องบ่งชี้กำลังรบโพ้นทะเลเสมอ และยังไม่มีอะไรเปลี่ยนความจริงข้อนี้ได้ เพราะคงไม่มีอาวุธใด คุ้มครองนาวิกโยธินได้ดีเท่ามัน
…และอาจหมายรวมถึง ความเหนือกว่าของสหรัฐต่อ
กองเรือรัสเซียด้วยเช่นกัน….
จุดน่าสนใจที่สุด คงไม่ใช่เรื่องประสิทธิภาพ
ที่เป็นรองเรือฟอร์ด หรืออีกหลายลำในกองเรือสหรัฐ
ทั้งที่มัน(ฟูเจี้ยน) คือเรือธงในปัจจุบัน
เพราะใครๆก็รู้ว่า สหรัฐคือเบอร์หนึ่งของอาวุธประเภทนี้
ที่แม้แต่พันธมิตรก็ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้
แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงต้นแบบของทางจีน
จากเรือของรัสเซีย หรืออดีตสหภาพโซเวียต
มาเป็นเรือของสหรัฐ
สิ่งนี้ถือว่าน่าสนใจมาก เพราะช่วงหลังอาวุธของจีน
มีการออกแบบค่อนไปทางอาวุธค่ายตะวันตกมากกว่า
ในแทบทุกชนิดของอาวุธ
จากเดิมที่เป็นการต่อยอดเทคโนโลยี
ของโซเวียตและรัสเซีย ทั้งเครื่องบินรบ เรือรบต่างๆ
มันถูกเปลี่ยนไปหมด แม้กระทั่งปืนพกส่วนบุคคล
คำถามคือ แล้วทางจีนเห็นอะไร จึงทำให้เป็นอย่างนั้น…
หมายถึงว่า จีนพบว่า เทคโนโลยีโมเดลดั้งเดิมของรัสเซียนั้น
ด้อยกว่าทางสหรัฐและค่ายตะวันตกใช่หรือไม่ ?
ในกรณีของเรือ อาจไม่น่าแปลกใจมากนัก
เพราะไม่ใช่จุดเด่นของรัสเซียหรือโซเวียตมาแต่ไหนแต่ไร
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรือโซเวียตว่าดีนั้น
มันไม่น่าเชื่อเหมือนกัน ว่าเป็นผลจากหนั้งอเมริกัน
เรื่อง Hunt of of red october ซึ่งสร้างจากบทประพันธ์
ของนักเขียนนิยายสงครามชื่อดัง คือ Tom Clancy
ในช่วงสงครามเย็น
ที่มักวาดภาพให้โซเวียตในขณะนั้น น่ากลัวจนเกินความจริง
ในนิยายของเขาแทบทุกเรื่อง
…ถึงขนาดมีทฤษฎีสมคบคิดว่า ทอมรับงานพวกอุตสาหกรรมอาวุธสหรัฐ สร้างภาพให้โซเวียตน่ากลัว เพื่อสภาจะได้ทุ่มเทงบทางการทหารให้มากๆ ในช่วงนั้น ….
แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้น
สำหรับผู้ชื่นชอบการรบทางทะเลทั่วโลกรู้ดี
ว่ากองเรือรัสเซียนั้นมีคุณภาพค่อนข้างต่ำ
เนื่องจากทางรัสเซีย ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าเหล่าอื่น
1
จีนนั้น รับเทคโนโลยีการสร้างเรือรบต่างๆมาจากโซเวียต
แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ และพัฒนาจนมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า
ได้ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งเรือผิวน้ำ และใต้น้ำ
เราจะเห็นได้จากเรือบรรทุกเครื่องลำก่อนหน้านี้ของจีน
ที่ปัจจุบันใช้กดฟิลิปปินส์อยู่คือ “เหลียวหนิง” นั้น
มีพื้นฐานมาจากเรือชั้น เคียฟ ของอดีตสหภาพโซเวียตโดยตรง
แต่ปัจจุบัน เมื่อเทคโนโลยีจีนเติบโตขึ้น
คาดว่าจีนคงค้นพบแล้วว่า มันไม่ใช่ต้นแบบอะไรที่ดีนัก
ในทุกๆแง่ จึงมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนโมเดลอาวุธต่างๆ
ตามรอยพวกตะวันตก ที่มีความเหนือกว่าแทน
…และบางที นี่อาจเป็นจุดแยกสำคัญ สำหรับอนาคตของ
อาวุธของจีน ว่าจะมีปรัชญาการออกแบบที่เปลี่ยนไปคล้ายกับทางตะวันตกมากขึ้น และแยกตัวเองออกจากระบบอาวุธรัสเซีย
1
เหลียวหนิง คงเป็นเรือโมเดลรัสเซียลำสุดท้ายของจีนแล้วล่ะ
สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น
มันดูไม่น่ามีอะไรสลับซับซ้อนนัก
มันเหมือนเอาทุ่นใหญ่ๆ มาแปะดาดฟ้าเรือให้เป็นลานบิน
ก็น่าจะใช้ได้แล้ว
มันเคยเป็นแบบนั้นจริง ในสมัยสงครามโลก
มันง่ายขนาดว่า เอาเรือสินค้ามาดัดแปลงติดลานบินได้จริงๆ
แต่ความจริงในปัจจุบัน มันตรงกันข้ามเลย
ว่ากันว่าเรือบรรทุกเครื่องบินนั้น ซับซ้อนยิ่งกว่าเรือดำน้ำเสียอีก
ระบบต่างๆ ในการรักษาสมดุลเรือขนาดยักษ์ไม่ให้คว่ำ
การเตรียมและเก็บเครื่องบิน ขึ้นและลงจากพื้นที่เทคออฟ
อย่างรวดเร็ว ดูจะยังเป็นความลับดำมืด ที่นอกจากสหรัฐแล้ว
ยังไม่มีใครสามารถทำได้
แน่นอน มันคือความลับสุดยอด ที่ทำให้สหรัฐยังเป็นเจ้าโลกอยู่
และทำให้ทัพเรือของพวกเขาไร้เทียมทาน
การเริ่มต้นของจีนในช่วงหลัง ยิ่งตอกย้ำความจริงด้านนี้ได้ดี
ที่สุด ในการยอมรับความเหนือกว่าเหล่านี้
…ไม่ดีจริงๆ พวกเขาคงไม่ก็อปหรอก ถูกไหมล่ะ ….
การแข่งขันทางอาวุธยังคงดำเนินต่อไปบนโลก
ในทุกๆมิติ ตั้งแต่ใต้ทะเลลึก ไปจนถึงอวกาศ
สหรัฐอาจยังเป็นผู้นำในปัจจุบัน
แต่มันก็อาจไม่ใช่แบบนั้นในอนาคต….
1
ในขณะที่จีนตามมา สหรัฐก็ไม่ได้อยู่เฉย
และดูเหมือนพวกเขาจะเปลี่ยนปรัชญาการออกแบบอาวุธอีกครั้งอยู่เหมือนกัน
จากยุค ไฮเทคแต่พึ่งคน
ดูเหมือน สหรัฐจะเลือกการไม่เอาคนไปแนวหน้าเสียแล้ว
1
ในรูปท้ายบทความ คือเรือดำน้ำไร้คนขับของสหรัฐ
ที่กำลังจะเข้าประจำการในอีกปีหรือสองปีนี้
มันเรียกว่า Manta ray หรือเจ้ากระเบนยักษ์
ซึ่งก็เหมาะสมดีกับหน้าตาของมัน
1
มันไม่มีคนขับ ควบคุมจากระยะไกลโดยมนุษย์และ AI
เมื่อไม่มีคน ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นปล่องโพรงเหมือนเรือดำน้ำทั่วไป นั่นทำให้มันดำน้าลึกได้มากขึ้นหลายเท่า
จนลึกเกินกว่าระดับของเครื่องมือตรวจจับใดๆ จะทำได้
มันมีระบบ “กบดาน” ได้นานหลายเดือนหรือหลายปี
คือ มันสามารถดับเครื่องอยู่อย่างนั้นใต้ทะเลได้นานมากๆ
นั่นทำให้การตรวจจับจากโซนาร์ หรือเครื่องมือใดๆ
จะไม่สามารถทำได้เลย
น่ากลัวมากนะ
สมมุติว่า สหรัฐใช้เจ้าเรือดำน้ำแบบนี้แอบดำมาลึกมากๆ
จนเกินการตรวจจับ แล้วจอดทิ้งไว้อย่างนั้นในก้นทะเล
หน้าบ้านจีนได้นานเท่าที่ต้องการ โดยที่จะอย่างไรก็หาไม่เจอ
เพราะเมื่อดับเครื่องยนต์ลง โซนาร์ก็จะอ่านค่ามันไม่ต่างกับ
ก้อนหินก้นทะเลก้อนหนึ่งเท่านั้น
…พอมีปัญหากัน ก็รีโมทสตาร์ทเครื่อง ยิงแบบจ่อๆคู่อริซะงั้น…
…มันน่ากลัวยิ่งว่าไฮเปอร์โซนิคซะอีก ….
…ไว้ข้อมูลมากกว่านี้ จะมาเขียนให้อ่านครับ….
ผมไม่ใช่ทหารเรือ แต่ศึกษาเรื่องเรือรบและยุทธนาวีมา
ค่อนข้างมาก มากกว่าการรบบนบก หรือบนฟ้า
เพราะชอบการรบทางเรือมากเป็นพิเศษ และชอบโมเดลเรือ
จึงศึกษามาตลอด ผมว่ามันเท่ดี ใหญ่ และทรงพลังที่สุด
ในอาวุธทุกแบบ ดังนั้นเลยเขียนเรื่องกองเรือต่างๆค่อนข้างบ่อย 😁
1
โฆษณา