9 พ.ค. เวลา 10:04 • ธุรกิจ

เอสซีจี เปิดเส้นทางสังคมกรีน

ให้โอกาสทุกเจนเปล่งพลังกู้โลกเดือด
เอสซีจี เปิดเส้นทางเดินสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่กรีน ชวนคนมีไฟทุกเจน ทุกเพศทุกวัย ร่วมปล่อยแสง คิดไอเดียหลากนวัตกรรดับความร้อนแรงคาร์บอนสู่กำไร สร้างสังคมกรีน เติบโตเคียงข้างสังคมดี ชีวิตมีคุณภาพ สิ่งแวดล้อมสมดุล ตั้งงบลงทุนหมื่นล้านเปลี่ยนผ่านยั่งยืน
วาระสำคัญของโลกตามพันธสัญญา องค์การสหประชาชาติ (United Naitons-UN) ทุกภาคส่วนจะต้องมุ่งไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ไทยเป็นหนึ่งในประเทศ 198 ประเทศที่ร่วมประกาศเจตนารมณ์ เดินหน้าตามทิศทางโลก ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศของโลก แก้วิกฤติสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง กำหนดเป้าหมายหลักว่าประเทศไทยจะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) และบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emissions) ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065)
เอสซีจี องค์กรที่เป็นผู้นำด้านความยั่งยืนมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อตั้งปี 2456 จนก้าวสู่ปีที่ 111 ได้ประกาศเป้าหมายคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2593 ก่อนเป้าหมายรวมของประเทศ โดยเริ่มต้นเป้าหมายแรกลดคาร์บอนจากกระบวนการผลิตภายในองค์กร 25% ภายในปี 2573 โดยอสซีจีใช้ทรัพยากรธรรมชาติและพลังงานในกระบวนการ
นั่นหมายถึง เส้นทางก้าวไปสู่ธุรกิจคาร์บอนเป็นศูนย์ใช้เวลา 26 ปี (ปี 2567-2593) ที่จะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตภายใน พลังงาน และสินค้าให้เป็นคาร์บอนต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรหมุนเวียน (Circular Economy) โดยที่ธุรกิจยังเติบโตมีกำไร พร้อมกันกับโอบอุ้มสังคมให้เติบโตไปพร้อมกัน จึงถือได้ว่าเป็นผู้พาธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมยั่งยืนควบคู่ไปด้วยกัน ที่เอสซีจี เรียกว่า “Inclusive Green Growth”
เส้นทาง 26 ปี 3 ซีอีโอ
พาองค์กรกู้โลกเดือด
 
นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี มองถึงการเดินทางของการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว สร้างสังคมคาร์บอนต่ำ เป้าหมายปลายทางของเอสซีจี (Purpose) คือ Inclusive Green Growth สู่สังคมคาร์บอนต่ำ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ธุรกิจเติบโต สิ่งแวดล้อมสมดุล และสังคมอยู่ดีมีสุข ภายในปี 2050
“เราพยายามเปลี่ยนแปลงทุกอุตสาหกรรมที่เราผลิต ไม่ว่าจะเป็น ซีเมนต์ , แพคเกจจิ้ง, เคมีคอลส์, ให้ไปสู่ สิ่งที่เรียกว่า โลว์คาร์บอน, ความเป็นกลางทางคาร์บอนจนถึงเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 นั่นหมายถึงอาจจะต้องใช้ซีอีโอของเอสซีจีถึง 3 คน หน้าที่ผม จากวันนี้จนถึงโลว์คาร์บอน ลดให้ได้อย่างน้อย 25% คนที่รับไม้ต่อจากผม จะต้องส่งต่อจากโลว์คาร์บอน ไปสู่ คาร์บอนเป็นกลาง (Carbon Neutrality) และคนที่ 3 จะรับส่งสู่ Net Zero จะเห็นว่า การเดินทางใช้เวลา 26 ปี”
 
3 ความท้าทาย ต้องก้าวข้าม คว้าโอกาส
หมุดหมายที่จะเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่net zero คาร์บอนลด แต่ธุรกิจะต้องเติบโต มีความท้าทาย 3 ประเด็น
1,เทคโนโลยี เราต้องการเทคโนโลยีใหม่ เปลี่ยนพลังงานที่ใช้เป็นพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ มีการปรับโครงสร้างการผลิต ลดการใช้พลังงาน โดยนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนา ซึ่งในปีที่ผ่านมา สามารถลดการใช้ถ่านหินลงได้ถึง 40% และเพิ่มเป็น 50% ในปี 2567 รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างการผลิตสินค้าที่ปล่อยคาร์บอนต่ำ และลดการใช้ทรัพยากร สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ สอดคล้องกันกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Ecoonmy) เช่น การคิดค้น ผลิตปูนลดโลกร้อน… , พลาสติกจากพืช
“เราต้องค้นหาเทคโนโลยีใหม่ เข้ามาช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงาน ปรับปรุงกระบวนการผลิตภายใน และสินค้าให้ลดการปล่อยคาร์บอน”
#เอสซีจี
#possibilities
#SCG
#องค์กรแห่งโอกาส
#ESGuniverse
โฆษณา