9 พ.ค. เวลา 13:30 • ความคิดเห็น
เราอายุ 28 ค่ะ โสดถาวรมาตลอดชีวิต
ตอนนี้พักอยู่คนเดียว จ่ายทุกอย่าง
ล่าสุดเห็นคนพูดถึงการจัดการเงินแบบญี่ปุ่น Kakeibo ที่แยกรายจ่ายเป็น 4 ประเภท: จำเป็น, สิ่งที่อยากได้, ประสบการณ์, และไม่คาดคิด เราก็ลองทำดู จากปกติทำ Zero Budget ที่แยกเป็น รายจ่ายคงที่ รายจ่ายผันแปร ปกติ
พอมาทำ Kakeibo ดูได้วันเดียว รู้เลยทำไมคนญี่ปุ่นถึงเก็บเงินได้และเก็บเก่ง มันเป็นมนุษย์กว่ามากๆ และเห็นชัดเลยว่าอะไรที่ไม่ต้องจ่ายก็ได้ ลดนั่นลดนี่ที่ไม่จำเป็น เห็นชัดจริงๆ
ต้องลองดูจริงๆนะถึงรู้
ไม่มีใครหรอกที่เลี้ยงดูตัวเองไม่ได้
ฟั่นจยาหลัว จากนิยาย Psychic
เรายึดมั่นคำนี้มาก คือไม่ใช้เงินเกินฐานะ เมื่อไหร่เงินน้อยก็ลดสิ่งที่มีลง ลดคุณภาพลง อย่าอยากได้เกินตัว เมื่อพึ่งพาตัวเองได้ ไม่พึ่งคนอื่น ก็ไม่ต้องคอยเอาใจใคร ดูสีหน้าใคร
ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง ซึ่งส่วนตัวเราเคยขายของได้เข้าตัวล้วนๆถึงแสนต่อเดือน แต่พอโควิดมาคือได้หลักพัน แล้วตอนนี้มารับเงินเดือนบริษัทปกติ เรารู้สึกว่าเราผ่านตรงนั้นมา เราเข้าใจแล้วว่าชีวิตคือการยืดหยุ่นได้ ปรับตัวตามชีวิต
แต่ความอยู่คนเดียวกับแมวๆ ก็เหงาจริงๆ บางทีอยากร้องไห้ ก็จะกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ ต้องยอมรับจริงๆว่าคนเรามันรู้สึกเหงาได้ และเหงาจริงๆ ต้องการสังคมและผู้คน (เรา wfh มาเข้าปีที่ 3 ซึมไม่ไหว)
แต่เพื่อนๆยุคนี้คือใช้เงินกันกระหน่ำโซเชียลมาก ออกไปทีราวๆ 1,000 บาท ต่อคน ต้องร้านดีๆเท่านั้นไม่เหมือนคนยุคก่อนที่วันสำคัญเท่านั้นถึงกินดี ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อนๆคือคนที่ยังอยู่กับครอบครัว เลยมีเงินเหลือใช้มาก ไม่มีภาระ (และติด “ชีวิตดี social media”)
เลยทำให้เราห่างจากเพื่อนเพราะเราต้องประหยัด คนมันมี bills แล้วอ่ะ lifestyle ไม่ตรงกับเพื่อนๆแล้ว ก็ไม่อยากออกไปเจอมาก คงต้องรอให้เพื่อนมีภาระของตัวเองเหมือนกัน ถึงจะออกไปกินไรกันถูกๆได้ ความจริงเพื่อนกันออกไปจิบกาแฟถ้วยเดียวคุยกันก็มีความสุขแล้ว แต่เดี๋ยวนี้คนชอบทำให้มิตรภาพมีค่าใช้จ่ายที่แพง
ตอนนี้เราเลยอาศัยป้าๆร้านรวงบริเวณคอนโด พูดคุย สนิทกับเขา มิตรภาพเกิดขึ้นได้รอบตัว community neighborhood คลายความเหงา บรรเทาสุขภาพจิตให้แก่กัน
โฆษณา