5 มิ.ย. เวลา 01:00 • อาหาร
Rimping Supermarket NimCity Branch

ทำความรู้จัก “นมบาริสต้า” (Barista Milk) วิวัฒนาการนมสำหรับชงกาแฟ

ศิลปะการชงกาแฟมีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมีองค์ประกอบสำคัญหลายประการที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงหนึ่งในนั้นก็คือนม โดยปกติแล้วนมที่ใช้ในการชงกาแฟจะเป็นนมสดทั่วไปที่เราใช้ดื่ม แต่อย่างไรก็ตามนมประเภทนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับนำมาชงกาแฟไปซะทีเดียว ดังนั้นจึงมีการพัฒนานมที่เหมาะสำหรับชงกาแฟโดยเฉพาะขึ้นมานั่นก็คือ “นมบาริสต้า” (Barista Milk)
.
นมบาริสต้าได้รับการออกแบบและแปรรูปมาเป็นพิเศษ เพื่อใช้สำหรับการชงกาแฟโดยเฉพาะ เช่น กาแฟลาเต้อาร์ต คาปูชิโน่ เอสเปรสโซ่ รวมไปถึงชาอื่น ๆ อย่างชาเขียว และชาไทย
การใช้นมในการชงกาแฟสามารถย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 17 ในทวีปยุโรป ร้านกาแฟทั่วไปมักจะเติมนมลงในกาแฟ เพื่อสร้างเครื่องดื่มที่หรูหราและครีมมี่มากยิ่งขึ้น ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้บริโภคที่ไม่ชอบกาแฟรสชาติเข้มข้น จนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ปฏิวัติวงการกาแฟขึ้นมาอีกครั้ง โดยเริ่มตีฟองนมสำหรับใส่ในกาแฟเมนูต่าง ๆ
.
เมื่อเวลาผ่านไปจึงมีการพัฒนาเครื่องชงกาแฟที่มีก้านพ่นไอน้ำขึ้นมา ซึ่งถูกนำมาใช้ทำฟองนมครั้งแรกในช่วงปีค.ศ. 1930 โดยการมาถึงของเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ทำให้เหล่าบาริสต้าสามารถตีฟองนมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามเครื่องมือที่ทันสมัยเหล่านี้ไม่ได้เป็นองค์ประกอบเดียวที่ทำให้ฟองนมเนียนนุ่ม เพราะนมก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ ในขณะที่นมวัวยังคงเป็นตัวเลือกเริ่มต้นสำหรับการเตรียมกาแฟมานาน แต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ก็เริ่มมีการพัฒนานมบาริสต้าสำหรับชงกาแฟขึ้นมา
.
นมบาริสต้าได้รับการแปรรูป เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเมื่อถูกตีฟอง มีปริมาณไขมันสูงกว่านมทั่วไป จึงสามารถสร้างฟองนมที่นุ่มละมุนได้ เป็นสูตรเฉพาะที่ไม่ทำให้นมแตกตัวหรือจับตัวเป็นก้อนเมื่อผสมกับกาแฟ โดยฟองนมที่เนียนนุ่มเหล่านี้เหมาะสำหรับการทำลาเต้อาร์ตเป็นอย่างมากและมีส่วนทำให้เครื่องดื่มกาแฟ เช่น ลาเต้และคาปูชิโน่มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น
นอกจากนี้นมบาริสต้ายังมีความสม่ำเสมอในการทำฟองมากกว่าเมื่อเทียบกับนมทั่วไป ตีฟองง่าย ให้ปริมาณฟองที่มากกว่า เนื้อฟองเนียนนุ่ม คงตัวได้ดี ให้รสชาติหอมมัน กลมกล่อม และที่สำคัญยังช่วยรักษาคุณภาพรสชาติของกาแฟได้อีกด้วย
.
นมบาริสต้าได้รับการออกแบบมาให้ทนต่ออุณหภูมิที่สูงขึ้น จึงสามารถรักษาเนื้อสัมผัสและรสชาติเอาไว้ได้ แม้จะโดนความร้อนที่สูง ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่านมที่เติมลงไปในกาแฟนั้นจะไม่ทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป
ถึงแม้นมทุกชนิดจะสามารถใช้กับกาแฟได้แต่นมบาริสต้าจะช่วยเพิ่มรสชาติของกาแฟและยังสร้างลาเต้อาร์ตที่ดูดีขึ้นได้ นมบาริสต้าอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผู้ผลิต ทั้งนี้เนื่องจากนมบาริสต้าสามารถผลิตได้จากนมที่หลากหลายทั้ง นมวัว หรือนมจากพืชต่าง ๆ เช่น ถั่วเหลือง อัลมอนด์ และข้าวโอ๊ต เป็นต้น
.
ในแง่ของรสชาตินมทั่วไปและนมบาริสต้าจะมีรสชาติที่คล้ายคลึงกัน แต่นมบาริสต้าจะมีรสชาติที่อ่อนกว่า เนื่องจากได้รับการออกแบบมาสำหรับจับคู่กับกาแฟโดยเฉพาะ หากรสชาติของนมเข้มข้นเกินไป อาจทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป
อย่างไรก็ตามนมบาริสต้าก็อาจจะไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ดื่มได้แบบนมสดทั่วไป เพราะนมประเภทนี้มีไขมันค่อนข้างสูง หากนำมาดื่มแบบนมทั่วไป อาจจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับไขมันที่ส่งผลต่อสุขภาพ ดังนั้นนมชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับนำมาชงกาแฟโดยเฉพาะ เพื่อสร้างรสชาติที่กลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์
โฆษณา