12 พ.ค. เวลา 07:41 • หุ้น & เศรษฐกิจ

#5หลักการในการประสบความสำเร็จของ Jim Simons

2 วันนี้ แอดเห็นโพสต์ของ Jim ใน Social ค่อนข้างมาก อ่านแล้วน่าสนใจ เลยหยิบมาเล่าให้ฟัง ถ้าตรงไหนเข้าใจไม่ตรงกัน หรือท่านไหนอ่าน “The Man Who Solved the Market” มาแล้ว แชร์กันได้นะครับ
================
1. Do something new. DON’T RUN WITH THE PACK
กล้าทำสิ่งใหม่ๆ หากมีปัญหาเดิมๆ คนจะแก้ด้วยวิธีการเดิม บางทีการลองอะไรใหม่ๆมันก็เป็นทางเลือกที่ดีนะ Jim เองก็ลาออกจากงานที่ดีในช่วงอายุ 40 หลังสนใจในตลาดหุ้น แล้วหันมาสร้างระบบเทรดที่ดี โดยเค้าเชื่อว่าจะทำได้
2. HIRE THE SMARTEST PEOPLE
ตัวอย่างหนึ่งที่ชัดเจนในการบริหารกองทุน คือ การจ้างทีมงานที่หลากหลายสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักคณิตศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ นักฟิสิกส์ เพื่อให้ได้ไอเดียที่แตกต่างออกไป หรือสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมา
ถ้าเรารายล้อมไปด้วยคนเก่ง คนฉลาด ยิ่งทำงานเหล่านั้นจะลึก และสนุกมากขึ้นกับมัน
ตรงนี้เป็นข้อคิดในการใช้ชีวิตที่ดีนะ “เราคือค่าเฉลี่ยของคน 5 คน ที่เราใช้เวลาด้วยมากที่สุด” คือทฤษฎีสุดคลาสสิกของ จิม โรห์น (Jim Rohn, 1930-2009) นักพูดสร้างแรงบันดาลใจชาวอเมริกัน
3. DON’T GIVE UP EASILY
Jim ใช้เวลา 10 ปีสร้างข้อมูล สร้างระบบต่างๆ ช่วงแรกนี่ไม่ได้กำไรเท่าไรนะ ไปย้อนดูได้ แพ้ S&P500 ด้วย แล้วตอนหลังก็เอาชนะได้ เหมือนช่วงแรกสะสมพลังงานก่อน ถึงเวลาก็ทำกำไรรัวๆ
อย่าเพิ่งรีบยอมแพ้ไป บางเรื่องต้องใช้ความพยายาม ความอดทน ก่อนจะถึงวันที่มันจะแสดงผล (แอดชอบข้อนี้มาก)
4. BE GUIDED BY BEAUTY
Jim สร้างกองทุนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาจากโดยไม่ได้จ้างคนจ้าง Wall Street (บริษัทการเงินต่างๆ)
ข้อนี้ตอนแอดแว่บแรกก็งงว่า ให้ความสวยงามเป็นตัวแนะนำคุณ ...ชี้ทางให้คุณ
ก็เลยต้องไปหาบทสัมภาษณ์ของ Greg Zuckerman ผู้เขียนหนังสือ “The Man Who Solved the Market” ที่คุยถึงการพูดคุยกับ Jim
เลยตีความออกมาประมาณว่า ความสวยงาม คือ ความจริง และความจริง คือ ความสวยงาม หาความสวยงามนั้นให้เจอ
ซึ่งแอดเข้าใจว่า ในตลาดหุ้นมันมีโครงสร้าง หรือความเป็นระเบียบบางอย่าง ที่วิทยาศาสตร์ หรือ ตัวเลข สามารถอธิบายให้สอดคล้องกันได้ ซึ่งเขาเห็นมัน
มาถึงตรงนี้แอดน่าจะไม่เข้าใจได้ลึกพอ แต่สิ่งที่คนฉลาดเหล่านี้เข้าใจ น่าจะช่วยให้สามารถทำกำไรได้
*** ใครที่เข้าใจความหมายประโยคนี้บอกเสริมได้นะ
5. HOPE FOR GOOD LUCK
ข้อสุดท้าย มันจริงนะ หวังว่าจะโชคดี และเป็นข้อที่สำคัญที่สุด .... ซึ่งเราได้เห็น Model ของเค้าสร้างผลตอบแทนที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง และในปีที่ตลาดร่วงแรง Hedge Fund ก็ยังสร้างผลตอบแทนเป็นบวกแบบโดดเด่นได้ มันพิสูจน์แล้วว่า คณิตศาสตร์ของเค้าสามารถใช้ได้จริงๆ
กำไรเฉลี่ย 66% ต่อปี แถมขนาดกองหลังปี 2007-2008 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่สร้างกำไรปีละกว่า 5-7 พันล้านดอลลาร์ รวมไปกว่า แสนล้านดอลลาร์แล้ว
มีอันนึงไป search เจอตลกดี >> ปีที่เค้าได้ผลตอบแทนเยอะๆ 2007 2008 136% 152% นี่โดนไปเรียกสอบสวนด้วยนะ แต่ช่วงนั้นขนาดกกองโตมาเกือบ 2 เท่าเลย
=================
บทความของ Ted Merz, CFA ทิ้งท้ายไว้ว่า
Jim Simons ไม่เคยมีชื่อเสียงมากมายแบบ Warren Buffet.
เขาไม่ได้ Tweet หลักการใช้ชีวิตต่างๆแบบ Ray Dalio.
เขาไม่ได้ซื้อีมกีฬาแบบ Steve Cohen.
แต่เขาเป็นที่รู้จักว่า เขาไม่สวมถุงเท้า และชอบสูบ Cigarette
เขาแทบไม่ให่สัมภาษณ์อะไรในสื่อมาก แต่ก็มีหลายวิดีโอของเค้าใน Internet ที่หาดูได้และควรค่าที่จะชม
Simons ไม่ค่อยเขียนอะไรมาก แต่เขาพูดสิ่งที่ดีๆเสมอ
โดย Speech ที่ MIT ของเค้า คือ
“Great people. Great infrastructure. Open environment. Get everyone compensated roughly based on the overall performance… That made a lot of money.”
ขอบคุณ Jim Simons
#FunManager
Source : Ted Merz, CFA
Twocenturies.com >> "Be Guided by Beauty" - conversation with Greg Zuckerman - Part 2
===================
ฝากติดตาม Fun Manager ผ่านช่องทางต่างๆดังนี้
โฆษณา