19 ส.ค. เวลา 09:50 • ประวัติศาสตร์
พิพิธบางลำพู

ประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกเล่า กรณี ศึกษาพิพิธบางลำพู

เมื่อพูดถึงพิพิธภัณฑ์ในความหมายของผู้ทั่วๆไป คือสถานที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล โบราณวัถตุต่างๆที่เก่าแก่มากๆ เอามามาไว้เข้าด้วยกัน เมื่อไปดูความหมายขอพิพิธภัณฑ์ในภาษาไทยนั้น แปลว่า สถานที่เก็บรวบรวมและแสดงสิ่งต่าง ๆ” (พิพิธ-ต่างๆ กัน , ภัณฑ์- สิ่งของ เครื่องใช้) โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาและก่อให้เกิดความเพลิดเพลินใจ พิพิธภัณฑ์จึงทำหน้าที่เป็นแหล่งข้อมูลของพื้นที่ ชุมชน วัฒนธรรม ผู้คน หรืออีกนัยก็ทำหน้าที่เป็นสถานที่ประกอบสร้างความเป็นชาตินิยม
ความเป็นชาตินิยม ผ่านพิพิธบางลำพู บางลำพูที่จัดตั้งโดยหน่วยงานภาครัฐอย่างกรมธนารักษ์ บางลำพูในพิพิธภัณฑ์จึงเป็นการนำเสนอผ่านมุมมองที่รัฐมองว่าดีงามและสวยงามตามจิตนการของรัฐที่กำลังจะบอกว่าชุมชนบางลำพูเป็นดังเหมือนในพิพิธบางลำพู แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่ใช่ความจริงทั้งหมดของบางลำพูทั้งหมด มันเป็นแค่สิ่งที่ภาครัฐเลือกเอามานำเสนอเท่านั้น ประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ถูกเล่าจึงไม่ได้ปรากฏอยู่ในพิพิธบางลำพู หากแต่มันปรากฎอยู่ในวิถีชีวิตชุมชน และคนในพื้นที่ของบางลำพู
ป้อมพระสุเมรุ หนึ่งในสถานที่สำคัญของย่านบางลำพู
คำบอกเล่าจากลุงถนอม ผู้นำในชุมชนบางลำพู คุณถนอมเป็นคนบางลำพูแต่โดยกำเนิดได้เล่าบางลำพูที่แตกต่างออกไปจากจากการนำเสนอของพิพิธบางลำพู บางลำพูในสมัยก่อนนั้นเป็นแหล่งย่านการค้าที่สำคัญ จึงเป็นย่านที่มีผู้คนต่างถิ่นเข้ามาดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพในบางลำพู ทั้งธุรกิจร้านค้า ห้างร้านในบางลำพูหรือแม้แต่ธุรกิจโรงฝิ่นที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับแรงงานที่ต้องการหาความผ่อนคลายจากการทำงานและการคลายความเครียด
โรงฝิ่นในบางลำพู มีเริ่มก่อน ปี 2500 ซึ่งมีตั้งแต่ก่อนที่ลุงถนอมจะเกิด ในสมัยเด็กลุงถนอมก็พบเจอ โรงฝิ่นที่ตั้งอยู่บริเวณหลังห้างแก้วฟ้า ตรงข้ามกับห้าง ตั้ง ฮั่ว เส็ง บางลำพู ในโรงฝิ่นก็จะมี มีหมอน กระเบื้อง สำหรับนอนดูดฝิ่นในโรงฝิ่น ผู้คนที่เข้าไปในโรงฝิ่นมีทั้งจากคนบางลำพูเองและคนต่างถิ่นที่เลือกเข้าไปใช้บริการโรงฝิ่น ซึ่งตรงกับหลักฐานที่ปรากฏบริเวณทวารบาลทีวัดบวรนิเวศวิหารการนำฝิ่นมาทาที่ปากของทวารบาลหรือเซี่ยวกาง ที่บ่งบอกได้ย่านนี้มีโรงฝิ่นอยู่จริง
ภาพทวารบาลที่ประตูวัดบวรนิเวศ ปัจจุบันคราบฝิ่นได้ลบออกไปหมดแล้ว
ต่อมาหลังปี 2500 ก็มีการปราบปรามฝิ่นอย่างจริงจังในยุคสมัยของรัฐบาลจอมพลสฤษฏิ์ทำให้โรงฝิ่นหายไปจากบางลำพู
นอกจากโรงฝิ่นแล้ว ในย่านบางลำพูก็ยังมีซ่องโสเภณีที่เกิดในยุคเดี่ยวกันกับโรงฝิ่นที่รายล้อมรอบๆบางลำพู ลุงถนอมได้บอกเล่าว่า จะมีซ่องโสเภณีมีตั้งแยกบางขุนพรหม จนมาย่านวิสุทธิกษัตริย์ซ่องโสเภณี ในอดีตโรงแรมส่วนใหญ่ในละแวกบางลำพูไปจนถึงวิสุทธิกษัตริย์ล้วนแล้วแต่เคยเป็นซ่องโสเภณีมาก่อน ยกเว้นแต่โรงแรมตรังโรงแรมเดียวที่ไม่เปิดเป็นม่านรูดแอบแฝง(ปริทรรศน์(2552))
ด้านล่างเป็นม่านรูด ชั้น 2-3 ก็จะมีผู้หญิงหากินนอนอยู่ ส่วนใหญ่มาจากทางภาคเหนือ โดยจะมีเอเยนต์จัดหามาส่ง เพราะสมัยก่อนย่านบางลำพูจะติดต่อหน่วยงานราชการสะดวก อยู่ใกล้กระทรวงมหาดไทย เมื่อก่อนกำนันผู้ใหญ่บ้าน กำนันแหนบทองคำมาก็มาเที่ยวแถวนี้ แต่ก่อนที่ดังๆ ก็อย่างโรงแรมกรุงทอง เพนียงทอง ที่ติดกับนางเลิ้ง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเกสต์เฮาส์ให้ฝรั่งเช่า
ปริทรรศน์(2552).ย้อนตำนานซ่องไทย ธุรกิจสีเทาในเงามืด.ผู้จัดการรายวัน.
บรรยากาศด้านในโรงแรม นักเที่ยวจะเปิดห้องแล้วทางโรงแรมจะพาผู้หญิงมาให้เลือกดูตัว หลังจากปี 2500 ซ่องโสเภณีก็ได้ถูกปราบปรามอย่างจริงจังในยุคเดียวกับการปราบปรามโรงฝิ่น
หลังปี 2500 แหล่งอบายมุขที่ภาครัฐมองว่าไม่ดีอย่างโรงฝิ่นและซ่องโสเภณีถูกปราบปราบลง ในขณะเดียวกัน ก็มีการเกิดขึ้นของผับบาร์ ที่เหมือนของฝรั่ง ที่ในยุคนั้น ทหารสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาในประเทศไทยในช่วงของยุคสงครามเย็นธุรกิจเหล่านี้จึงก่อกำเนิดขึ้นเป็นจำนวนมากเพื่อรองรับทหารอเมริกา ที่อยู่ในช่วงระหว่างพักรบในสงครามเย็น มีการเกิดขึ้นของเด็กนั่งดริ๊งค์ในผับบาร์ เมื่อทหารอเมริกากลับไป ก็มีผับบาร์ ก็ได้ปิดลงตามความต้องการที่ลดลง บางส่วนก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นสถานบันเทิงในย่านถนนข้าวสาร
ถนนข้าวสาร เป็นหนึ่งสิ่งที่เกิดมาพร้อมๆกันกับเข้ามาของทหารอเมริกา ในช่วงสงครามเย็น
ในปัจจุบีนนี้แหล่งที่สร้างรายได้และทำให้บางลำพูมีชื่อเสียง คือถนนข่าวสารหากย้อนกลับในสมัยก่อนปีก่อนปี 2500 ย่านถนนสิบสามห้างถือเป็นย่านที่ทันสมัยเต็มไปด้วยแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น ภาพความรุ่งโรจน์ของบางลำพูในยุคถนนสิบสามห้าง มักจะเล่าให้เห็นถึงความทันสมัยใน ณ ขณะนั้น ถนนสิบสามห้างจึงเป็นแหล่งรวมตัวของนักเลงในสมัยนั้น จนทำให้กลุ่มวัยรุ่นมายังพวกตีกันที่ถนนสิบสามห้าง
การยกพวกตีกันที่โด่งดังนั้นก็คือ ศึกสิบสามห้าง ที่นักเลงชื่อดังอย่าง แดง ไบเล่ ได้แจ้งเกิดกับศึกในครั้งนี้ ต่อมาก็ได้กลายเป็นมาเป็นภาพยนตร์ 2499 อันธพาลครองเมือง
ภาพยนตร์ 2499 อันธพาล ครองเมืองก็ได้นำเค้าโครงจากศึก 13 ห้างมาทำเป็นภาพยนตร์ ที่เป็นหนังแจ้งเกิดให้กับ ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี
ความเป็นชุมชนของบางลำพูที่ได้ถูกนำเสนอในพิพิธบางลำพู ยังมีชุมชนนั้นอยู่จริงเพียงแต่การนำเสนอของพิพิธบาลำพูไม่ได้บางเล่าชุมชนในบางลำพูทั้งหมด ไม่ว่าจะเรื่องของวิถีชุมชนชาวบางลำพูที่ได้เปลี่ยนแปลงไป มีคนต่างถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่ในบางลำพูเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นคนไทยจากต่างถิ่นที่เข้ามาทำงานในย่านบางลำพู ชาวต่างชาติ แรงงานข้ามชาติเป็นต้น คนต่างถิ่นเหล่านี้ที่เข้ามาอาศัยในบางลำพู กลับไม่ได้ถูกเล่าพิพิธบางลำพู
ถนนสิบสามห้าง
การใช้ชีวิตของชุมชนในย่านบางลำพูในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นดังในพิพิธบางลำพูได้นำเสนอ แต่วิถีบางลำพูจะต้องผูกติดการเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างถนนข้าวสารเป็นหลักที่ทำให้ชุมชนบางลำพูยังคงดำเนินอยู่ได้ ความเป็นชุมชนของบางลำพูก็แปรสภาพไปตามกาลเวลาผู้คนในท้องถิ่นบางลำพูต่างก็ขายที่ดินเพื่อปล่อยให้นายทุนทำเป็นเกสต์เฮาส์ หรือไม่ก็ปล่อยเช่าทำเป็นเกสต์เฮาส์ ห้องเช่าราคาเพื่อรองรับกับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวถนนข่าวสาร
บางลำพู กับประวัติศาสตร์ที่ไม่ถูกเลือกเพียงเพราะเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับจินตนาการของรัฐ ที่การสร้างภาพจิตนการของรัฐจะต้องผูกติดกับวัฒนธรรมที่ดี ขัดต่อสิ่งที่ดีงามในความคิดของรัฐดังเช่น โรงฝิ่น ซ่องโสเภณี ผับบาร์ นักเลง ทำให้ล้วนแต่ขัดต่อการสร้างชาตินิยมของรัฐโดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดต่อให้มันเป็นสิ่งที่ขัดกันกับความดีงามที่รัฐอยากให้เป็น แต่ในการรับรู้ของผู้คนในชุมชนเดิมที่อาศัยในบางลำพู รับรู้ว่าประวัติศาสตร์ที่ไม้ได้ถูกเล่าโดยรัฐมันก็อยู่ในชุมชนของบางลำพู แล้วมันก็ได้ถูกเล่าผ่านผู้คนในชุมชนบางลำพู
โฆษณา