13 พ.ค. เวลา 05:45 • สุขภาพ

“ชาเขียว” ออกฤทธิ์ช่วยลดความอ้วนและระดับน้ำตาลในเลือด

รู้หรือไม่? ถ้าจะอยากลดน้ำหนักต้องลองกินชาเขียว!? เผยประโยชน์และวิธีการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุด!
ชาเขียว หนึ่งในเครื่องดื่มที่ขึ้นแท่นลูกรักของใครหลายคน เพราะขึ้นชื่อเรื่องความหอมและรสชาติเฝือนเล็กๆเฉพาะตัว กินได้ตลอดทั้งวันไม่เหมือนกันกาแฟที่หลายคนเลือกกินแค่ตอนเช้าเพื่อกระตุ้นให้ตื่น อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงรสชาติได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียวนม ชาเขียวมะนาว ช็อกโกแลตชาเขียว และถูกแปรรูปเป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูปอย่างแพร่หลาย นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ยังนิยมนำไปทำขนมอย่างหลากหลายอีกด้วย
ชาเขียว
ชาเขียว ก็คือ ชา (Camellia sinensis) ที่ไม่ผ่านการหมัก เตรียมได้โดยการนำใบชาสดมาผ่านความร้อนเพื่อทำให้แห้งอย่างรวดเร็ว ความร้อนจะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ทำให้ไม่เกิดการสลายตัว ทำให้ได้ใบชาที่แห้งแต่ยังสดอยู่และยังมีสีที่ค่อนข้างเขียวจึงเรียกว่า
สารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว
  • กรดอะมิโน
  • วิตามิน B, C, E
  • สารในกลุ่มแซนทีนอัลคาลอยด์ (xanthine alkaloids) คือ คาเฟอีน (caffeine) และธิโอฟิลลีน (theophylline) ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางส่งผลให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า
  • สารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ที่เรียกว่า แคททีชิน (catechins) แคททีชินที่พบมากที่สุดในชาเขียวคือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต (epigallocatechin gallate) ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของสารต่างๆ ที่พบในชาเขียวมีผลในการยับยั้งภาวะโรคต่างๆ โดยมีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่าการดื่มชาเขียวมีประโยชน์ต่อร่างกายได้แก่
  • ชาเขียวมีฤทธิ์ในการลดความอ้วน
มีงานวิจัยระบุว่าสารแคททีชินที่พบได้มากในชาเขียวนั้น มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและไขมันจึงส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนักของร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและระดับน้ำตาลในเลือด
มีงานวิจัยทางคลินิคพบว่าชาเขียวมีฤทธิ์ต่อต้านการเกิดโรคของหลอดเลือดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาเกี่ยวกับการดื่มชาเขียวมีผลช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งต่าง ๆ
ทั้งนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดยืนยันการทดลองและสรุปผลว่าชาเขียวสามารถรักษาโรคมะเร็งได้
เห็นประโยชน์เยอะแบบนี้ อย่าเลือกกินผิดนะคะ เพราะเครื่องดื่มสำเร็จรูปและขนม อาจเต็มไปด้วยน้ำตาล และครีมเทียม ซึ่งอาจจะกระทบต่อสุขภาพมากกว่าได้ประโยชน์ ดังนั้นการดื่มชาเขียวที่ชงเองนอกจากจะได้รับรสชาติและกลิ่นหอมแท้จากชาเขียวแล้วยังได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีกว่าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูป
ชาเขียวร้อน 1 ถ้วยมี แคททีชิน ประมาณ 100 - 200 มก. จากข้อมูลงานวิจัยความเป็นพิษของชาเขียวที่กล่าวไว้เบื้องต้น ในแต่ละวันจึงไม่ควรดื่มเกิน 10 - 12 ถ้วย
ทั้งนี้ชาเขียวยังมีคาเฟอีนเช่นเดียวกับกาแฟถึงแม้จะน้อยกว่า แต่การดื่มในปริมาณสูงอาจส่งผลให้นอนไม่หลับได้ ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมโดยการชงใบชา 1 - 2 ช้อนชาในน้ำร้อน วันละ 3 ถ้วย ในระหว่างมื้ออาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา