13 พ.ค. เวลา 16:59 • นิยาย เรื่องสั้น

เพราะไม่คิดไตร่ตรอง ไม่คำนึง ไม่นึกถึงความเหมาะสม จึงเสียเวลาชีวิต..

หลังจบการศึกษา ม.ต้น ก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำงาน วันหนึ่งเพื่อนชวนไปทำงานด้วย ที่กรุงเทพฯ
ความที่อยากรู้ อยากเห็น จึงได้ตัดสินใจไปอยู่กับเพื่อนที่กรุงเทพฯ ในวัย 17 ปี นี่คือช่วงลำบากที่สุด
เนื่องจาก โรงงานที่อยู่แถวนั้นรับอายุขั้นต่ำ 18 ปีบริบูรณ์ ผมได้อาศัยร้านค้าขายของชำร่วย ที่แบ่งห้องให้เช่าห้องเล็กๆอยู่กับเพื่อน ราคา 800 บาท ข้างคลองภาษีเจริญ ส่วนเพื่อนผม ที่ชวนผมมาอยู่ด้วย ได้มีงานทำอยุ่ก่อนแล้ว เนื่องจากมีคนฝากงานให้ ส่วนผมผู้ที่มาใหม่นั้นหางานไม่ได้เลย
ผมเดินหางาน ไม่มีโรงงานไหนรับเด็ก 17 ปีเข้าทำงานเลยสักบริษัท ผมเริ่มท้อและเงินที่เหลืออยู่ ก็เหลือเพียงน้อยนิด ผมเดินหางานไปพบกับชายคนหนึ่ง ที่มีหน้าตาซึมเศร้าดวงตาแดงกล่ำ นั่งสะพานกระเป๋าอยุ่ในร้านค้า ผมได้พูดคุยก็ได้รู้ว่า พี่ชายคนนี้ก็ออกเดินหางานเช่นกัน แต่ไม่มีโรงงานไหนรับแกเลย ผมกับพี่ชายคนนั้นก็เหมือนตกที่นั่นลำบากด้วยกัน ผมคิดถึงพ่อกับแม่มาก คิดเสียดายไม่น่ามาเลย หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อนผมก็ได้ย้ายออกจากห้องและกลับต่างจังหวัด ที่จริงผมรู้ทีหลังว่า
เพื่อนผมทำผู้หญิงท้อง มาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากนั้นผมก็ได้อยู่คนเดียว ผมโชคดีที่ได้พี่ที่อยู่ข้างห้องนั้นช่วยหางานให้ ผมไม่มียานพาหนะ ผมอาศัยเดินไปและเดินกลับทุกวัน ผมทำงานอยู่ที่นั่นไม่มีเงินส่งกลับบ้าน เลยสักบาท ผมได้รู้จักกับเพื่อนมากมายที่อยู่ในโรงงานนั้น ในช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมเที่ยวมากสุดๆ ผมจำได้ว่าผมโทรขอตังค์แม่ที่บ้านส่งมาให้ ผมตัดสินใจไปหางานฝั่งสุขาบาล 3 กรุงเทพฯ โดยมียายผมอยุ่ที่นั่น ผมเดินออกหางานอีกที ไม่มีโรงงานไหนรับผมอีกตามเคย ผมได้ไปอาศัยยาย อยุ่สักพัก
ผมออกหางานอีกที และโชคเข้าข้างผม ได้งานเป็นเด็กฝึกงานช่างเชื่อม ผมได้ไปหลายแห่งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ผมได้รู้จักกับพี่ที่ทำงานนั้นเขาชวนผมไปอยู่ด้วย ซึ่งผมตัวคนเดียวผมจึงเก็บกระเป๋าไปอาศัยอยุ่ด้วย พี่ชายคนนั้นอยุ่กับพี่น้อง หลายคน อย่างน้อยผมมีที่ซุกหัวนอน แต่ก็แลกกับอะไรบ้างอย่าง เช่น เงินหายบ่อยมาก นอนไม่ค่อยหลับเพราะอยู่หลายคน แต่ก็ยังเจอมิตรดีอยุ่บ้างในบ้านหลังนั้น
ที่ร้านเหล็ก ผมก็โดนรุ่นพี่เข้าใจผิด โดนเตะ โดนปา รองเท้าใส่ ที่จริงเขาคงจะโมโห เพราะเสียเงิน พวกเขาแอบเล่นไพ่ ตอนที่เถ้าแก่ไม่อยู่ เป็นประจำ ดีที่พี่ชายที่ผมอยู่ด้วย เข้าไปห้ามไวและปกป้องผม ผมจึงอยู่มาได้
ผมนึกอยู่บ่อยครั้งว่า ไม่น่าตัดสินใจมาแบบนี้เลย อายุไม่ถึงเกณฑ์ มันไม่มีใครรับเข้าทำงาน และ หางานยากลำบากมาก ผมยังโชคดี ที่ยังได้เจอกัลยาณมิตรที่ดี ในระหว่างที่ผมออกจากบ้านมา ผมนึกเสียดายเวลาที่เอามาทิ้งอยู่ในกรุงเทพฯช่วงอายุ 17 ปี ผมน่าจะไปเรียนต่อสายอาชีพ ช่างแอร์ ช่างตัดผม ช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์ หรือ อีกหลายวิชาชีพ หลังจากอยู่ร้านเหล็กดัด อายุ 18 ปีบริบูรณ์ ผมก็ย้ายไปทำงานอยู่ที่เขตอื่น จวบจนถึงปัจจุบัน ผมก็ได้ทำงานอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรมโรงงานแห่งหนึ่ง อยู่ในจังหวัดระยอง
ขอบคุณทุกท่านครับ ที่เข้ามาอ่าน บทความนี้🙏
โฆษณา