16 พ.ค. เวลา 09:41 • การเกษตร
นครพนม

นครพนม ประสบความสำเร็จสวนแรก ทดลองปลูกสละอินโดสายพันธุ์ “น้ำผึ้ง-เขียวมรกต”

“ตอนแรกที่ทำมีคนถามว่าจะขายให้ใคร ขายที่ไหน เราท้อมากจากคำพูดของคนรอบข้าง ผมอยากให้คิดแบบนี้ว่า ไม่มีใครแบกความสำเร็จมาขาย ไม่มีใครตายเพราะความมุ่งมั่น ไม่มีอุปสรรค์ใดที่ไม่ฝ่าฟัน ขอเพียงอย่าท้อ ฝันเป็นจริงแน่นอน”
นี่เป็นคำสัมภาษณ์ของคุณประยงค์ มีรัตน์คำ (พี่เสือ) อายุ 42 ปี เกษตรกรผู้ปลูกสละอินโด ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม พลิกผืนแผ่นดินจากการทำนาข้าว จำนวน 5 ไร่ หันมาทำสวนสละอินโดนีเซียอย่างจริงจังจนได้ผลผลิตที่น่าพอใจ พี่เสือบอกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนาข้าว การปลูกสละอินโดได้ผลผลิตมากกว่า ลงทุนครั้งเดียวสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 25 ปี แถมยังดูแลง่ายอีกด้วย
กรอบ หอม หวาน มัน (เหมาะกับสายรักสุขภาพ)
สายพันธุ์ที่นำมาปลูก เป็นสายพันธุ์น้ำผึ้งและเขียวมรกต ลักษณะของผลมีขนาดใหญ่ บางลูกน้ำหนักถึง 200 กรัม มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ คือจะมีความหวาน มัน กรอบ ร่อนเม็ด เปลือกบาง และเนื้อแน่น เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ เพราะสวนของพี่เสือได้รับการควบคุมการใช้ปริมาณปุ๋ยเคมีจากกรมวิชาการเกษตร ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจมากขึ้น บางรายถึงขั้นเดินทางมาซื้อถึงหน้าสวน
“สร้างที่นาให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เราลงทุนแค่ 1 ปี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตมากถึง 25 ปี ต้นทุนการทำสละต่ำกว่าการทำนา คือเราแค่ตัดตกแต่งกิ่ง ผสมเกสร และรดน้ำใส่ปุ๋ยแค่นั้นดูแลไม่ยาก สำหรับราคา หน้าสวนกิโลกรัมละ 100 บาท และขายผ่านทางออนไลน์ ราคากิโลกรัมละ 130-150 บาท”
การวางแผนพื้นที่เพาะปลูก เว้นระยะห่างของแถว 3 เมตร และเว้นระยะห่างของแต่ละต้น 2.50 เมตร การดูแลจะเน้นใช้ปุ๋ยชีวภาพจำพวกมูลสัตว์ หรือขี้วัว ผสมกับปุ๋ยเคมีบางส่วน ซึ่งไม่เกิน 2 กิโลกรัมต่อต้นต่อปี พร้อมกับการรดน้ำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง (พุธ และอาทิตย์) เพื่อให้พื้นที่ของสวนมีความชื้นตลอดเวลา และเมื่อครบ 2 ปีครึ่ง ถึง 3 ปี ต้นสละจะเริ่มให้ผลผลิต โดยเฉลี่ย 1 ต้น จะให้ผลผลิต 50-80 กิโลกรัมต่อปี หรือประมาณ 10 ช่อต่อ 1 ต้น
“ปีก่อน ๆ จะให้ผลผลิตช่วงต้นเดือนมิถุนายน แต่ปีนี้ออกเร็วกว่าทุกปีตั้งแต่เดือนเมษายน (หลังสงกรานต์) แต่ก็อยู่ที่การดูแลด้วยส่วนหนึ่ง แต่เท่าที่ดูปีนี้ผลผลิตน่าจะมีถึงเดือนธันวาคม”
ตัดเก็บสด ๆ จากสวน
สำหรับราคาขายจะยืนพื้นไม่เกิน 150 บาทต่อ 1 กิโลกรัม (การสั่งซื้อผ่านออนไลน์) เนื่องจากไม่มีพ่อค้าคนกลางเข้ามาควบคุมกลไกการตลาด เพราะในพื้นที่ของนครพนมมีเพียงสวนเดียว พี่เสือยังบอกอีกว่า ราคานี้เป็นมาตรฐานของสวนที่ขายมานานในระยะเวลา 9 ปี หากคนซื้อพอใจในราคาที่กำหนด และคนขายสามารถอยู่ได้ ก็ถือเป็นการส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ด้วยกัน
การก้าวข้ามกำแพงความกลัวและผลของการลองผิดลองถูกมานาน 12 ปี มีผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ถึงสวนกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สำนักงานเกษตรในพื้นที่เตรียมยกระดับให้เป็นศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าทางการเกษตร และศูนย์เรียนรู้ไม้ผลให้กับเกษตรกรในจังหวัดนครพนม โดยเฉพาะกลุ่มที่ปลูกสละอินโด เพราะถือเป็นรายแรกที่ประสบความสำเร็จในพื้นที่
ชิมกันสด ๆ ในสวนพี่เสือ
ว่าที่ ร.ต.อาทิตย์ อุ่นนาแซง เกษตรตำบลหนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม บอกว่า ด้วยความตั้งใจของตัวเกษตรกรเองในการเรียนรู้และพัฒนาเรื่องของการปลูกสละอินโดมายาวนานกว่า 10 ปี สำนักงานเกษตรในพื้นที่ต้องการที่จะส่งเสริมช่วยสนับสนุนเกษตรกร ในการยกระดับอาชีพและรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชในพื้นที่ที่เหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่นั้น ๆ และประสบการณ์ของเกษตรกรเอง โดยจะมีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุนในเรื่องวิชาการ
ส่วนผู้ที่สนใจเข้าไปศึกษาเรียนรู้ หรือต้องการเมล็ดพันธุ์สละอินโดไว้เพาะปลูก สามารถเข้าไปพูดคุยกับพี่เสือที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกไม้ผลและแปรรูปไม้ผลเรณูนคร 1 เลขที่ 221 หมู่ 4 บ.โนนสะอาด ต.หนองย่างชิ้น อ.เรณูนคร จ.นครพนม สอบถามที่หมายเลขโทรศัพท์ 087-855-5692 พี่เสือยินดีให้ข้อมูลกับทุกคนที่สนใจการปลูกสละอินโดสร้างอาชีพ
เนื้อแน่น เนื้อละเอียดเม็ดทราย
#ปลูกสละ #สวนเกษตรนครพนม #สวนสละอินโด #เกษตรกรนครพนม #นครพนม #สร้างสรรค์พื้นที่สื่อโฟกัสตรงประเด็น #NKP #NKPFOCUS
โฆษณา