18 พ.ค. เวลา 04:00 • สุขภาพ

“พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตําลึงทอง”

“Silence is golden”
ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับประโยคในข้างต้นเป็นอย่างดี
ประโยคเหล่านี้ต้องการจะสื่อถึงข้อดีของการนิ่งเงียบเวลาที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การนิ่งเงียบใช่ว่าจะเป็นสิ่งที่ดีเสมอไปครับ
เพราะเวลาที่เรานิ่งเงียบนั้น คู่สนทนาของเราอาจจะไม่รู้ว่าความเงียบของเราหมายความว่าอย่างไร
มันอาจนำมาสู่การตีความความเงียบของเราได้ในรูปแบบต่างๆนานา
ยกตัวอย่างเช่น
เงียบ = ไม่ได้สนใจฟังตั้งแต่แรก
เงียบ = กำลังอึ้ง ตกใจ สมองตื้อ หรือ “ไปไม่เป็น” อยู่
เงียบ = ไม่อยากพูดสิ่งที่คิดออกมาชัดๆ เพราะมันจะเป็นการหักหานน้ำใจมากเกินไป (เช่น “ฉันไม่เห็นด้วย” “ฉันไม่ได้สนใจคบกับเธอเป็นแฟน”)
เงียบ = กำลังพูดอยู่ เพียงแค่กำลัง “เว้นช่องไฟ” ตอนนี้เท่านั้น
เงียบ = กำลังคิดพิจารณาสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งจะพูดไปอย่างละเอียดอยู่ (เช่น อีกฝ่ายถามว่า “ฉันชอบเธอนะ เธอคิดยังไงกับฉันบ้างเหรอ?”)
เป็นต้น
ฉะนั้น หากเราไม่ต้องการที่จะให้ความเงียบของเราถูกคู่สนทนาตีความไปในทิศทางที่ผิดจากความตั้งใจของเรา แทนที่เราจะเงียบ (และปล่อยให้อีกฝ่ายตีความความเงียบของเราเอง) เราอาจจะ “เฉลย” ความหมายของความเงียบของเราให้อีกฝ่ายฟังตรงๆเลยดีกว่าครับ
ยกตัวอย่างเช่น “ฉันฟังเรื่องราวเลวร้ายต่างๆที่เธอเจอในที่ทำงานของเธอแล้ว ฉันยอมรับว่าฉันตกใจจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเลยจริงๆ” เป็นต้น
การทำแบบนี้น่าจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดได้เยอะเลยทีเดียวครับ
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา