19 พ.ค. เวลา 02:43 • ความคิดเห็น
ค่อยทบทวน พิจารณากัน ย้อนไปตั้งแต่ กายที่เราอาศัย อยู่ในท้องแม่ กายนี่ ..มันเกิดขึ้นเองหรือ หากไม่มีพ่อแม่ มีความสัมพันธ์คล้องกรรมกัน จะเกิดมีกายขึ้นมามั๊ย กายนี้เติบโตในท้องแม่ จะครบอาการสามสิบสองมั้ย ร่างกายจะแข็งแรงมั้ย สติปัญญาเป็นปกติ สามารถที่จะเรียนรู้อะไรต่างๆได สามารถพิจารณาเหตุผลคิดคำนวนจดจำอะไรต่างๆได้
พอออกจากท้องแม่ ร้องกระแว้ ..ร้องทำไม ..เวลาหิวก็ร้อง ฉี่อึก็ร้องกระแว้ ใครช่วยให้ .ถ้าไม่มีคนช่วยหลังจากออกจากท้องแม่ ..กายที่เป็นมนุษย์จะเป็นอย่างไร มันไม่เหมือนกายสัตว์ มีพ่อแม่เป็นสัตว์ หมูหมากาไก่ เกิดว่าพักเดี๋ยว แป็บเดียว ..ตัวสั่น ก็กระดุกกระดิก เดินวิ่งเล่นได้แล้ว
เอาล่ะ..คราวนี้ ค่อยดูทบทวนดู ที่กาย ..กายนี้มาจากไหน ทำไม่เราถึงมีกายนี้เป็นมนุษย์ ทำไมเราไม่มีกายเป็นหมูหมากายไก่ กายมนุษย์ก็มีพ่อแม่ กายสัตว์ก็มีพ่อแม่ ในกายมนุษย์กายสัตว์ ต่างก็มีจิตไปอาศัย ตัวเราก็เป็นดวงหนึ่ง ทำไมจึงได้กายมนุษย์พ่อแม่เป็นมนุษย์ ทำไม่ไปอาศัยในกานสังขาร มัพ่อแม่เป็นสัตว์
แล้วตัวเราเป็นอะไร ทำไมมาอาศัยในเรือนกายนี้ กายนี้เอาไปทำอะไรบ้าง เอาไปกิน ไปนอน สนุกสนาน หากินหานอน ..แล้วสัตว์ล่ะ เค้าใช้กายเค้าไปทำอะไร ..ก็เอาไปหาที่กิน ที่นอน ..การกินการนอน ของกายสัตว์กับกายมนุษย์ แตกต่างกันอย่างไร
..นี่ถ้าเราเป็นจิตไปอาศัยกายสัตว์ ..มีพ่อแม่เป็นสัตว์ สงเคราะห์ให่มีกายเป็นสัตว์ ให่ตัวเราไปอาศัยจิตของเราอาศัย เราก็ต้องรับสภาพ หากินเยี่ยงอย่างสัตว์เดรัจฉาน อะไรสกปรกเลอะเทอะ ที่กินที่นอน จิตที่อยู่ในกายสัตว์ เค้าไมรับรู้ ไม่รู้จัก ..จิตไม่รับรู้อะไรเลย ..นั่นแหละอวิชชาเต็มตัว ห่อหุ้มจิตที่อาศัยในกายสัตว์มีพ่อแม่เป็นสัตว์
คราวนี้ เราได้โอกาส โชคดี มีพ่อแม่เป็นมนุษย์ มีความประเสริฐอันหนึ่งคือ การที่อาศัยกายพ่อแม่เป็นมนุษย์ จิตที่อาศัยกายมนุษย์ สามารถมาทำความรู้จัก เรื่องราวของพระคุณพ่อแม่ ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้ ..จิตที่ทำได้ เค้ากได้คำว่าจิตประเสริฐ มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่เป็นกายมนุษย์ จิตอาศัยในกายสัตว์มันทำไม่ได้
คราวนี้ในกายอาศัยกายมนุษย์ เอาไปทำชั่วก็ได้ สร้างบุญกุศลบารมีได้ แต่เค้าว่า จิตที่ไม่มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ ก็ไม่สามารถนำกายนี้ไปสร้างบุญกุศลบารมีได้ เค้าจะนำไปสร้างได้แต่สิ่งที่เป็นกรรม เรียกร้องหากรรมให้เพิ่มพูนขึ้น ให้มีที่กินที่นอนดีๆ เค้าทะเยอทะยาน มีอารมณ์โลภโกรธหลงนำพาไป
เค้ามีตาหู ไว้ดูสิ่งนั่นนี้ เหมือนกายสัตว์ทั่วไป ไม่สามารถมาอยู่นิ่งๆเฉย ทบทวนมองเข้าไปในกาย ทบทวนจิตใจได้เลย รู้จักคำสอนดีได้ ..คำสอนที่บอกว่าให้สร้างบุญกุศล เค้าได้ยินเค้าก็เร้าร้อน ทุกข์ทรมานด้วยอารมณ์ทิฐิ เห็นตัวเองดีแล้ว
..แล้วอยู่ๆ ก็หมดความเป็นไปของการมีกายเป็นมนุษย์ ครบอาการสามสิบสอง ค่อยๆหมดไป..จนกายนี้หายไป ไม่มีกายนี้เดินไปมาในโลกอีก ไม่มีใครเห็นกายนี้ ที่เคยเดืนไปมาในโลก .นี่..เก่งนะเนี่ย ..หายตัวไปจากโลกได้. ..ไม่ต้องไปนั่งท่องคาถาอาคม ไปนั่งบำเพ็ญตบะ ให้มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศ ..มันถึงเวลา มันหายตัวได้เอง หายตัวตามกันไปได้ทุกคน ..ไม่รู้ว่าหายตัวไปไหน ไปอาศัยกายพ่อแม่ เป็นมนุษย์หรือสัตว์ หรือ เปรตอสุรกาย ..ไปแบบไม่รู้
ส่วนผู้ที่รู้ เค้าเกิดมาพบรอยคำสอนพระพุทธเจ้า เค้าก็สร้างบุญกุศลบารมี เอากายที่อาศัยมาเรียนรู้ ทำทานทำบุญ ปฏิบัติธรรม สร้างกายให้มีบุญกุศล แล้วอาศัยกายบุญนั้น มาปฏิบัติธรรม กายที่เป็นก็ชำระสะสางอารมณ์กรรม ตัวกระทำ ได้ง่ายขึ้น ..มีสติสัมปชัญญะรู้จักกรรม มีสติสัมปชัญญะรู้จักธรร เค้าก็อาศัยเรือนกายพ่อแม่ สร้างบุญกุศล หนีเวรกรรม มีเพียงกายมนุษย์ที่พ่อแม่ให้มา ครบอาการสามสิบสอง สามารถกระทำได้ ให้รู้จักกรรม รู้จักธรรม ..ให้กายเป็นบุญ จิตมีธรรม
โฆษณา