19 พ.ค. เวลา 03:12 • ความคิดเห็น
เพราะไม่มีฆราวาส คนไหน มีความสามารถ ที่จะบรรลุธรรม ทั้งกายทั้งจิต กายวาจาใจ วิญญาณทั้งหก ไปถึงธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เลย
คำว่า พระอรหันต์ ตั้งแต่หลังต้นพุทธกาล ไม่มีใครสามารถบรรลุธรรมท่านได้ การเป็นพระอรหันต์ ใครล่ะที่จะรับรองว่า สำเร็จบรรลุธรรมของท่านได้ .. เรื่องพระอรห้นต์ นั้น ท่านก็ห่มผ้ากาสาวพัสตร์ กายของท่านก็ ไม่วุ่นวาย ไม่มีอารมณ์หิวกระหายอีกแล้ว นานๆท่านก็ฉันอาหาร เพื่อประทั้งสังขาร เอาธาตุนอกมาเสริมธาตุใน ฉันนิดหน่อยกายนี้ก็อยู่ได้ เพราะกายนั้นไม่มีอารมณ์ โลกโกรธหลง อารมณ์กรรมต่างๆ ตัวกระทำต่างๆไม่มี ..
ที่ว่า เป็นพระอรหันต์ ..ใครแต่งตั้ง ฆราวาสแต่งตั้งให้หรือ ก็มาศึกษาธรรมขององค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากว่า บรรลุธรรมของท่าน ที่ไม่มีอะไรปิดบังจิตได้ เค้าก็ย่อมสามารถ เข้าเฝ้ากราบ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ จิตสามารถที่จะไปศึกษาเรื่องราวต่างๆได้ในจักรวาล มีอยู่คำหนึ่ง จิตของท่านเหมือนเป็นดินฟ้าอากาศ ไม่อะไรยึดถือ บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่มีอะไรขัดขวางท่านได้
แล้วการที่ยุติการเกิด จิตเป็นธรรมแล้ว ท่านไม่มีเรื่ิองราวให้เกิด ..เรื่องหากิน หานอน ท่านไม่มีอีกแล้ว หมดสิ้นเรื่องแล้ว จิตไม่มีอารมณ์..สะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ .ที่เค้าว่า จิตสามารถเข้าไปสถิตย์ในธรรมจักรได้ ที่เขียนนี่ ..ก็กลัวนะ ..แต่นั้นแหละ ก็เขียนแบบ รู้งูๆปลาๆไป ..ไม่รู้จัก พระอรหันตท่านเลย
มีผู้เล่าให้ฟัง จิตที่มาจากชั้นอินทร์ชั้นพรหม ท่านสะสมบุญกุศลเก็บไว้กับธาตุทั้งสี่ สะสมเรียนรู้อะไรต่างๆ มากับจิต ..พอมาเกิดเป็นมนุษย์ ..พบเจอะร่องรอยคำสอน ..ก็ไปสะกิดจิตของเค้าให้ สร้างบุญกุศล เห็นเรื่องทานบุญกุศลมีความสำคัญ ในการมีมาอาศัยกายมนุษย์
..เค้ารู้จักพระคุณพ่อแม่ เพราะมีความสำคัญ ที่สงเคราะห์จิตของเค้า ..ให้ได้อาศัยกายพ่อแม่ สร้างบุญกุศล เค้าก็ตอบแทนคุณพ่อแม่ ให้กายนี้เป็นกายบุญ ส่งคืนบุญกุศลให้พ่อแม่ พ่อแม่ก็ได้รับบุญกุศลจากการที่ บุตรธิดาใช้กายพ่อแม่ สร้างบุญกุศลบารมี นันจึงมีคำว่า นะโม ..เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า
มีผู้บอกว่า ..เมื่อไม่รู้จักพระคุณพ่อแม่ ไม่รู้จักพระคุณธาตุทั้งสองพ่อแม่ มีมีความกตัญญูรู้คุณภายในจิต มีความความนอบน้อมในธาตุทั้งสองที่สงเคราะห์จิต ก็อย่าหวังว่า จืตจะศึกษาธรรมได้ จืตศึกษาธรรม..ปฏิบัติธรรม ไปตามคำสอนของได้เลย
เพราะสิ่งเหล่านี้ ที่จิตหลงใหลอยู่ จะทำให้ เร่าร้อน ไม่สามรถที่จะฟัง ธรรม ..คัดเอ้าท์ กรรม..ได้เลย ..เค้าจะหงุดหงิด ลุกลี้ลุกรน กระสับกระส่าย ..ด้วยสิ่งที่เค้ายึดถืออยู่ ให้จมอยู่กับกรรมด้วยอารมณ์โลภโกรธหลง แม้ทำบุญทำทาน เค้าก็ทำเพื่อเรียกหากรรม ให้มีกรรมทับถมกายใจให้เพิ่มพูนขึ้น
เหมือนกับว่า เค้าให้นั่ง รวบรวมกายวาจาใจ อะไรต่างให้มีว่า พุทโธอย่างเดียว ทำไม่ได้ ..ของง่ายๆไม่วุ่นวาย นั่งเดิน ให้จิต อยู่กับพุทโธ กายนิ่งๆน่ะ จิตเฉยนะ ยอกตัวเอง ..แต่มันก็ทำไม่ได้
ยิ่งที่เค้าชอบไสยศาสตร์ พ่อมดหมดผี หมอ ..อะไร ก็ทำไม่ได้ แต่นั่งคิดเรื่องนั้นนี้ คนนั้นคนนี้ นั่งคิด นอนก็คิด ..ทำได้ .. แต่ไม่ให้ติดอะไรเลย..มันทำไม่ได้ จะฟุ้งซ่านหงุดหงิด ..ละไม่ได้เลยกับอารมณ์นึกคิด บางที่นั่งๆ อารมณ์อุปโลกน์ให้ ข้าพเจ้าบรรลุธรรมแล้ว เป็นผู้ยิ่งใหญ่ แต่ทำมาหากินเองนไม่ได้ ไปๆมาๆ เอ๊ะ ..อรหันต์นอนติดเตียง .ยังหิวโหย หิวก็กิน เจ็บก็โอดครวญ กอดกรรมเอาไว้
โฆษณา