Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าเรื่องเรื่องเล่า
•
ติดตาม
20 พ.ค. 2024 เวลา 09:41 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ประสบการณ์ดูงานที่จีน
เขียนถึงไปประเทศนั้นประเภทนี้ถ้าผู้อ่านเรื่องเล่าของผมบ่อยๆก็จะสงสัยเหมือนกัน
แต่ก่อนผมทำงานเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทร่วมทุนต่างชาติแห่งหนึ่งมีร่วมทุนไทยญี่ปุ่นไต้หวัน และขายของให้บริษัทต่างๆแล้วแต่บริษัทต่างประเทศไหนจะเข้ามาติดต่อและจอยสินค้าร่วมกัน
หุ้นส่วนใหญ่จะเป็นคนไต้หวันมีบริษัทที่ไปตั้งอยู่ทั่วโลกทั้งในไต้หวันจีนญี่ปุ่นไทยอเมริกาแต่ส่วนมากบริษัทขายสินค้าของญี่ปุ่นและไต้หวันเป็นหลักสินค้าของหุ้นส่วนญี่ปุ่นหุ้นส่วนน้อยแต่มี power ในบริษัทค่อนข้างมาก
บริษัทส่งผมไปดูงานไปอบรมในหลายๆประเทศเพื่อเข้าใจตัว products ของสินค้าที่จะเอามาขายและนำมาสอนให้กับฝ่ายขายทุกคนต่อไป
จั่วหัวให้ฟังก่อนเดี๋ยวจะหาว่าเอามาเล่ามั่วๆ
เอาเรื่องไปจีนบ้านแล้วกัน ตอนนั้นจะต้องไปเซี่ยงไฮ้ไปพักอยู่ที่นั่น 1 คืนและไปโรงงานที่อยู่ชานเมืองของเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างไต้หวันกับญี่ปุ่น เรื่องนี้น่าจะ 20 กว่าปีมาแล้วยังไม่มีบริษัทต่างชาติไปลงทุนที่จีนมากนักส่วนใหญ่จะเป็นพวกเยอรมันอเมริกาแต่ที่หลักๆที่ไปจีนจะเป็นไต้หวัน
ดูข่าวว่าจีนจะบุกไต้หวันอย่างนั้นอย่างนี้แต่จริงๆพอจีนเปิดประเทศบริษัทเอกชนและโรงงานไต้หวันเข้าไปลงทุนที่จีนมากมายมหาศาล เขาบุกไปจีนก่อนแล้ว 2 ประเทศนี้มันพัวพันกันเรื่องทางเอกชนเยอะคงไม่มีทางทำสงครามกันหรอก
ไปดูโรงงานที่จีนซึ่งเป็นโรงงานญี่ปุ่นที่ว่ามีไต้หวันร่วมด้วยผลิตสินค้าของญี่ปุ่นซึ่งขายในจีนเป็นหลักคนงานส่วนใหญ่เป็นคนจีน เรื่องงานไม่ค่อยอยากคุยเอาเรื่องคนดีกว่า
พอดีว่าไปที่จีนก็ไปเจอเลขาของคนญี่ปุ่นคนหนึ่งเป็นผู้หญิงพูดได้ถึง 3 ภาษาคือญี่ปุ่นไทยจีน ที่น่าตกใจคือผู้หญิงคนนี้เงินเดือนคิดเป็นเงินไทยแล้วแค่ 8,000 บาทเองตอนนั้นถ้าจำไม่ผิดเงินเดือนจบปริญญาตรีของไทยอยู่ที่ 9,000 บาท อันนี้หลายปีมาแล้วนะลองเช็คเอาเองแล้วกันว่ากี่ปีน่าจะ 20 ปีขึ้น แต่สิ่งที่แปลกใจยิ่งกว่าหรือพนักงานออฟฟิศในจีนที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีร่างกายท้วมๆเกือบๆอ้วนๆกันทั้งนั้น
พอดีที่เราไปก็มีคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ก็เลยอดถามเข้าไปตรงๆไม่ได้ว่าทำไมพนักงานผู้หญิงที่ออฟฟิศส่วนใหญ่จะมีแต่อ้วนๆไม่ค่อยมีสาวๆสวยๆหุ่นดี
ตอนนั้นนะคนจีนจะไม่ค่อยนิยมผู้หญิงผอมๆหุ่นดีๆแต่จะนิยมผู้หญิงที่ทบทวนหน่อยเพราะจะมองออกได้ว่าจะเป็นคนพอมีอันจะกิน อันนี้คนจีนที่พูดภาษาไทยเล่าให้ฟังนะเขาไม่ใช่ไกด์นะเขาก็ทำงานอยู่ในบริษัทญี่ปุ่นเหมือนกันเพียงแต่พูดไทยได้เคยเรียนในเมืองไทย
พักกลางวันไปกินข้าวเขาก็พาไปร้านอาหารหรูแห่งหนึ่งลักษณะคล้ายๆเป็นเก๋งจีนสูง 6 ชั้นอยู่กลางตลาดสดคล้ายๆในเมืองไทย พวกเราพวก VIP ก็ขึ้นไปนั่งชั้น 6 เลยเห็นตลาดทั้งหมด สิ่งที่ตกใจก็คือพอเวลาเที่ยงพอดีเป๊ะแม่ค้าตามตลาดเอาถ้วยออกมาในถ้วยมีข้าวพูลจานกับเขียวๆอยู่ด้านบน หมูสามชั้นชิ้นใหญ่ด้านบนแล้วใช้ตะเกียบโซ้ยกินอย่างเอร็ดอร่อย
ดูเหมือนในหนังจีนเวลาเขากินข้าวเลยแต่เขากินกันเร็วมาก ไม่มีการห่วงสวยหรือห่วงสุภาพผู้หญิงนั่งม้าตัวสั้นๆถ่างขาอย่างน่าเกลียดแต่สำหรับเขาคนเป็นเรื่องปกติทั่วไป
ส่วนพวกเรานั่งบนภัตราคารจีนสูง 6 ชั้นนั่งมองลงมันรู้สึกแบ่งชนชั้นกันยังไงก็ไม่รู้
ตอนกลางคืนส่งกลับโรงแรมก็ไปนอนโรงแรมเจ้านายก็ชวนหาเหล้ากินตามประสาคนหนุ่มเดินไปเรื่อยๆก็ไปเจอผับแห่งหนึ่ง ก็เข้าไปนั่งดื่มกินกัน พอดีเข้าไปก็ 3 4 ทุ่มแล้วเข้าไปนั่งพอทิ้งเถอะคืนรถตำรวจวิ่งตามถนนเต็มเซี่ยงไฮ้เต็มไปหมด ไม่ได้เปิดไซเรนแต่เป็นพานตามถนนแต่ไม่เหมือนตำรวจเข้ามาในผับแล้วสั่งให้ปิดเลยเพราะผับปิดเที่ยงคืนไล่แขกออกหมด
เดี๋ยวนี้คงไม่เป็นอย่างนั้นแล้วมั้งตอนนั้นเปิดประเทศใหม่ๆยังมีเคอร์ฟิวเที่ยงคืนอยู่
ตำรวจไม่ได้จับใครไล่ออกปิดร้านอย่างเดียว
ตามสูตรคนไทยเดิมเล่าแล้วก็ต้องหาอะไรร้อนๆกิน พอดีเดินไปเจอร้านโจ๊กร้านคนขายมีไม่กี่คนซื้อยืนรอเข้าแถวเยอะมาก ประมาณ20คน
อ้าวแล้วว่ะมาถึงเมืองจีนก็ต้องลองโจ๊กที่เมืองจีนสักหน่อย ไปเข้าแถวกับเขาได้โจ๊กมาคนละชาม ตกใจกับโจ๊กของเมืองจีนมากมันมีแต่ข้าวกับน้ำโรยต้นหอมมาหั่น 2-3 ชิ้น
ก็งงไปเหมือนกันแต่วันรุ่งขึ้นถามคนจีนเขาบอกว่าโจ๊กที่เมืองจีนก็คือข้าวกับน้ำไม่เหมือนเมืองไทยมีใส่อะไรเยอะแยะเต็มไปหมดคนจีนคนนี้เคยเรียนที่เมืองไทยบอกโจ๊กของไทยดีกว่าเยอะ
ดูงานเสร็จอีกวันเขาก็พาไปเที่ยวเมืองโบราณห่างจากเซี่ยงไฮ้ประมาณ 1 ชั่วโมง ผ่านซูโจวไป คนจีนที่มาด้วยก็เล่าให้ฟังบอกคุณคอยสังเกตข้างทางนะเมืองซูโจได้เป็นเมืองที่ชื่อว่ามีผู้หญิงที่สวยที่สุด ก็ลองสังเกตลองดูว่ากินยังเขาว่ามีผู้หญิงสวยๆเดินเต็มไปหมด
ไปเที่ยวหมู่บ้านโบราณซึ่งเขาอนุรักษ์ไว้และก็มีคนอยู่อาศัยจริง ไอ้มี่ตกใจคือห้องน้ำ โถส้วมแบบเหยียบเรียงกันแถมไม่มีอะไรกั้นเลย
ตอนนั้นก็ถามคนจีนว่าทำไมซ่วมเป็นแบบนี้เขาตอบมาว่าสำหรับคนจีนแล้วเรื่องกินเรื่องใหญ่เรื่องถ่ายเรื่องเล็ก แต่มูลที่ถ่ายก็เอาไปราดผักด้วย คนจีนบอกว่าตอนนั้น ตอนนั้นนะคนจีนจะไม่กินผักสดกัน ทั้งหมดจะต้องถูกไปต้มไปลวกก่อน เพราะด้วยเหตุผลนี้แหละ
เขาบอกว่าเขาเคยอยู่เมืองไทยที่เมืองไทยกินผักสดกันเยอะก็ตอบไปว่าที่เมืองไทยเขาใช้ปุ๋ยอย่างเดียวไม่ใช้แบบนี้แล้ว เพราะคนไทยชอบกินผักสด
สิ่งที่ประหลาดใจมากของคนจีนในยุคนั้นคือแต่ละคนขากถุยกันบนถนนเต็มไปหมดไม่สนใจเลย พูดจาเสียงดังอื้ออึงเต็มไปหมดเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวนี้ไม่เป็นแบบนั้นแล้วเปลี่ยนไปเยอะหมดแล้ว
ในเซี่ยงไฮ้ในยุคนั้นจักรยานอย่าเรียกว่าเป็นคันเรียกว่าเป็นฝูงดีกว่าจักรยานเลี้ยวทีรถต้องจอดกันเต็มไปหมดเพื่อให้จักรยานวิ่งคนใช้จักรยานเยอะมากและจะเป็นจักรยานแบบที่คนจีนขี่ในไทยจักรยานส่งของอะไรแบบนั้นจะเยอะมากแต่ยังไม่ทันสมัยเหมือนเดี๋ยวนี้
และสิ่งที่น่าตกใจอีกอย่างก็คือขึ้นรถจากเซี่ยงไฮ้ไปเมืองโบราณระยะทางน่าจะประมาณ 100 กว่ากิโลเมตรนั่งรถตู้ไปถ้าเป็นเมืองไทยก็จะต้องเห็นคนบ้างไม่เห็นบ้างแต่ที่เมืองจีนเหมือนทุกคนเดินเข้าแถวยาวข้างถนนเต็มไปหมดมันมีแต่คนเต็มไปหมดจริงๆ แต่ตอนนั้นถนนดีมากกว้างใหญ่กว่าไทย ถนนทางด่วนอะไรต่างๆสิ่งสาธารณูปโภครู้สึกอะไรๆก็ยิ่งใหญ่ไปหมดถนนกว้าง 5 6 เลน ทางด่วนสูงริบยาวมาก แต่คนส่วนใหญ่ยังใส่เสื้อสีมืดๆอยู่ กางเกงยีนส์ วัฒนธรรมตะวันตกยังคงถูกต่อต้านอยู่ในตอนนั้น
ก็เป็นประสบการณ์มากกว่ายี่สิบปีแล้ว เดี๋ยวนี้จีนเจริญมาก ขนาดคนจีนรุ่นใหม่มองไทยว่าล้าหลังไปแล้ว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย