21 พ.ค. เวลา 15:10 • อาหาร

อุณหภูมิในการเสิร์ฟไวน์แต่ละประเภท (Wine Serving Temperature)

เคยไหม? บางครั้งจิบไวน์แล้วรู้สึกไม่อร่อย รู้สึกขม ฝาด หรือกลิ่นไม่ออก บอกเลยว่าอาจจะผิดที่ "อุณหภูมิ" ของไวน์ก็ได้นะ
วันนี้ Wine Monster จะมาไขข้อสงสัยเรื่อง "อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับไวน์แต่ละประเภท" กันไปด้วยกันครับ
ทำไมอุณหภูมิถึงสำคัญ?
ก็เหมือนกับอาหารแต่ละจานที่ต้องทานตอนร้อนๆ หรือเย็นๆ ไวน์ก็เช่นกัน อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยดึงรสชาติและกลิ่นหอมของไวน์ออกมาได้อย่างเต็มที่
ไวน์แต่ละประเภทควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิเท่าไหร่กันแน่? มารู้จักกันเลย!
1. ไวน์แดง (Red Wine)
ไวน์แดงเป็นไวน์ที่มีความเข้มข้นและมีโครงสร้างที่หนักกว่าไวน์ประเภทอื่นๆ ซึ่งทำให้เหมาะสมกับการเสิร์ฟที่อุณหภูมิห้องหรือเย็นเล็กน้อย
ไวน์แดงเข้มข้น (Full-bodied Red Wine)
ไวน์แดงเบา (Light-bodied Red Wine)
- ไวน์แดงเข้มข้น (Full-bodied Red Wine): ไวน์เช่น Cabernet Sauvignon, Syrah, และ Malbec ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 16-18 องศาเซลเซียส การเสิร์ฟที่อุณหภูมินี้จะช่วยให้รสชาติของไวน์มีความสมดุลและกลิ่นหอมออกมาชัดเจน
- ไวน์แดงเบา (Light-bodied Red Wine): ไวน์เช่น Pinot Noir และ Gamay ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 12-14 องศาเซลเซียส เพื่อให้รสชาติของไวน์มีความสดชื่นและไม่หนักจนเกินไป
2. ไวน์ขาว (White Wine)
ไวน์ขาวมีลักษณะที่เบาและสดชื่น มักจะดื่มเพื่อความสดชื่นและเพิ่มความรู้สึกสบายๆ
ไวน์ขาวแห้ง (Dry White Wine)
ไวน์ขาวหวาน (Sweet White Wine)
- ไวน์ขาวแห้ง (Dry White Wine): ไวน์เช่น Sauvignon Blanc และ Pinot Grigio ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 7-10 องศาเซลเซียส การเสิร์ฟที่เย็นจะทำให้ไวน์มีความสดชื่นและกลิ่นหอมของผลไม้ออกมาชัดเจน
- ไวน์ขาวหวาน (Sweet White Wine): ไวน์เช่น Riesling และ Moscato ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 6-8 องศาเซลเซียส เพื่อเน้นความหวานและความสดชื่นของไวน์
3. ไวน์โรเซ่ (Rosé Wine)
ไวน์โรเซ่เป็นไวน์ที่มีสีชมพูและมีความหลากหลายในรสชาติ ตั้งแต่เบาไปจนถึงเข้มข้น การเสิร์ฟที่อุณหภูมิที่เหมาะสมจะช่วยให้รสชาติของไวน์โรเซ่โดดเด่นขึ้น
ไวน์โรเซ่: ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 8-12 องศาเซลเซียส การเสิร์ฟที่เย็นจะทำให้ไวน์มีความสดชื่นและกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ออกมาชัดเจน
ไวน์โรเซ่ (Rosé Wine)
4. ไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine)
ไวน์สปาร์คกลิ้งเป็นไวน์ที่มีฟองและมีความสดชื่นสูง เหมาะกับการเฉลิมฉลองและช่วงเวลาที่ต้องการความพิเศษ
ไวน์สปาร์คกลิ้ง: เช่น Champagne และ Prosecco ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 6-8 องศาเซลเซียส การเสิร์ฟที่เย็นจะทำให้ฟองและความสดชื่นของไวน์คงอยู่ได้นาน
ไวน์สปาร์คกลิ้ง (Sparkling Wine)
5. ไวน์หวาน (Dessert Wine)
ไวน์หวานมีความหวานเข้มข้นและมักจะเสิร์ฟพร้อมกับของหวานหรือหลังมื้ออาหาร
ไวน์หวาน: เช่น Port และ Sauternes ควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิ 10-12 องศาเซลเซียส การเสิร์ฟที่เย็นจะช่วยให้ความหวานและรสชาติของไวน์มีความสมดุล
ไวน์หวาน (Dessert Wine)
ดื่มไวน์ครั้งต่อไปก็ลองเสิร์ฟในอุณหภูมิที่เหมาะสมตามแต่ละประเภทไวน์กันดูนะครับ เพื่อเป็นการลิ้มรสชาติที่ดีที่สุดของไวน์ขวดนั้นๆ
แล้วอย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์การดื่มไวน์ที่อุณหภูมิที่เหมาะสมกันนะครับ!
ติดตาม Wine Monster เพื่อไม่พลาดบทความเกี่ยวกับไวน์ ความรู้ และเรื่องราวน่าสนใจอื่นๆ ได้ที่
#WineMonster #ไวน์ #ดื่มไวน์ #อุณหภูมิไวน์ #เสิร์ฟไวน์
โฆษณา