22 พ.ค. เวลา 02:01 • ปรัชญา

วาดธนบัตรใช้เอง

ชายชราคุ้ยขยะ หาของกิน หาเศษเงิน หาแบงก์ที่อาจมีซุกอยู่ในนั้น .. ในถังขยะ
เอาเงินไปซื้อก๋วยเตี๋ยวกิน .. ที่ร้านประจำ
ต่อมาเทศบาลปรับปรุงพื้นที่ ถังขยะหายไป แหล่งขุมทรัพย์ของเขาหายไป
เขาปิ๊งไอเดีย .. หยิบเศษกระดาษขนาดเท่าธนบัตร แล้ววาดรูปบนกระดาษนั้น ให้เหมือนเงิน
เขาเอากระดาษที่วาดไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านประจำ เจ้าของร้านเห็นแล้วก็อมยิ้ม ขายก๋วยเตี๋ยวให้เขากินเหมือนเดิม
อันที่จริง ชายชราคนนั้น เป็นผู้พิการด้านสมอง สาเหตุเกิดจากถูกรถชนในวัยเด็ก เมื่อสมองพิการ สิ่งที่ทำได้ก็คือการเอาตัวรอดไปวันๆ แต่ด้วยมโนสำนึก แม้สติปัญญาบกพร่อง เขาก็มิอาจขอใครกินฟรีๆ
ทุกวันเขาจะทำงาน เดินหาเศษกระดาษ แล้วเปลี่ยนกระดาษนั้นให้เป็นแบงก์ ด้วยการวาดรูป ทำเพราะคิดว่านั่นคืองานของเขา งานประจำที่ถ้าไม่ทำก็จะไม่มีกิน
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเคยยื่นก๋วยเตี๋ยวให้เขากินฟรีๆ ในวันที่เขาหาเศษกระดาษวาดธนบัตรไม่ได้ .. แต่เขาก็ปฏิเสธก๋วยเตี๋ยวชามนั้น ยังยืนยันจะหากระดาษมาวาดแบงก์ก่อนจึงจะจ่ายค่าก๋วยเตี๋ยว
....
บนโลกเรานี้มีคนหลายประเภท
บางคนเกิดมาไม่เคยตกงาน ไม่เคยรู้รสชาติของความเคว้งคว้าง ชีวิตเปื้อนฝุ่น ชีวิตที่เปื้อนโคลน
หลายคนมีงานทำ .. แต่ทำตัวเหมือนไม่มีงานทำ วันๆคิดแต่เรื่องสิทธิพึงได้ หาช่องทางกอบโกย
ทุกวันนี้ใครมีงานทำนั้นดีแค่ไหนแล้ว หากทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กรได้ แม้ทำด้วยสติปัญญาอันน้อยนิด ก็ทำไปเถิด อย่าให้ต้องอายคนบางคนที่มีความบกพร่องทางสมอง แต่ไม่เคยขอใครกินฟรีๆเลย
แต่ถ้าเป็นประเภทงานหนักไม่เอา งานเบาไม่สู้ ก็อย่าเอาเท้าราน้ำก็เป็นพอ
....
วันที่ 7 มกราคม 2022 ชายชราผู้พิการถูกคนเมาขับรถชน เสียชีวิต ลูกค้าประจำของร้านก๋วยเตี๋ยวนั้นจากไปชั่วนิรันดร์ ทิ้งไว้แต่เรื่องราวที่เปี่ยมไปด้วยด้วยความหมาย
สมองพิการ แต่มโนสำนึกไม่เคยบกพร่อง หัวใจเขาแกร่งว่าพวกที่ทำตัวเป็นกาฝากขององค์กรซะอีก
....
สาระเล็กๆน้อยๆ
- เรื่องชายชราผู้นี้คือเรื่องจริง เขาเป็นคนจีน ชื่อว่า 'เจิ้งจู่เหลิง' อาศัยในชางหนาน เมืองเวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน
- เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อว่า 'หลี่ กั๋วเซ่อ' เคยเล่าให้ฟังว่าเคยพาลูกชายวัย 6 ขวบไปเยี่ยมชายชราด้วยกัน ชายชราเคยจะมอบธนบัตรที่วาดขึ้นให้กับลูกชายของเขา ทำตัวเหมือนผู้ใหญ่มอบอั่งเปาให้กับเด็กๆ นึกแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ ..
"คนบางคนมีสติปัญญาไม่สมบูรณ์แต่กลับมีน้ำใจที่งดงามยิ่งนัก"
โฆษณา