ประธานาธิบดีอิหร่าน เสียชีวิตบนคอป จะมีผลกระทบขนาดไหน?
หากสิ่งนี้จะไม่ส่งผลต่อการหมุนของโลก! อิสราเอล มาดูกันสิว่าคุณจะกล้าแกร่งในอนาคตหรือไม่
ก่อนอื่น เฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่เครื่องบิน
เมื่อกระแสลมไหลผ่านพื้นผิวด้านบนและด้านล่างของปีก ความเร็วจะเพิ่มขึ้นและลดลงผ่านพื้นผิวด้านบนและด้านล่าง ทำให้เกิดความแตกต่างของความดัน และสร้างแรงยกขึ้นด้านบน
และเฮลิคอปเตอร์จะบินขึ้นและลงจอดโดยการเปลี่ยนความเร็วของโรเตอร์หรือเปลี่ยนมุม สับเปลี่ยนระหว่างใบพัดและกระแสลม
แต่ ประเด็น คือ มันดันตกลงมาจากท้องฟ้า
แล้ว เหตุใดประธานาธิบดีอิบราฮิม ไรซี ของอิหร่านคนปัจจุบันที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุในครั้งนี้จึงสวมผ้าโพกหัวสีดำไว้เสมอ ในขณะที่อดีตประธานาธิบดีอิหร่าน รัดด์แต่ผ้าโพกศีรษะของฮานิ สีขาว ?
ในความเป็นจริง หากคุณดูผู้นำทางศาสนาคนปัจจุบันของอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี และผู้นำศาสนาคนก่อนโคไมนี
คุณจะพบว่าผ้าคลุมศีรษะที่พวกเขาสวมก็เป็นสีดำเช่นกัน
Raisi, Rouhani และ Khamenei ต่างก็เป็นนักบวชนิกายชีอะต์ของอิหร่าน แต่ทำไมพวกเขาถึงแต่งกายแตกต่างกันมาก?
นี่ไม่ใช่ภาพสะท้อนของชนชั้นทางศาสนาที่แตกต่างกัน แต่เป็นเรื่องของเลือดที่ข้นกว่าน้ำ....
ทั้ง Raisi และ Khamenei เป็นลูกหลานของศาสดามูฮัมหมัด สมาชิกของครอบครัวที่เรียกว่า "ลูกหลานอันศักดิ์สิทธิ์"
นี่เป็น ประเด็นที่สำคัญที่สุดของความขัดแย้งระหว่างชาวชีอะห์และสุหนี่เมื่อพวกเขาแยกทางกันคือโลกอิสลามที่แท้จริง
จากรุ่นสู่รุ่นโดยตระกูลผู้สืบเชื้อสายศักดิ์สิทธิ์ หรือควรสถาปนา "ผู้มีคุณธรรม" ไว้ในหมู่ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสทั้งหมด
ดังนั้น ชีอะห์ผู้มีมุมมองแบบเดิมจึงให้ความสนใจเป็นพิเศษว่านักบวชเป็น "ผู้สืบเชื้อสายศักดิ์สิทธิ์" หรือไม่
ด้วยการแต่งกาย(ภายนอก ทั้งๆที่สานสายเลือดอยู่ภายใน) เพื่อให้สามารถระบุได้ง่ายเพียงแค่ชำเลืองมอง
อยาตุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้นำศาสนาคนแรกของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ถือเป็น "ผู้สืบเชื้อสายศักดิ์สิทธิ์" เช่นเดียวกับคาเมเนอี
ดังนั้น รองจากคาเมเนอี ผู้นำศาสนาสูงสุดคนที่ 3 ที่เข้ามารับตำแหน่งแทนจะต้องเป็น "หมวกดำ"
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี Raisi ซึ่งเป็นนักการศาสนาหมวกดำและยังคงรักษามุมมองทางการเมืองและศาสนาที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
และเป็นผู้สมัครที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากคาเมเนอี
เมื่อเข้าใจสิ่งนี้ คุณจะเข้าใจได้ว่าผลกระทบของการไล่ตามนี้ต่ออิหร่านอาจไม่ง่ายเหมือนการเสียชีวิตของตัวเลขอันดับสอง ดังที่บางคนเคยวิเคราะห์ให้ผมฟังแล้ว
นี่คือการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของผู้สืบทอดที่ได้รับความนิยมสูงสุด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขัดขวางการเตรียมการก่อนหน้านี้ไปหลายข้อหลายแนวทาง
ในเวลาท้องถิ่นวันที่ที่ 19 เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งที่บรรทุก Raisi
และรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮุสเซน อับดุลลาห์ และเจ้าหน้าที่อาวุโสของอิหร่านคนอื่นๆ ตกในจังหวัดอาเซอร์ไบจานตะวันออกทางด้านหลังของอิหร่าน
ตามข้อมูลที่เผยแพร่จนถึงตอนนี้ สมาชิกทั้งหมดบนเครื่องเสียชีวิต ไม่มีใครรอด.
สำหรับผม การนัดหมายและการเสียชีวิตของ Raisi เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อนมากสำหรับอิหร่าน
นับตั้งแต่โคมัยนียึดอำนาจในอิหร่านด้วยการเริ่มต้น "การปฏิวัติอิสลาม" ในปี 2520 สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านก็ดำรงอยู่อย่างแท้จริงบน
"สามเสาหลัก" ที่จัดทำโดย คนสามกลุ่ม
คนแรก คือ ปัญญาชนฝ่ายซ้ายที่ได้รับการปลูกฝังในสมัยราชวงศ์ปาห์ลาวีเก่าซึ่งนำโดยอดีตประธานาธิบดีอิหร่าน มาห์มูด อาห์มาดิเนจัด(Ahmadinejad)
Ahmadinejad ตอนนั้นอยู่ในวิทยาลัย เมื่อการปฏิวัติปะทุขึ้นในปี 2520
สำหรับเหตุผลที่คนเหล่านี้สนับสนุนโคไมนีในการเริ่มต้นการปฏิวัติอิสลามในขณะนั้นก็เพราะพวกเขาไม่พอใจกับการคอรัปชั่นของราชวงศ์ปาห์ลาวี
และช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนที่เกิดจากการปฏิรูปเศรษฐกิจของกลุ่มที่เรียกว่า "การปฏิวัติสีขาว"
และ นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยที่ต่อต้านอเมริกาอยู่บ้าง
Raisi และ Ahmadinejad
ความฝันของพวกเขาคือการสร้างประเทศใหม่ในอิหร่านที่มีความเท่าเทียมในด้านความมั่งคั่งและเป็นอิสระในการทูตมากขึ้น
คุณจึงสามารถเห็นอาห์มาดิเนจัดสวมชุดสูทเมื่อเข้าร่วมงานในสถานที่ทางการทูตสาธารณะ
มันคือ “กลุ่มชุดสูท” กลุ่มแรกของอิหร่านนั่นเอง
คนกลุ่มที่สองคือ "กลุ่มในเครื่องแบบ" คนกลุ่มนี้สามารถเป็นตัวแทนของโซไลมานีซึ่งถูกสังหารโดยมอสสาดของอิสราเอลได้สำเร็จเมื่อไม่กี่ปีก่อน
พวกเขาได้รับอำนาจทางทหารจากการปกป้องและสนับสนุนระบอบการปกครองใหม่ของโคไมนีหลังการปฏิวัติอิสลาม
อำนาจของพวกเขาได้รับการรวบรวมไว้อย่างมากในสงครามอิหร่าน-อิรัก
แต่ในช่วงสงครามครั้งนี้เองที่อำนาจของพวกเขาได้รับการรวบรวมอย่างแน่นหนาภายในกองทัพ แต่ผมจะพูดถึงเหตุผลเฉพาะในภายหลัง
สุดท้าย คนกลุ่มที่สามคือ “กลุ่มนักบวช” ที่ผมเคยกล่าวมาข้างต้น
นักบวชแบ่งออกเป็น "หมวกขาว" แบบรูฮานี แต่...เนื่องจากพวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้นำทางศาสนาที่สูงที่สุด
ในการดำรงชีวิต พวกเขาจึงมีส่วนร่วมในตำแหน่งนักบวชระดับที่ต่ำมากกว่า
"หมวกดำ" ที่โอ้อวดโดย Raisi เพราะพวกเขามักจะเป็นผู้สืบเชื้อสายตรง
เพื่อนร่วมชาติ และแม้แต่ญาติของโคไมนีและคาเมเนอี มีมุมมองที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และ(คิดเอาว่า)เป็น "แฟนตัวยง" ที่ปกป้องระบบปัจจุบันของอิหร่าน
เมื่ออยาตุลลอฮ์ โคมัยนีเริ่มต้นการปฏิวัติอิสลามในปี 2520 แนวคิดดั้งเดิมของเขา (หรือคำสัญญา) คือการรวมตัวกันที่ประกอบด้วยปัญญาชนฝ่ายซ้าย ทหารชีอะห์ และนักบวช
อย่างไรก็ตาม ในสงครามอิหร่าน-อิรัก(ที่ตามมา) การปฏิบัติงานที่ย่ำแย่ของกองทัพอิหร่าน และแม้แต่การละทิ้งนายทหารจำนวนมากให้เข้าร่วมระบอบการปกครองของซัดดัม ฮุสเซนในอิรักที่ดูเหมือนเป็นฆราวาสมากขึ้นในขณะนั้น
ทำให้โคไมนีตระหนักว่ากองทัพไม่สามารถเชื่อถือได้
ดังนั้นทางเลือกของเขาคือทำให้กองกำลังป้องกันประเทศอ่อนแอลงและเสริมกำลังกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม
และในขณะเดียวกัน ด้วยข้อจำกัดทางกฎหมายหลายประการ ก็ค่อยๆ จำกัดอำนาจของ "กลุ่มเครื่องแบบทหาร" ให้อยู่แต่ภายในกองทัพ
กองกำลังอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มปัญญาชนฝ่ายซ้ายในอิหร่านที่ต่อต้านราชวงศ์ปาห์ลาวี
ปัญญาชนฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นตัวแทนของบานี ซาดร์ ประธานาธิบดีคนแรกของสาธารณรัฐอิสลาม เป็นกำลังหลักในการปฏิวัติและครั้งหนึ่งเคยกล่าวอ้างอย่างมากในอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2524
https://today.line.me/th/v2/article/qoayqay
ไม่ถึงครึ่งปีหลังจากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี บานี ซาดร์(Bani Sadr)ก็ถูกโคไมนีไล่ออกจากตำแหน่ง และต่อมาก็ถูกตามหมายตัวเอาชีวิต
ต่อมาชายคนนี้และผู้สนับสนุนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศในระยะยาว (เพื่อ)ขอลี้ภัยในประเทศตะวันตกที่พวกเขาวิพากษ์วิจารณ์มาเสียยาวนาน
และในปี 2564 อดีตผู้ช่วยโคไมนีและอดีตประธานาธิบดีคนนี้ ที่เคยเชื่อมั่นว่าโคไมนีจะสามารถสถาปนารัฐบาลประชาธิปไตยฝ่ายซ้ายในอิหร่านได้
ก็ไปเสียชีวิตในฝรั่งเศส
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขายังคงประณาม "การทรยศ" ของโคไมนีต่อเขาซะเละเป็นโจ๊ก
หลังจาก Bani Sadr ปัญญาชนฝ่ายซ้ายของอิหร่านถูกปราบปรามและกวาดล้างหลายครั้ง
ส่วน ประธานาธิบดี Raisi ที่เพิ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องตก ก็ยังเป็นผู้นำในการจัดตั้งองค์กร "คณะกรรมการอัยการ"
ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาคดีและการประหารชีวิต(มาเป็นเวลานาน) ของอดีตสหายร่วมรบปัญญาชนฝ่ายซ้าย
ที่เคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับ "นักบวช" ตัวอย่างเช่น
ในปี 2487 Raisi ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอัยการกรุงเตหะรานและดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 10 ปี
ในช่วงเวลานี้ เขาได้จัดการกรณีสำคัญๆ บางกรณีที่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารปัญญาชนฝ่ายซ้ายจำนวนมาก
ในปี 2547 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าผู้พิพากษาของอิหร่าน และดำรงตำแหน่งเป็นเวลา 10 ปี
ในปี 2557 เขาดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดของอิหร่าน
ในปี 2559 เขาได้รับการแต่งตั้งจากคาเมเนอีให้เป็นผู้พิทักษ์ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของอิหม่ามเรซา และดูแล Astan Quds Razavi ซึ่งเป็นมูลนิธิทางศาสนาที่มีอิทธิพลทางการเงินมากที่สุดในอิหร่าน
อาจกล่าวได้ว่า ลูกหม้อ Raisi กลายเป็นอัยการและผู้พิพากษาในฐานะนักบวชที่สำเร็จการศึกษาจากเซมินารีเหล่านี้
จากนั้น Raisi จึงกลายเป็นผู้สืบทอดที่มีอำนาจมากที่สุดของผู้นำศาสนาสูงสุดของอิหร่าน
กระบวนการนี้สะท้อนให้เห็นถึงพลังของ "นักบวช" ของอิหร่านในช่วงสามปีที่ผ่านมา ที่แอบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในสิบปี
ระบบเก่าของการต่อต้านไตรภาคีระหว่าง ปัญญาชนฝ่ายซ้าย ทหารชีอะฮ์ และนักบวช ก็ค่อยๆ เข้ามาแทนที่โดยการปกครองของนักบวชเพรียวๆ
แม้แต่ในหมู่นักบวช พื้นที่สำหรับหมวกสีขาวอย่าง รูฮานี (Rouhani) ก็ค่อยๆ ถูกบีบอัด ทำให้มีช่องว่างสำหรับ "หมวกสีดำ" ในอนาคต
กระบวนการนี้ดูเหมือนจะราบรื่นมาก(เหมือน 5 จังหวัดในประเทศไหนหนอ)
แต่วิกฤตที่ซ่อนอยู่ก็คือ เมื่อคุณภาพค่อยๆ รวมเป็นหนึ่งเดียว พื้นที่ของอิหร่านในการรักษาความยืดหยุ่นทางนโยบายก็ค่อยๆ ถูกบีบอัดเช่นกัน
ก่อนปี 2563 การลดค่าเงินของอิหร่านก็เป็นปัญหาร้ายแรงอยู่แล้ว
แต่ในช่วง 10 ปี ตั้งแต่ปี 2553 ถึง 2563 ค่าเงินเรียลอิหร่านอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐจนเกิน 400%
สิ่งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจอย่างกว้างขวางในประเทศและนำไปสู่การล่มสลายของ รูฮานี ทางอ้อม
ด้วยเหตุนี้ Raisi ซึ่งขึ้นสู่อำนาจในปี 2564 ได้ให้สัญญากับประชาชนหลายครั้งว่าจะแจกเงินดิจิทัล 10000 มาทางนี้ เฮ้ย!!! ไม่ใช่ๆๆๆ ได้ให้สัญญาว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้ค่าเงินมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม ภายใต้นโยบายต่างประเทศที่ก้าวร้าวมากขึ้น
สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของอิหร่านในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลวร้ายยิ่งกว่าในยุครูฮานีเสียอีก ฮาาาาา
ยกเว้นจีนและอิรัก อิหร่านยังคงรักษาสมาชิกภาพของทุกประเทศการค้าขายไว้ได้
เมื่อปีที่แล้วเพียงอย่างเดียว ค่าเงินของอิหร่านอ่อนค่าลง สูงถึง 43% ในเวลาเพียงสามเดือนของไตรมาสของปีนี้
เงินเรียลอิหร่านอ่อนค่าลงแบบฉิบหายถึง 20% แม้ว่าอิหร่านจะพยายามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าสกุลเงินก็ตาม
เมื่อพิจารณาว่าระหว่าง คาเมเนอีมีอายุ 84 ปี กับ ไรซี ซึ่งมีอายุเพียง 63 ปี
อาจได้ว่า Raisi เป็นประธานาธิบดีในปีนี้เพื่อสั่งสมคุณสมบัติสำหรับก้าวต่อไปในการขึ้นเป็น(แต่)ผู้นำทางศาสนา (ฮาาาา อีกรอบ)
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากประสิทธิผลของการบริหารงานของเขา
เขากลับไม่ได้รับความนิยมเท่าๆ กัน เนื่องจากวาระปัจจุบันของเขาในฐานะประธานาธิบดี และเขาเสียคะแนนไปมาก
ในทำนองเดียวกัน การลดความซับซ้อนของเวทีการเมืองของอิหร่านยังคงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
รัฐสภาอิหร่านชุดใหม่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคมปีนี้ และจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั่วประเทศมีเพียง 41% ซึ่งต่ำเป็นประวัติการณ์
![[The Last karuda] สำหรับอิหร่านสายแข็ง ในตอนนี้เขามีเมียพรหมจารีครบ 72 คนแล้ว.
ว่ากันว่าชาวอิหร่านกำลังจุดพลุใหญ่เพื่อเฉลิมฉลอง! และมีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว บางคนพูดถึงการแย่งชิงอำนาจภายใน บางคนบอกว่าอิสราเอลต้องรับผิด](https://t1.blockdit.com/photos/2024/05/664ca1cbaabd53052925627a_800x0xcover_0feMbWUd.jpg)
นักปฏิรูปหรือนักการเมืองสายกลางถูกตัดสิทธิ์หรือถูกไล่ออกจากตำแหน่ง
รัฐสภาชุดใหม่ประกอบด้วยกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่นับถือศาสนาเกือบทั้งหมด(เกือบทั้งหมดส่วนใหญ่เป็น "หมวกดำ")
นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามในปี 2522 ที่นักปฏิรูปถูกกีดกันออกจากรัฐสภาอย่างมีประสิทธิภาพ
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ Raisi ดันชิงเสียชีวิตอย่างกะทันหันในอุบัติเหตุเครื่องตกพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสเช่นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
แน่นอนว่าภายใต้สถานะปัจจุบันของรัฐสภา ผู้สืบทอดสามารถมีหัวรุนแรงมากกว่าคนก่อนเท่านั้น
และนั่นหมายความว่าอิหร่านจะเร่งวงจรเชิงลบของ "การหัวรุนแรง + ปัญหาทางเศรษฐกิจ + การทำให้เกิดความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง + ปัญหาทางเศรษฐกิจที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น" เพิ่มเติมจากที่ได้ประสบไปแล้ว
แน่นอนว่าผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดจากการเสียชีวิตของ Raisi ที่มีต่ออิหร่านอาจเป็นเพราะผู้ที่เข้ามาเป็นผู้นำทางศาสนาสูงสุด
แต่ ท้ายที่สุดแล้ว คาเมเนอีก็แก่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ผู้สมัครรับตำแหน่งผู้สืบทอดตำแหน่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนอกเหนือจาก Raisi ก็คือ มอยตาบา(Mojtaba) ลูกชายของคาเมเนอีนั่นเอง
ตอนนี้ Raisi เสียชีวิตแล้ว การสืบทอดตำแหน่งของ Mojtaba ก็ดูสมเหตุสมผลและน่าสงสัยยิ่งขึ้น
แม้ว่าตำแหน่งผู้นำศาสนาสูงสุดจะเคยตกทอดมาในหมู่ "ทายาทผู้ศักดิ์สิทธิ์" ของกลุ่มหมวกดำมาก่อน
แต่หาก "การสละราชสมบัติภายในกลุ่ม" นี้ให้กลายเป็น "กรรมพันธุ์"
ในที่สุด ก็จะทำให้คนจำนวนมากเคลือบแคลงโดยไม่ต้องสงสัย แม้กระทั่งสีของ "หมวกดำ"
ตามทฤษฎีแล้ว ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้รับเลือก ควบคุมดูแล และแม้กระทั่งไล่ออกโดยการประชุมผู้เชี่ยวชาญที่ประกอบด้วยนักการศาสนาอิสลาม 88 คน
ผู้คนจำนวนมากในการประชุมครั้งนี้เชื่อว่า เป็นการละเมิดทางพันธุกรรม นี่เป็นการละเมิดเจตนารมณ์และหลักการดั้งเดิมของการปฏิวัติอิสลามดั้งเดิม
ท้ายที่สุดแล้ว เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่โคไมนีวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ปาห์ลาวีก็คือ ราชวงศ์นี้เปลี่ยนประเทศให้เป็นครอบครัวและประสบความสำเร็จหลังจากที่บิดาเสียชีวิตแล้วเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงที่สะดุดตายิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อ "คนหนุ่มสาว" ซึ่งเป็นแนวหน้าของการปฏิวัติอิสลาม เช่น อะห์มาดิเนจัด รูฮานี และไรซี มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ
ความกระตือรือร้นและความอยากของคนรุ่นกลางและรุ่นเยาว์ของอิหร่านในการปฏิวัติอิสลาม ก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยอย่างต่อเนื่อง
ค่าเงินอ่อนค่า การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการแทนที่กฎหมายประชาชนด้วยกฎหมายชารีอะห์
อิหร่านจะดำเนินการ หากคาเมเนอีเสียชีวิต ทั้ง ผู้นำ และ สังคมอิหร่านสามารถทนต่อคลื่นผลกระทบนี้ได้หรือไม่ นี่ถือเป็นคำถามสำคัญ
กล่าวโดยสรุป การเสียชีวิตอันน่าสับสนของ Raisi กำลังผลักดันประเทศอิหร่านให้ตกอยู่ในน่านน้ำที่ไม่มีใครจักช่วย
ไม่กี่ปีต่อมา เมื่อผู้คนมองย้อนกลับไปอีกครั้ง พวกเขาอาจพบว่า "อุบัติเหตุ" นี้มีการเปลี่ยนแปลงหรือเร่งกระบวนการบางอย่าง
และเรียกได้ว่าถึงจะเป็นมหาอำนาจทางยุทธศาสตร์อันดับสองของโลกก็จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ฮาาาา
สุดท้ายนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขอให้เราขอส่งความปรารถนาดีต่อชาวอิหร่านที่หวังว่าจะผ่านพ้นวันที่ลำบากนี้ไปอย่างจริงใจ
ขอให้พวกเขาจงโชคดี
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
