23 พ.ค. เวลา 11:56 • การศึกษา

โทษของ ราคะ และ โทสะ ในศาสนาพุทธ และ ฮินดู

พระพุทธเจ้า พระกฤษณะ ต่างตรัสถึงโทษ ราคะ(ความหลงในกามคุณ) และ โทสะ (ความโกรธ) ไว้ดังนี้
=======================
☸️🪷พระพุทธเจ้าตรัสกับสุจิโลมยักษ์ว่า :
ราคะแลโทสะ มีอัตภาพนี้เป็นเหตุ
ความไม่ยินดี ความยินดี และความสยดสยอง เกิดแต่อัตภาพนี้
ความตรึกในใจ เกิดแต่อัตภาพนี้แล้ว
ดักจิตไว้ได้เหมือนพวกเด็กดักกา ฉะนั้น
อกุศลวิตกเป็นอันมาก เกิดแต่ความเยื่อใย คือ ตัณหา
เกิดขึ้นในตนแล้วแผ่ซ่านไปในวัตถุกามทั้งหลาย
เหมือนย่านไทรเกิดแต่ลำต้นไทร แล้วแผ่ซ่านไปในป่า ฉะนั้น
ชนเหล่าใดย่อมรู้อัตภาพนั้นว่าเกิดแต่สิ่งใด
ชนเหล่านั้นย่อมบรรเทาเหตุเกิดนั้นเสียได้
ชนเหล่านั้นย่อมข้ามห้วงกิเลสนี้ ซึ่งข้ามได้ยาก และไม่เคยข้าม
เพื่อความไม่มีภพอีกต่อไป
•••••
พระสูตร:
สูจิโลมสูตร พระไตรปิฎก ฉบับหลวง ๑๕/๘๑๐/๒๕๐
•••••
พระองค์จึงแนะนำให้ฝึก สติปัฏฐาน เพื่อใช้ความเพียรเป็นเครื่อง 🔥กิเลส มีสัมปัชชัญญะมีสติ ละ อภิชฌา(ความพอใจจากราคะ) และ โทมนัส (ความไม่พอใจจากโทสะ) ออกจากโลกเสียได้
🕉️ 🛕ศรีมัทภควคีตา อัธยายะที่ 3 : 36-37:
อรชุน ถามว่า
ก็เมื่อเช่นนั้น อะไรบันดาลเล่าจึงทำบาป แม้ตนเองไม่ปรารถนา ซึ่งเป็นเหมือนเขาทำลงด้วยกำลังของสิ่งอื่น พระองค์ผู้เผ่าวฤษณี (พระกฤษณะ)
พระกฤษณะตรัสเฉลย
มันเป็น“กาม” มันเป็น“โกรธ“ อันเกิดจากคุณคือ รชะ
กินจุบาปหนา ท่านจงทราบเถิดว่ามันเป็นศัตรูในเรื่องนี้
ศาสตราจารย์ ร.ต.ท.แสง มนวิทูร แปลสู่ภาคไทย
จำนงค์ ทองประเสริฐ ถอดภาคสันสกฤตจากอักษรเทวนาครี
ภควัทคีตา จึงแนะนำให้กระทำโยคะเพื่อเข้าถึงอาตมันทำลายอหังการลง
======================
ปล. มิได้มีเจตนาเปรียบเทียบว่าศาสนาไหนดีกว่า แต่ให้เห็นจุดร่วม สงวนจุดต่างไว้ เพื่อให้ศาสนิกอยู่ร่วมกันอย่างสันติ
โฆษณา