สร้างทีมด้วยฮอร์โมน
ได้สนทนากับพี่เล้ง ศิริวัฒน์ วงศ์จารุกร แห่ง MFEC ทีไร ผมมักจะได้แนวคิดดีๆในระดับกระตุกสมองทุกครั้ง ล่าสุดวันนี้ผมได้สัมภาษณ์พี่เล้งที่ How club อยู่สองชั่วโมง มีประเด็นดีๆอยู่มากมายเช่นเคย
มีเรื่องหนึ่งที่พี่เล้งเพิ่งค้นพบ ตกผลึกและได้ทดลองแล้วเห็นผลที่ผมคิดว่าน่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังต้องการสร้างทีมเพื่อแข่งขันในยุคสมัยที่อะไรๆ ก็ไม่ง่ายในตอนนี้ที่อยากจะมาเล่าสู่กันฟัง..
พี่เล้งค้นพบเรื่องนี้ตอนที่พี่เล้งเสียบุพการีอันเป็นที่รักไปและอยู่ในภาวะซึมเศร้าอ่อนๆโดยไม่รู้ตัว จนได้คำปรึกษาและยาจากหมอมาปรับฮอร์โมนถึงผ่านจุดนั้นมาได้ ในประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้พี่เล้งเริ่มศึกษาและเข้าใจถึงฮอร์โมนในร่างกายว่ามีผลต่อพฤติกรรมคนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซึมเศร้าที่พี่เล้งเจอ
จนถึงพฤติกรรม นิสัยใจคอ หรือแม้แต่ความรักที่เริ่มต้นเพราะโดพามีนในวัยเจริญพันธุ์แล้วเข้าสู่ออกซิโทซินเมื่ออยู่ด้วยกันนานๆ รวมถึงพฤติกรรมอื่นๆอีกแทบทั้งหมดของคนเรา
ฮอร์โมนแห่งความสุขนั้นมีอยู่สี่ตัวหลักๆ ตัวแรกก็คือโดพามีน เป็นฮอร์โมนให้รางวัลที่เกิดเวลาเราได้อะไรที่ตื่นเต้นหรือสมหวัง ตั้งแต่การพนัน เซ็กส์ ยาเสพติดหรือแม้กระทั่งตอนเล่นมือถือ ฮอร์โมนตัวนี้ระยะหลังถูกกระตุ้นเยอะมากจากแอพต่างๆ ในมือถือและสิ่งเร้า ทำให้พอขาดก็จะเป็นซึมเศร้าได้ง่าย
ตัวที่สองคือออกซิโทซิน ที่เรียกกันว่า love hormone เป็นฮอร์โมนที่เกิดตั้งแต่ตอนคลอดลูก เลี้ยงลูก การกอดและเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง
ตัวที่สามคือเซราโทนิน เป็นฮอร์โมนที่ทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆทำงานได้ปกติ มีคนเรียกว่าเป็นฮอร์โมนปกติสุข ถ้าร่างกายสมดุล ฮอร์โมนนี้จะทำงาน เวลาร่างกายป่วยฮอร์โมนนี้จะน้อยหรือไม่มีเลย
ตัวที่สี่คือเอนโดฟิน เป็นฮอร์โมนที่ช่วยเรื่องลดความเจ็บปวดตามธรรมชาติ ลดความเครียดหรือไม่สบายตัว เอนโดฟินจะหลั่งเวลาออกกำลังกาย เป็นต้น หลังออกกำลังเสร็จเราถึงรู้สึกสดชื่นและคลายเครียดไปได้มาก
พี่เล้งเอาแนวคิดนี้มาทดลองตอนที่จะต้องสร้าง business unit ใหม่ โดยนอกจากคัดเลือกจากทักษะแล้ว ยังดูกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มเติม เช่นถ้าเป็นนักกีฬา วิ่งได้สิบโลหรือตีแบดเป็นประจำ ก็จะเอาเข้าทีม และพอเข้ามาในทีมนอกจากจะฝึกเทรนต่างๆ แล้ว
พี่เล้งก็หาพี่เลี้ยงจากคนในบริษัทฝ่ายต่างๆมาช่วยแนะนำ ดูแล ประคับประคอง พาเข้าสังคมบริษัทในจำนวนตั้งแต่ 5 ต่อ 1 จนถึง 10 ต่อ 1 ปรากฏว่า ทีมนี้เป็นทีมที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ทำยอดขายโตมากกว่าตลาดมากและแม้จะมีทักษะที่ถูกดึงตัวตลอดเวลาก็มี turnover น้อยมาก
พี่เล้งอธิบายว่า พอทั้งทีมเป็นนักกีฬา ชอบออกกำลัง ก็ทำให้พวกลากมากไป กลายเป็นพวกที่เครียดน้อยเพราะเอนโดฟินหลั่งบ่อย มีความปรกติสุขไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยเพราะดูแลตัวเองดี เซราโทนินก็ทำงานเยอะ
แถมพอมีพวก เข้าสังคม เดินไปไหนก็ทักคนได้ทั่วออฟฟิศ ออกซิโทซินก็ทำงานด้วยเช่นกัน พอทีมมีความสุขจากฮอร์โมนตามธรรมชาติก็ส่งผลมาที่หน้าที่การงานและความสุขที่ทำงานเป็นทีม ผลงานก็ดี คนออกก็น้อยตามไปด้วย
พี่เล้งเล่าว่าเราชอบมองข้ามเรื่องนี้ไป พี่เล้งตั้งข้อสังเกตว่าตอนเรารับทีมงานอายุน้อยมา ก็ทำงานกันเต็มที่ ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย แต่พออายุเริ่มมาก เริ่มเจ็บป่วย บางคนถึงขั้นฟอกไต ฮอร์โมนแปรปรวน ต่อให้เก่งแค่ไหน ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ทำงานได้ยากและก็ไม่มีความสุข ถึงตรงนั้นก็ช่วยเหลือกันได้ยากตามไปด้วย
การทดลองสร้างทีมของพี่เล้งจากวิธีคิดบนฮอร์โมนแห่งความสุขก็เลยน่าสนใจและน่าไปค้นหากันต่อเป็นอย่างมาก นอกจากเรื่องสร้างทีมแล้ว การปรับพฤติกรรมตัวเองและความเข้าใจผู้อื่นบนพื้นฐานของฮอร์โมนก็น่าจะสามารถอธิบายและนำไปใช้ได้ในหลายสถานการณ์อยู่เหมือนกัน
เป็น leng theory ที่เกิดจากความรู้แล้วมาทดลองปฏิบัติของพี่เล้งที่เปิดกบาลผมอีกครั้งหนึ่งเลยครับ….
- 48
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
