มินิโซ สำเร็จได้ด้วยสูตร ‘กำไรต่ำ-คุณภาพสูง’
‘มินิโซ’ (Miniso) ร้านขายสินค้าเอนกประสงค์ราคาย่อมเยาจากจีน ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 3,500 สาขา ใน 79 ประเทศ
ถึงจะเป็นเเบรนด์จีนเเต่ก็มีความเกี่ยวของกับญี่ปุ่น เพราะมิโนโซมีผู้บริหารหลัก 2 คน คือ มิยาเกะ จุนยะ (ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบสินค้าของมินิโซ) เเละ เย กัวฝู ชาวจีน
ในปี2018 มินิโซมีมูลค่าเเบรนด์สูงถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของมินิโซต่อลูกค้าทั่วโลก
3 ต่ำ 3 สูง เเนวทางสำคัญในการดำเนินธุรกิจของมินิโซ คือการรักษามาตรฐาน ประสิทธิภาพสูง เทคโนโลยีขั้นสูง คุณภาพสูง – ราคาต่ำ ต้นทุนต่ำ และกำไรต่ำ ซึ่งมีเเรงบัลดาลใจมาจากร้าน 100 เยนแบบญี่ปุ่น ที่ลูกค้าสามารถหาของดีในราคาถูกได้
กลุ่มเป้าหมาย เงินน้อยแต่รสนิยมดี ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งของมินิโซ พราะมันทำให้ง่ายต่อการผลิตสินค้าที่ตอบโจทย์ และการทำตลาดของแบรนด์ อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจของมินิโซคือเรื่องการดีไซน์ที่อิงกลิ่นอายแบบญี่ปุ่น แน่นอนว่าการดีไซน์แบบเจแปนิส เป็นอะไรที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก ในแง่ของเอกลักษณ์ความเรียบง่าย สวยงาม และความน่ารัก
การมองหาตลาดใหม่ๆ ของมินิโซ ทำให้ภายใน 3 ปี มินิโซสามารถตีตลาดนอกประเทศจีนได้อยากรวดเร็ว โดยเปิดการลงทุนเป็น 2 เเบบ คือ
-นักลงทุนในประเทศลงทุนเงิน และทีมจากมินิโซเป็นผู้ดำเนินการทางธุรกิจ
-นักลงทุนซื้อแฟรนไชส์มาดำเนินการเอง โดยทีมมินิโซคอยตรวจสอบ
ด้วยการขยายออกไปมากกว่า 80 ประเทศ ทำให้มินิโซจำเป็นต้องผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคเเต่ละประเทศมากขึ้น จึงมีทั้งข้อดีเเละความท้าทายในเวลาเดียวกัน
ความสำเร็จของมินิโซที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไม่กี่ปี ทำให้หลายแบรนด์ที่อยู่มานาน อาจจะนั่งไม่ติดเก้าอี้ได้ ด้วยสไตล์สินค้าที่คล้ายกัน เเต่กลับมีความพรีเมียมเเละคุณภาพ ราคา ดีกว่า ถ้าหากอยากจะสู้ได้อาจจะต้องยอมลดราคา ลงมาสู้ก็ได้
ที่มา : workpointtoday
#themassmoney #money #miniso #กลยุทธ์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
