25 พ.ค. เวลา 00:00 • ข่าวรอบโลก

“ศาลโลก” สั่งให้อิสราเอลหยุดปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์

อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศยื่นขอ “หมายจับ” เนทันยาฮู
ข่าวด่วน ไม่เกินความคาดหมาย หลังจากแอฟริกาใต้ได้ยื่นคำร้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice : ICJ) ที่กรุงเฮก เพื่อขอมาตรการฉุกเฉินสั่งให้อิสราเอล “ยุติปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา” รวมถึงในเมืองราฟาห์ ซึ่งอิสราเอลกำลังปฏิบัติการโจมตีอยู่
.
ในคำร้องที่ยื่นเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2566 แอฟริกาใต้กล่าวหาอิสราเอลว่าละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและลงโทษอาชญากรรมการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดยขอให้ศาลพิจารณามาตรการชั่วคราวเพื่อป้องกันอันตรายต่อชาวปาเลสไตน์ และรับประกันว่าอิสราเอลจะปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
สมาชิกของทีมกฎหมายของแอฟริกาใต้ (ซ้าย) เข้าร่วมการพิจารณาคดีที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคำร้องของแอฟริกาใต้เกี่ยวกับการหยุดยิงในฉนวนกาซาในกรุงเฮก [Nick Gammon / AFP]
.
จากการไต่สวนเบื้องต้นในเดือนมกราคม ICJ ได้ออกมาตรการชั่วคราวหลายประการ โดยสั่งให้อิสราเอลดำเนินการเพื่อจำกัดความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา
.
หลังจากมีการไต่สวนมาแล้ว 3 ครั้ง และคณะผู้พิพากษา 15 คนได้ออกคำสั่งเบื้องต้นที่ต้องการควบคุมยอดผู้เสียชีวิตและบรรเทาความทุกข์ทรมานด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา แต่มาตรการชั่วคราวที่สั่งโดยศาลกลับไม่ได้แก้ไขสถานการณ์ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อมในขณะนี้ได้อย่างเต็มที่
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้ประกาศคำตัดสินตามคำร้องขอของแอฟริกาใต้ที่ขอให้สั่งยุติการโจมตีของอิสราเอลต่อราฟาห์
.
24 พฤษภาคม 2567 นาวาฟ ซาลาม (Nawaf Salam) ประธานศาล อ่านคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก ให้อิสราเอล “ยุติการโจมตีทางทหารโดยทันที รวมถึงการกระทำอื่นใดในเขตปกครองราฟาห์ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายต่อกลุ่มชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ที่อาจนำมาซึ่งการทำลายล้างทางกายภาพทั้งหมดหรือบางส่วน”
.
นอกจากนี้ ศาลยังตัดสินด้วยว่า ให้อิสราเอลเปิดทางข้ามราฟาห์เพื่อขอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ และยินยอมให้ผู้สืบสวนและให้การช่วยเหลือเข้าถึงฉนวนกาซาโดย “ไม่มีอุปสรรค” พร้อมทั้งให้อิสราเอลส่งรายงานเกี่ยวกับมาตรการที่ดำเนินการ ภายในหนึ่งเดือน
ผู้พิพากษา Nawaf Salam ประธานศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เรียกสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมใน Rafah ว่า 'หายนะ' [Reuters]
.
นาวาฟ ซาลาม ประธาน ICJ กล่าวว่ามาตรการชั่วคราวที่ออกในเดือนมีนาคมไม่ได้แก้ไขสถานการณ์ปัจจุบัน และศาลไม่เชื่อว่าความพยายามอพยพของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น "เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงอันใหญ่หลวงที่ประชากรปาเลสไตน์ต้องเผชิญอันเป็นผลมาจาก การรุกของทหารในราฟาห์”
.
ในระหว่างกระบวนการพิจารณาของศาล อิสราเอลได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของคดีนี้หลายครั้งว่าไม่มีมูลความจริง โดยโต้แย้งในศาลว่าปฏิบัติการในฉนวนกาซาเป็นการป้องกันตัวเองและมุ่งเป้าไปที่นักรบฮามาสที่เป็นผู้เริ่มโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566
.
คำตัดสินของ ICJ ถือเป็นที่สิ้นสุด และไม่สามารถอุทธรณ์ได้ แม้ว่าคำสั่งจะมีผลผูกพันทางกฎหมาย แต่ศาลไม่มีตำรวจมาบังคับใช้
คาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ
.
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังคำพิพากษาของ ICJ ก็คือปฏิกิริยาของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากนี่คือการเติมเชื้อไฟให้กับสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล หลังจากคาริม ข่าน (Karim Khan) หัวหน้าอัยการของ ICC ได้ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court : ICC) ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และโยอาฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ในข้อหา “ก่ออาชญากรรมสงคราม”
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล และรัฐมนตรีกลาโหม ยูอาฟ กัลลันต์ ในระหว่างการแถลงข่าวที่ฐานทัพทหารเคอร์ยา ในเทลอาวีฟ สำนักข่าวรอยเตอร์
.
อัยการ ICC ยังยื่นขอหมายจับผู้นำกลุ่มฮามาส 3 คน ได้แก่ ยาห์ยา ซินวาร์ (Yahya Sinwar), อิสมาอิล ฮานีเยห์ (Ismail Haniyeh) และโมฮัมเหม็ด ดิอับ อิบราฮิม อัล-มาศรี (Mohammed Diab Ibrahim Al-Masri) หรือที่รู้จักกันในชื่อ เดอิฟ (Dief)) ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ จากการสังหารพลเรือนหลายร้อยคน ตัวประกันอย่างน้อย 245 คน และการกระทำรุนแรงทางเพศต่อตัวประกัน
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู และนายยาห์ยา ซินวาร์หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธ
.
หมายจับดังกล่าวเป็นการยืนยันว่า อัยการกำลังเรียกร้องเพื่อต่อต้านผู้นำกลุ่มฮามาสที่เกี่ยวข้องกับการสังหารพลเรือนหลายร้อยคนในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2566 และการจับตัวประกันอย่างน้อย 245 คน ข้อกล่าวหาดังกล่าวรวมถึงอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในการทำลายล้าง การฆาตกรรม การทรมาน การข่มขืน ความรุนแรงทางเพศในรูปแบบอื่นๆ และอาชญากรรมสงครามจากการจับตัวประกัน การปฏิบัติที่โหดร้าย และทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
นายโมฮัมเหม็ด ดิอับ อิบราฮิม อัล มาสรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกลุ่มฮามาส
.
ในส่วนของนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูและรัฐมนตรีกลาโหม อัยการระบุว่า พวกเขาได้จัดทำ แผนร่วมกันเพื่อใช้ความอดอยากเป็นวิธีการทำสงครามและการกระทำรุนแรงอื่นๆ ต่อประชากรพลเรือนชาวกาซาเพื่อกำจัดกลุ่มฮามาส ติดตามตัวประกันที่กลุ่มฮามาสลักพาตัวกลับมา และลงโทษประชากรพลเรือนในฉนวนกาซาร่วมกัน ซึ่งอิสราเอลมองว่าเป็นภัยคุกคาม
นายอิสมาอิล ฮานีเยห์ หัวหน้าสำนักการเมือง กลุ่มฮามาส
.
คณะผู้พิจารณามีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า มีเหตุผลอันสมควรที่จะเชื่อได้ว่าผู้ต้องสงสัยที่ระบุข้างต้น ได้ก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติภายในเขตอำนาจศาลของ ICC
.
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าความเคลื่อนไหวของ ICC เป็นเรื่อง “อุกอาจ” และกล่าวหาว่า ICC ถือว่าการกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาเท่ากับการกระทำของกลุ่มฮามาส ซึ่งทำการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และนำไปสู่ความขัดแย้งในปัจจุบัน
.
แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้วิพากษ์วิจารณ์ศาล โดยตั้งคำถามเกี่ยวกับกระบวนการในการยื่นคำร้องนี้ รวมทั้งสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกาก็ได้ตำหนิ ICC และสภาคองเกรสกำลังเตรียมกำหนดมาตรการคว่ำบาตรอัยการและเจ้าหน้าที่ ICC เพื่อเป็นการลงโทษ
.
ทั้งนี้ ในอดีตปี 2563 รัฐบาลสหรัฐอเมริกา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหา ICC ว่าละเมิดอธิปไตยของชาติสหรัฐอเมริกา เมื่ออนุญาตให้มีการสอบสวนอาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน สหรัฐอเมริกาได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อ ฟาตู เบนซูดา (Fatou Bensouda) อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และเจ้าหน้าที่อัยการอาวุโส ฟากิโซ โมโชโชโก(Phakiso Mochochoko)
.
คำสั่งนี้ประกาศเป็นภาวะฉุกเฉินระดับชาติ มีการเพิกถอนวีซ่าสหรัฐอเมริกา อายัดทรัพย์สิน และห้ามเจ้าหน้าที่ ICC ที่ถูกระบุ พร้อมครอบครัว เกี่ยวข้องกับกิจกรรมบางอย่าง นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังข่มขู่ และขัดขวางการสืบสวนของ ICC ในอัฟกานิสถานและปาเลสไตน์อีกด้วย ต่อมาประธานาธิบดีไบเดน ได้ยกเลิกการคว่ำบาตรเหล่านั้นในเดือนเมษายน 2564 หลังจากเข้ารับตำแหน่ง
ปฏิกิริยาที่รุนแรงต่อการตัดสินใจของอัยการ ICC ที่จะดำเนินการต่อผู้นำอิสราเอลนั้นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดจากปฏิกิริยาของหลายๆ คนในวอชิงตัน หลังจากการตัดสินของศาลที่จะออกหมายจับให้กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว
การยื่นขอหมายจับของอัยการ ICC ทำให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกแถลงการณ์ทันที โดยใช้ถ้อยคำรุนแรงประณามอัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณียื่นขอให้ ICC ออกหมายจับตัวเขา ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติในฉนวนกาซา
.
นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมประณามว่า เป็นเรื่องไร้สาระ บิดเบือนความเป็นจริง และเป็นเรื่องน่ารังเกียจที่เปรียบเทียบอิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศประชาธิปไตย และกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ซึ่งเป็นกองทัพที่มีศีลธรรมมากที่สุดในโลก ให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นฆาตกรสังหารหมู่ ขณะที่กลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ประณามเช่นกันว่า ชาวปาเลสไตน์ตกเป็นเหยื่อ แต่กลับถูกกล่าวหาว่า ก่ออาญากรรมสงคราม
.
ทั้งสหรัฐอเมริกา และอิสราเอลไม่ได้เป็นภาคีในธรรมนูญกรุงโรมซึ่งจัดตั้งศาล ICC ขึ้น และทั้งสองฝ่ายถือว่าตนเองอยู่นอกเขตอำนาจศาลของ ICC แต่ “รัฐปาเลสไตน์” เป็นสมาชิกของศาลมาตั้งแต่ปี 2558 อย่างไรก็ตาม ผู้พิพากษาของ ICC ยังคงต้องอนุมัติหมายจับเพื่อให้มีผลใช้บังคับ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลาหลายเดือน
.
เหตุความขัดแย้งในดินแดนอิสราเอล-ปาเลสไตน์ นั้น ปาเลสไตน์ได้ขอให้ ICC สอบสวนในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์เป็นครั้งแรกในปี 2561 ในข้อหาก่ออาชญากรรมย้อนหลังไปถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสในปี 2557 ศาลเริ่มการสอบสวนในปี 2564 ในช่วงปลายปี 2566 ประเทศสมาชิกบังคลาเทศ โบลิเวีย คอโมโรส จิบูตี และแอฟริกาใต้ ได้ส่งคำร้องสงครามอิสราเอล-ฮามาสซึ่งเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2566 ไปยัง ICC ต่อมาชิลีและเม็กซิโกได้ร่วมลงนามในต้นปี 2567
.
ศาลอาญาระหว่างประเทศคืออะไร?
สถานที่ถาวรของศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
.
ธรรมนูญกรุงโรมซึ่งก่อตั้ง ICC ได้รับการรับรองในปี พ.ศ. 2541 และมีผลใช้บังคับเมื่อได้รับสัตยาบัน 60 ครั้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2545 ปัจจุบันศาลมีรัฐสมาชิก 124 รัฐ และแม้ว่าจะได้รับการรับรองจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ แต่ก็ดำเนินการอย่างเป็นอิสระ
ศาลได้ออกหมายจับแล้วทั้งหมด 42 หมายนับตั้งแต่ก่อตั้งในปี 2545 โดยผู้ต้องสงสัยครึ่งหนึ่งหรือ 21 คนได้ถูกควบคุมตัวแล้ว มีการตัดสินลงโทษ 10 ราย และปล่อยตัว 4 ราย
.
ศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่มีกองกำลังตำรวจของตนเอง ดังนั้นจึงอาศัยรัฐสมาชิกในการจับกุมผู้ต้องสงสัย
.
ศาลมีเขตอำนาจเหนือความผิด 4 ประเภทภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ:
● การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือเจตนาที่จะทำลายกลุ่มชาติ ชาติพันธุ์ เชื้อชาติ หรือศาสนาทั้งหมดหรือบางส่วน เช่นนี้
● อาชญากรรมสงคราม รวมถึงการละเมิดกฎหมายสงครามอย่างร้ายแรงภายใต้อนุสัญญาเจนีวา และการละเมิดอย่างร้ายแรงภายใต้กฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ เช่น การทรมาน การจับตัวประกัน การจงใจก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรง การจงใจโจมตีประชากรพลเรือน การโจมตีทรัพย์สินของพลเรือนที่ไม่มีการป้องกัน โรงเรียน อนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ หรือโรงพยาบาล การใช้ความอดอยากของประชากรพลเรือนเป็นวิธีการทำสงคราม หรือใช้ทหารเด็ก
● อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือการละเมิดที่กระทำโดยเป็นส่วนหนึ่งของการโจมตีขนาดใหญ่ต่อประชากรพลเรือนใดๆ รวมถึงการฆาตกรรม การข่มขืน การจำคุกอย่างไม่ยุติธรรม การเป็นทาส การประหัตประหาร การทรมาน หรือการแบ่งแยกสีผิว
● อาชญากรรมจากการรุกราน ซึ่งผู้นำทางการเมืองหรือการทหารวางแผนหรือดำเนินการใช้กำลังโดยรัฐที่ขัดต่อบูรณภาพแห่งดินแดน อธิปไตย หรือเอกราชทางการเมืองของรัฐอื่น หรือในลักษณะอื่นใดที่ไม่สอดคล้องกับกฎบัตรสหประชาชาติ
ธงชาติสหประชาชาติโบกสะบัดอยู่หน้าพระราชวังสันติภาพ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก
.
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศคืออะไร?
ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อ "ศาลโลก" ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2488 เพื่อใช้ระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศต่างๆ ศาลยังให้ความเห็นเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับคำถามทางกฎหมายที่ได้รับการอ้างถึงโดยองค์กรอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาตของสหประชาชาติ
ICJ เป็นศาลระหว่างประเทศเพียงแห่งเดียวที่ระงับข้อพิพาทระหว่าง 193 ประเทศสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งหมายความว่ามีส่วนสนับสนุนสำคัญต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก โดยเป็นช่องทางสำหรับประเทศต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องอาศัยความขัดแย้ง
ศาลสามารถตัดสินคดีได้สองประเภท: “คดีที่มีการโต้เถียง” คือข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างรัฐ และ “การพิจารณาคดีที่ปรึกษา” เป็นการขอความเห็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับคำถามทางกฎหมายที่อ้างถึงโดยหน่วยงานของสหประชาชาติและหน่วยงานเฉพาะทางบางแห่ง
ICJ แตกต่างจาก ICC อย่างไร?
มีความสับสนบ่อยครั้งระหว่างศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) วิธีที่ง่ายที่สุดในการอธิบายความแตกต่างก็คือ คดีของ ICJ เกี่ยวข้องกับประเทศต่างๆ และ ICC นั้นเป็นศาลอาญา ที่ดำเนินคดีต่อบุคคลในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามหรือก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
นอกจากนี้ ICJ และ ICC ต่างก็เป็นองค์กรของสหประชาชาติ แต่ ICC เป็นอิสระจากกฎหมายสหประชาชาติ แม้ว่าจะได้รับการรับรองจากสมัชชาใหญ่ก็ตาม
คำสั่งของ ICJ และICC นั้น คาดว่าอิสราเอลจะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว แต่ก็จะเพิ่มแรงกดดันต่อประเทศอิสราเอลที่จะโดดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อยๆ
ไม่มีอำนาจใดในโลกที่จะหยุดยั้งอิสราเอลจากการปกป้องพลเมืองของตนและไล่ตามกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
อาวี ไฮมาน โฆษกรัฐบาลกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อ 23 พฤษภาคม 2567
ที่มา :
โฆษณา