พลเมือง Trump อพยพ ลง Tiktok ดันยอดคอนเทนท์สนับสนุนทรัมพ์พุ่ง ต้านกระแสไบเดน
โลกเรานี้ มีอะไรที่มันแปลกแต่จริง ลักลั่น ย้อนแย้ง เยอะจริงหนา ออเจ้า โดยเฉพาะเมื่อมีคำว่า "การเมือง" เข้ามาเกี่ยวข้องขึ้นมาแล้วหล่ะก้อ ความรัก ความเกลียด เหยียด ยกย่อง ก็มักจะหาเส้นแบ่งตายตัวไม่ได้ สามารถลื่นไหลไปตามสถานการณ์ได้เสมอ
ไม่เว้นแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ กับ Tik Tok ที่เคยคิดว่ามันไม่มีวันบรรจบกันได้ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้ พลเมืองโซเชียลของทรัมพ์ต่างพากันอพยพมาลงแพลทฟอร์มที่เสี่ยอ่างแกเคยเกลียดนัก เกลียดหนา เพื่อหาเสียงให้แกกันยกใหญ่
แถมตอนนี้เริ่มจับกลุ่มฐานเสียงรุ่นใหม่ได้บ้างแล้วด้วย จนสื่ออเมริกันให้นิยามว่าเป็นปรากฏการณ์ "Trumpification" หรือการกลายเป็นพลเมืองทรัมพ์ ที่มีคอนเทนท์แนวคิดแบบทรัมพ์ๆ ขวาจัดๆ อเมริกันเป็นใหญ่ กระจายอยู่ใน Tiktok เต็มไปหมด
ถึงแม้ โดนัลด์ ทรัมพ์ ไม่เคยเล่น Tiktok แถมเจ้าตัวยังสนับสนุนการแบน TikTok ด้วยซ้ำ แต่วันนี้อาจจำเป็นต้องพึ่งพาเสียงสวรรรค์ของชาว Tiktok เสียแล้ว ถึงต้นกำเนิดของมันจะเป็นแพลทฟอร์มสัญชาติจีนก็ตาม
Tiktok อาจไม่ใช่โซเชียลมีเดียอันดับ 1 ของสหรัฐ และชาวอเมริกันส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ใช้ Tiktok เป็นสื่อโซเชียลหลัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า TikTok เติบโตมาได้ไกลมากในตลาดอเมริกา ที่ปัจจุบันมีบัญชีผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกามากถึง 170 ล้านคน แถมส่วนมากบัญชีที่ยัง Active เป็นประจำมักเป็นกลุ่มเด็ก เยาวชน คนรุ่นใหม่เสียด้วย
ซึ่งประชากร Tiktok กลุ่มนี้ แต่เดิมก็ไม่ใช่ฐานเสียงของทรัมพ์เลย เคยมีการสำรวจพบว่า กลุ่มผู้ใช้ Tiktok ในสหรัฐ ก็มักนิยมพรรคเดโมแครตเสียส่วนใหญ่ อีกทั้ง ระหว่างทรัมพ์ กับ ชาว Tiktok ก็เคยมีคดีความ คดีใจค้างเก่ากันอยู่ จากการที่ชาว Tiktok เคยร่วมกันพังงานปราศรัยหาเสียงใหญ่ของทรัมพ์ในรัฐโอคลาโฮมา เมื่อปี 2020 ด้วยการชวนกันไปลงทะเบียนเข้างานกันเกือบล้านแต่ไม่ไป ทำหน้างานโหรงเหรงจนทรัมพ์เสียหน้ามาแล้ว
แต่มาวันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป เมื่อวัยรุ่น Tiktok ในสหรัฐเริ่มไม่ ok กับโจ ไบเดน เมื่อรัฐบาลของไบเดน มีคำสั่งบังคับให้เจ้าของสื่อ TikTok จีนต้องขายกิจการให้ผู้ประกอบการสหรัฐ หรือไม่ก็แบน Tiktok ทั้งแพลทฟอร์ม ซึ่งมีโอกาสเป็นอย่างหลังเสียด้วย จึงเกิดกระแสตอบโต้จากกลุ่มชาว Tiktok ในสหรัฐ ที่เคยเป็นกลุ่มที่เทคะแนนให้กับไบเดนอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วมาก่อน
สมทบกับประเด็นเรื่องสงครามในกาซ่า ที่โจ ไบเดน ได้ออกมากล่าวสนับสนุนอิสราเอล ในแผนการโจมตีกาซาอย่างเต็มตัว ท่ามกลางกระแสต่อต้านสงครามของคนหนุ่มสาวในรั้วมหาวิทยาลัยสหรัฐ ซึ่งก็เป็นกลุ่มลูกค้าตลาดใหญ่ของ Tiktok
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คอนเทนท์สนับสนุนทรัมพ์ชนะไบเดนเติบโตอย่างก้าวกระโดดใน Tiktok อเมริกา เมื่อเทียบดูปริมาณคลิปที่เชียร์ทรัมพ์มีเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีมากถึงเกือบ 1.3 ล้านโพสต์ ในขณะที่คลิปเชียร์ไบเดนลดลงเหลือ 6.5 แสนโพสต์
พลเมืองทรัมพ์มองเห็นโอกาสในจังหวะนี้ จึงรณรงค์ให้แฟนคลับเดนตายไปช่วยกันดันคอนเทนด์ใน Tiktok เพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยมี C.J. Pearson อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง และเป็นประธานสภาที่ปรึกษาคณะกรรมการเยาวชนพรรครีพับลิกัน ออกมาสนับสนุนไอเดียนี้ และกล่าวว่า "ถ้าเรามัวแต่ปล่อยให้พวกเดโมแครต กับ พวกองค์กรฝ่ายซ้ายครอบครองคอนเทนท์ใน Tiktok ไป เราก็จะเสียฐานเสียงคนรุ่นใหม่อเมริกันไปจนหมด
ส่วนคลิปโปร-ทรัมพ์ที่เป็นกระแสส่วนใหญ่มักเป็นคลิปล้อเลียนไบเดน หรือคลิปตัดต่อทรัมพ์ปรากฏตัวตามที่ต่างๆประกอบดนตรี หรือไม่ก็คลิปคำปราศรัยคมๆ เกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ และ สิทธิของกลุ่ม LGBTQ+
แต่ปัญหาของทีมทรัมพ์ ก็คือ ยังหาอินฟลูเอนเซอร์ดังๆ ที่นิยมในหมู่เด็ก เยาวชนยังไม่ได้ ซ้ำร้าย ไอดอลที่พรรคมีอยู่ก็เป็นสายยี้ของกลุ่มวัยรุ่นอีกต่างหาก แถมตัวโดนัลด์ ทรัมพ์ เอง ก็ยังไม่มีบัญชี Tiktok ด้วยซ้ำ
ขนาดคลิปพูดหาเสียงโจมตีนโยบายแบน Tiktok ของ โจ ไบเดน เมือเดื่อนที่ผ่านมาว่า "หนุ่ม สาว ชาว Tiktok ทั้งหลาย อย่าลืมว่า ไอ่เจ้าเล่ห์ไบเดน คือคนที่พยายามแย่งชิง Tiktok ไปจากพวกคุณ ถ้าพวกคุณเป็นคนรุ่นใหม่ และถ้าพวกคุณฉลาดพอ ก็ขอให้โหวต โดนัลด์ ทรัมพ์" แกยังไปโพสต์ใน Truth Social แพลทฟอร์มที่แกสร้างเอง ซึ่งตอนนี้มียอดผู้ใช้งานรายเดือนแค่ 6 แสนคนเท่านั้นเอง สภาพ!!!
แต่ว่า อเล็กซ์ บรูสวิทซ์ นักยุทธศาสตร์ดิจิทัลของพรรครีพับลิกันเห็นต่าง เขามองว่า ทรัมพ์สามารถเอาชนะไบเดนในเวที Tiktok ได้ทั้งๆที่ตัวเขาไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอพมาใช้เองด้วยซ้ำ ก็ในเมื่อมีผู้สนับสนุนมากมายของทรัมพ์กำลังขยายตัวในแพลทฟอร์มนี้ และพร้อมทำคอนเทนท์หาเสียงให้เขาฟรีๆอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่เจ้าตัวต้องลงไปเล่นเอง
แต่ชาว Tiktok อเมริกันจะโดนหลอกง่ายปานนั้นเชียวรือ?
ในขณะที่ Tiktok กลายเป็นสื่อโซเชียลเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ง่าย และถูกใช้เป็นสื่อหาเสียงอย่างได้ผลในการเลือกตั้งใหญ่ในหลายประเทศมาแล้ว อาทิ อินโดนิเซีย หรือ อาร์เจนตินา ที่ผู้สมัครแถวหน้า ต้องลงมาร้องเล่น เต้น Tiktok หาเสียงกลุ่ม Young Voters กันแบบไม่ต้องอายความแก่
แล้วทรัมพ์ จะแค่นั่งบนหอคอยงาช้าง ปากก็เรียกชาว Tiktok มาโหวตให้ แต่ไม่ยอมลงไปเล่นเอง ก็ดูออกว่าไม่ค่อยจริงใจเท่าไหร่
เพราะไม่ว่าชาว Tiktok จะเลือกใคร ระหว่าง ไบเดน หรือ ทรัมพ์ สุดท้าย Tiktok ก็จะถูกแบน หรือ ถูกกดดันให้ถอยจากตลาดอเมริกันอยู่ดี
ไม่ต่างจากการเมืองสหรัฐ ที่มีอยู่แค่ 2 พรรคให้เลือก ไม่มีทางเลือกอื่น และไม่ว่าจะเลือกใคร สุดท้าย ชาวอเมริกันก็จะได้สงคราม ไม่กับจีน ก็กับรัสเซีย อยู่ดี ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และเสียงจากกลุ่มพลเมือง Tiktok ที่เป็นตัวแทนเด็กรุ่นใหม่ก็มักถูกลืมหลังเลือกตั้งเสมอ
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งช้อมูล
- 23
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
