26 พ.ค. เวลา 15:52 • ไลฟ์สไตล์
เรื่องของสมถะ เค้ากระทำให้ มุ่งมั่นให้กายสงบ ปราศจากเรื่องราวของอารมณ์ที่ปรุงแต่งเรือนกาย จิตที่ของเราที่อาศัยในเรือนกาย มันนอนเนื่อง เสวยอารมณ์ นึกคิด อารมณ์บอกว่าอะไรก็ทำตามที่อารมณ์เค้าบอกให้ ตาไปเห็นเค้าทำมาหากิน ก็ไปเรียนรู้อยาก ไปรับไปเรียนรู้เรื่องราวต่างเข้ามา ไปคบอันธพาล เห็นเค้าทำอะไรน่ะ ก็รับเอามาทำบ้าง โดยจิตที่อาศัยในเรือนกาย ไม่เคยรับรู้อะไ แยกแยะอะไร เลย ..ทำไปตามอารมณ์ อยาก ..อยากสมถ มันเป็นอย่างไรน่ะ
เค้ากต้องทำ ให้กายสงบ จิตสงบ จิตนั่นอาศัยอยู่ในเรือนกาย เรือนกายเป็นเหมือนบ้าน ที่มีอารมณ์นั้นอารมณ์นี้เกิดขึ้น เหมือนคนที่วุ่นวาย มาดมายในบ้านหลังนี้ที่เป็นกายที่อาศัย แล้วเราก็ไม่เคย ทำความรู้จัก กับคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ แล้วก็มีอารมณ์เหมือนคนนอกบ้านเข้ามาอีก มาทำความวุ่นวาย อะไรต่างมากมาย เราก็ไม่รับรู้ ไม่เคย มาทำความรู้จัก สะสางจัดระเบียบ เอาคนที่ไม่ดีออกไป มันก็เลยวุ่นวาย เหมือนคนเข้ามากินนินในบ้านหลังนี้ เจ้าของบ้านที่อาศัยในบ้านหลังนี้ ไม่ดูแล ..เอาเลย
เวลาจะเอาของเข้าบ้าน อาหารการกิดก็เลือกที่ดีๆสะอาดสะอ้าน ..แต่แขกอารมณ์ย่องเบาเข้ามา ..ก็มองไม่เห็น ไม่รับรู้ ได้ แขกก็มากันออกบ่อย อารมณ์นั้นนี่ มีทั้งเรื่ิงคนรัก คนไม่รัก คนที่คิดถึง ไม่คิดถึง คนที่สมปรารถนาไม่สมปรารถนา มันสลับหน้าเรียงกันเข้ามาไม่หยุดหย่อนเลย จนกว่าจะนอนหลับฝัน ..แม้แต่จะหลัย ก็ยังกวนกว่าจะหลับตานินไม่รู้เรื่องราว หลับเหมือนตายไปชาติหนึ่ง ก็ตื่นมาใหม่ หากิน แล้วนอนวนเวียนไปจนกว่า จะจากเรือนกาย มันไม่มีสงบเลย
หากในบ้านมันไม่สงบ จิตที่อาศัยบ้านหลังนี้จะมีความสุขมั้ย แล้วยังมีคนนั้นคนนี้ เที่ยววิ่งจุดไฟ ที่ตาเป็นไฟ หูหกเป็นไฟ คนอาศัยในบ้านก็ต้องร้อน ลุกลี้ลุกลน เหมือนเปิดประตูหน้าต่าง ให้ของเสียของเน่ามันเข้า มาตามอำเภออารมณ์
บ้านหลังนี้ มันไม่สงบ เดี๋ยวอารมณ์นั้นอารมณ์นี้เข้ามา เรื่องนี้เรื่องนี้ เรื่องกินที่ไหนอยู่ที่ไหน หากคนในบ้าน ..มันมีอยากอยู่ร่ำไป บ้านทั้งหลังที่จิตอาศัย ก็ต้องเคลื่อนที่ไป เอาที่สบายอกสบายใจอารมณ์ ที่ลุกขึ้นมา หากิน กินอิ่ม ก็พักเรื่องกิน เดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาอีก
ระหว่างที่กินอิ่มแล้ว ก็มีแขก เป็นอารมณ์นั้นนี่ ห่วงบ้าง คิดนั่นนี้ บันเทิงกับแขกอารมณ์ แล้วบ้านหลังนี้ มันสงบจริงไหม ให้ไปอยู่ในป่าคนเดียว ..ก็ยังมีแขกอารมณ์มาเยี่ยม หนีแขกอารมณ์ไม่ได้เลย ความสงบมันไม่เคยเกิดขึ้น เพราะไม่เคยรู้จักแขก พกพาทุกข์หรือสุขมาให้ มีแต่เพลินไปกับแขกอารมณ์ ที่ไม่เคยหยุดยั้งแขกเอาเสียเลย บ้านมันก็เลยไม่สงบเป็นสมถะเลย
บางทีแขกอารมณ์โกรธเข้ามา ก็ทำโกรธไปตามแขก แขกอารมณ์มันหิว ก็หิวไปตามแขก มันมีหลากหลายแขก มากมายในเรือนกาย หลากลายสัญชาติ ที่เข้ามา แขกที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรเข้ามา มันก็ทำให้เรือนกายบ้านหลังนี้ สิ่งประดับกายม้ามตับไตไส้พุง รูจมูก รูหู ม่านหมอกบังตา สาระพัดที่จะทำ
จิตที่อาศัยในเรือนกายก็ไม่ตื่นขึ้นมา หลับใหลสบาย ปล่อยให้บ้านหลังนี้เป็นไปตามยถากรรม ลับใหลไม่ตื่นมาดูแล อะไรมาทำให้มันเป็นอย่างนั้น บ้างว่ามันเป็นธรรมชาติ ใช่เลยธรรมชาตอของผู้มีกรรม ต้องรับกรรม มีบ้านให้สิ่งนั่นสิ่งนี้ มาทำลาย เค้าเป็นธรรมชาติ ตั้งอยู่แล้วก็เสื่อมสลาย ระหว่างที่เสื่อมสลาย ก็กอดบ้านที่กำลังผุพัง ..อ่อนอกอ่อนใจ ริอวันบ้านพังสลายดับสูญ ไม่รู้เลยว่า อยู่บ้านหลังนี้ มีอะไรให้ศึกษา ไม่รับรู้ได้เลย มาจากไหน มาแบบไม่รู้ ก็ไปแบบไม่รู้จักบ้านเลย
สมถะจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องปัดกวาด ภายในบ้าน ที่มันรกรุงรัง ให้สะอาดสะอ้าน อะไรบ้างที่รกรุงรัง ก็นานาแขกอารมณ์ ที่นำพาให้จิตมันยึดถือเรื่องราวต่างในโลก ที่วิญญาณหกนำมาให้ ปัดกววดมันทิ้งไป บ้านก็สะอาดสะอ้าน น่าอยู่อาศัย บ้านของจิตชั่วขณะหนึ่ง ก็รมเย็น สุขสงบ เป็นสถานที่ ที่จิตอาศัย ที่มีความสุขของจิต อยู่ที่ไหน ก็เป็นสุข
โฆษณา