ไข้เอกโทษ
ก่อนอื่นคำว่าไข้ นอกจากแปลว่าอาการป่วยในลักษณะ Fever, common cold หรือ influenza แล้ว เดิมทีคำว่าไข้ในทางแผนไทยหรือตามจารึกโบราณ ไข้แปลว่า อาการป่วย
ไข้เอกโทษถูกกล่าวถึงในคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ซึ่งเป็นคัมภีร์บทแรกในคัมภีร์แพทย์แผนไทย หรือแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์เล่มเขียว ซึ่งในนิยามบทแรกของฉันทศาสตร์ได้ให้นิยามไว้ว่า เป็นตำราที่ใช้กล่าวถึงและอ้างอิงตำราอื่นๆ
แต่ในบทความนี้ขอกล่าวถึงไข้ที่แปลว่า Fever , common cold หรือ Influenza ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีอาการเด่นคืออุณหภูมิร่างกายสูงกว่าระดับปกติ ทำให้มีอาการต่างๆอย่างเช่น ครั่นเนื้อครั่นตัว มีน้ำมูก เป็นหมัด มีเสมหะ หรืออาการอื่นๆอีกตามมาแล้วแต่ชนิดไข้
ในทางการแพทย์แผนไทยเรามีธาตุอยู่ 4 ตัว ที่หล่อหลอมในเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์และมีธาตุ 3 ธาตุที่เป็นตัวแปรทำให้เกิดการป่วยนั่นก็คือ ธาตุไฟ ธาตุลม และธาตุน้ำ
3 ธาตุนี้เป็นธาตุพื้นฐานที่คอยควบคุมสมดุลของร่างกายหากมีตัวใดตัวนึงกำเริบก็จะมีผลทำให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงตามอาการของธาตุนั้นๆตามๆมา เช่นเดียวกับการเป็นไข้ จะแสดงอาการออกมาตามธาตุดังนี้
ธาตุไฟ จะส่งผลทำให้มีไข้สูง คุ้มคลั่ง ตัวร้อน นัยน์ตาแดง หน้าแดง ปากขม
ธาตุลม จะทำให้มีอาการสะบัดร้อนสะบัดหนาว วิงเวียน หน้ามืด ตาลาย หัวใจสั่น เมื่อยสองหน้าขา นัยน์ตาพร่า เห็นแสงออกจากตา
ธาตุน้ำ จะทำให้มีอาการปากหวาน ขนลุกขนชัน แสยงขน มือเท้าเย็น
ไข้เอกโทษคือจะมีอาการ 1 ใน 3 ธาตุนี้ โดยจะมีช่วงเวลาในการกำเริบที่เป็นลักษณะเฉพาะตัวคือ ไม่ว่าจะเกิดจากธาตุใดก็แล้วแต่หากเป็นไข้เอกทา จะมีการกำเริบในช่วง เริ่มย่ำรุ่งจนถึงบ่ายสองหรือประมาณ 6โมงเช้าไปจนถึงบ่ายสอง
ไข้เอกโทษเป็นไข้ที่อาการไม่รุนแรงเนื่องจากเป้นการทำงานของธาตุที่กำเริบเพียงธาตุเดียว ในการรักษาสามารถจ่ายยาพื้นฐานอย่าง ฟ้าทะลายโจร เขียวหอม หรือจันทลีลาได้ โดยสามารถจ่ายทุกๆ 4 ชั่วโมงให้คนไข้ได้เลย
นอกจากนี้อาจแนะนำคนไข้เพิ่มเติมในการจ่ายยาเช็ดตัว โดยให้ใช้นิอุ่น 2 ลิตร ผสมข้าวสาร 2 หยิบมือ และบีบมะนาว 2 ลูก คนให้เข้ากัน และเช็ดย้อนรูขุมขนเพื่อระบายความร้อน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
