28 พ.ค. เวลา 08:58 • ปรัชญา
ตามปกติคนเรานั้น ชีวิตเยี่ยงฆราวาส เราอยู่กับอารมณ์ โลภโกรธหลง เหมือนโลกทั้งปวงที่เราอาศัยอยู่ มันปกคลุม ไปด้วยกระแสความโลภโกรธหลง ไปทั่วทั้งโลก เป็นเหมือนเส้นใย แมงมุม หากจะว่า โลกทั้งใบ มิติโลกมนุษย์สัตว์ปกคบลุมไปด้วย กระแสความโลกโกรธหลง แม้ทุกอนุทุกขุมขน ก็ปกคลุมด้วยอารมณ์ตัวกระทำทั้งสิ้น
เค้าจึงมีการแบ่งสร้างสถานที่ เป็นสถานที่ ที่ของธรรม เป็นวัดว่าอารมาให้เป็นสถานที่ธรรม ให้มนุษย์เข้าไปในสถานที่ ธรรม ก็ทิ่งเรื่องราวของอารมณ์ ไว้นอกสถานที่นั้น ไม่ต้องนำเข้าไป สถานที่นั้นมีโบสถ์ ศาลา มีมีพระปฏิมากร นั่งเป็นสมมุติ ..นั่งนิ่งๆ ไม่มีอะไรเลย นั่งนิ่งทั้งวันทั่งคืน ไม่มีอารมณ์อะไรปรุงแต่งให้ขยับเขยื้อน
เมื่อเราเข้าไปสถานทีของธรรม เป็นสถานที่ เหมาะสม สมควร แก่การประพฤติปฏิบัติธรรม ไม่มีเสียงทไม่มีอารมณ์ต่างๆ มีแต่ความสงบ ก็นำพากายจิตใจ ให้เราสงบ เข้าไปกราบพระ นั่งภาวนา พุทโธ ทำกายนิ่ง กายนิ่งๆ จิตนิ่ง เหมือนพระปฏิมากร เราก็ได้พบความสุขของกาย ของจิตที่ไม่นึกคิดอะไร ละอารมณ์วุ่นวาย ของโลกไปได้ชั่วขณะหนึ่ง ที่เข้ามาในสถานที่นั้นที่เหมาะสม
คราวนี้ เราก็มาดูสถานที่ ที่อยู่ของจิต เราไปที่ไหนที่บ้าน มันเป็นสถานที่อันไม่สมควร .
เราก็มาทำสถานที่ ที่จิตอาศัย ให้เป็นเหมือนวัด เหมือนที่ที่เราสมควร จะปฏิบัติธรรม ..เราก็ทำเหมือนที่เราไปวัดมา เหมือนกับเราแบ่งเวลาไปวัด วัดที่ยิ่งใหญ่ อยู่ที่กายพ่อแม่ ที่จิตเราอาศัยอยู่ เราก็มาทำวัดนี้ ให้จิตอาศัย ให้มันสงบ เราก็มาตั้วัดที่ใจเรา ยุติเรื่องราวอารมณ์ทั้งหมดชั่วขณะหนึ่ง ตรงนี้ เราก็มาทำกายเราให้เป็นวัด ไม่มีอารมณ์ ทั้งเรือนกาย ทำได้ทุกอนูเส้นขนให้ไม่มีอารมณ์กรรม ตัวกระทำได้ ยิ่งดี
เมื่อสถานที่ จิตอาศัย คือ กายนี้ไม่มีอะไรรบกวน ไม่อารมณ์นึก กายว่างเว้นจากอารมณ์ กาย์พักจิตก็พัก จิตว่สง..ไม่มีอารมณ์ เพราะในกายไม่มีอารมณ์กรรมปรุงแต่ กายก็เป็นสข ใจก็เป็นสุข ..สุขกายสุขใจ เกิดขึ้น
เวลาไปร่วมทำบุญ บางที่ก็เจอะเจอเรื่องวุ่นวาย คนนั้นคนนี้ ดูแล้ว เหมือนสถานที่วุ่นวาย เป็นที่ไม่สมควรสร้างบุญกุศล มันวุ่นวาย แล้วมันจะเกิดบุญกุศลได้อย่างไร เราก็ทำสถานที่ของเรา ให้เป็นที่อันสมควร ให้จิตเราอาศัยอยู่ เราก็นั่งนิ่ง ทำจิตนิ่ง บอกตัวเอง จิตของข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเรื่อนกายคุณบิดามารดา บอกตัวเองให้หูได้ยิน
แล้วเราก็นั่งภาวนา พุทโธของเราไปในใจ ดูที่ผ้าเหลือง (อย่าดูที่ตัวบุคคล) ที่เป็นเครื่งหมายของธรรม กำหนดจิตอนุโมทนา บุญกุศลในครั้งนี้ขึ้น ให้ทำตอนที่เค้าถวายของ (เมื่อผู้ที่มาถวายปัจจัย ไม่เห็นความสำคัญ ไม่ตั้งใจ ไม่นอบน้อมในเครื่องหมายธรรม) บุญกุศลทั้งหมด ก็จะไปอยู่กับผู้ที่ที่นั่งทำกายนิ่งๆ ตาบันทึกภาพ ที่ทำบุญกุศล แต่ผู้ที่ถวานชย ไม่เห็นความสำคัญไม่นิ่ง ไม่เอากิริยาใช้กายพ่่อแม่มาทำกิริยาดีถวายของ . บุญกุศลก็จะไปอยู่กับผู้ที่นั่งนิ่ง สงบภาวนา ดูเค้าทำบุญถวายเครื่องหมายธรรม (พระท่านบอกมา)
บางที ไปงานศพ ที่ผู้วายชนม์มีบุุตรธิดา ตอนที่ เ๕้าถวายของหลัง พระสวดอภิธรรมเสร็จ ก็มีวแต่เชิญแขกผู้ม่เกียรติ ถวายของ ที่จริงควรจะให้บุตรธิดาถวายด้วยสักคนก็ยังดี เพราะบุตรธิดา ส่งบุญกุศลให้ได้เต็มที่ หากตั้งใจกระทำ เพราะมีธาตนะโม ธาตุพ่อม่ที่จิตลูกอาศัย สามารถที่จะต่อถึงกันได้ หากทำไม่ได้ บุตรธิดา ก็ควรนำของปัจจัยนั้นไปกล่าวถวาย หน้าพระพุทธ ระลึกน้อมถวายพระพุทธเจ้า กรวดน้ำเลย แล้วค่อยลามาถวาย ตามประเพณี
โฆษณา