29 พ.ค. เวลา 13:40 • การตลาด

เพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ฉันเป็นนักเขียนนวนิยายในวันนี้

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เพจผู้สังเกตการณ์ขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับอีกหนึ่งอาชีพบนโลกออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมนั่นคืออาชีพ “นักเขียนนวนิยาย” กับบทสัมภาษณ์ของนักเขียนอาชีพท่านหนึ่งที่น่าสนใจมาก ๆ กว่าท่านจะมายืนอยู่บนเส้นทางนักเขียนนวนิยายนั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : สวัสดีค่ะคุณนักเขียน เชิญแนะนำตัวกับเพื่อน ๆ หน่อยคะ
นักขียน : สวัสดีค่ะ ชื่อกัญญ์ภัคญา ทองพูน  ชื่อเล่น โช ค่ะ อายุ 44 ปี
ผู้สังเกตการณ์ : ในการสนทนากันครั้งนี้แอดมินขออนุญาตเรียกว่า ‘คุณโช’ นะคะ
นักเขียน : ยินดีค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : คุณโชมีชื่อนามปากกาว่าอะไรบ้างคะ
นักเขียน : มีนามปากกา เงาจันทราสีหมึก, เฟยเทียน, กัญญ์ญาภัค มีสามนามปากกาค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : แต่ล่ะนามปากกาคุณโชแยกหมวดหมู่การเขียนนิยายยังไงบ้างคะ
นักเขียน : นามปากกา ‘เงาจันทราสีหมึก’ แนววิญญาณ มีสืบสวนและคดีฆาตกรรม นามปากกา ‘เฟยเทียน’ จะเป็นนิยายจีนโบราณ ย้อนยุค ส่วนนามปากกา ‘กัญญ์ญาภัค’ จะเป็นแนวทั่ว ๆ ไปรวมถึงรักใส ๆ ค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : น่าทึ่งมากเลยค่ะ แต่ล่ะชื่อแยกหมวดหมู่ไว้ชัดเจน เหมาะกับแนวนิยายที่เขียนด้วย
คุณ กัญญ์ภัคญา ทองพูน ตอนไปสัมภาษณ์กับเด็กดี
ผู้สังเกตการณ์ : จุดเริ่มต้นที่พาให้คุณโชเข้ามาสู่วงการเขียนนิยาย เริ่มจากตรงไหนคะ
นักเขียน : จุดเริ่มต้นเกิดจากเราไม่มีรายได้ เพราะก่อนหน้านี้โชประสบอุบัติเหตุต้องผ่าตัดใส่เข่าเทียม ตอนนั้นผ่าตัดถึงสองครั้ง และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เราลงเรียนปรับวุฒิ และอีกวันกำลังจะไปรับวุฒิการศึกษาแต่มาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน เราใส่เฝือกและรักษาตัวอยู่นานมากค่ะ หลายเดือนกว่าจะกลับมาเดินได้ แต่ว่ามันก็ยังไม่ปกติค่ะ
ในช่วงนั้นคือมืดไปหมด แฟนทำงานคนเดียวจึงได้ลองตัดสินใจเขียนนิยายซึ่งเรื่องแรกคือเรื่อง “ขวัญชีวาคุณแม่สุดแกร่ง” เพราะตอนนั้นเราคิดถึงคุณแม่มาก ท่านจากไปนานแล้วรวมถึงเตี่ยด้วย ในตอนที่แต่งนิยายเราก็คิดว่าหากขายไม่ได้ก็คิดว่าเราได้ทำตามฝันที่มีมาตั้งแต่เด็กก็แล้วกัน แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาจนถึงตอนนี้คือมันดีมากที่สุด เพราะตอนนั้นเรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่าเลย จำได้ว่าตอนอยู่โรงพยาบาลเกือบเดือนร้องไห้ทุกวัน โชคดีที่มีพยาบาลมาคอยพูดคุยด้วย เขาให้กำลังใจเรามาก อยากขอบคุณพยาบาลคนนั้นด้วยค่ะ😁
ตั้งแต่ตอนแรกที่เราเริ่มแต่งนิยายตอนนั้นคือชีวิตติดลบเลยค่ะ แฟนก็เริ่มมีรายได้น้อย ลูกก็ต้องเรียนเราก็เลยคิดว่าลองดูสักตั้งก็แล้วกัน เราอาศัยความชอบจากการอ่านมาตั้งแต่เด็กค่ะ อ่านทุกอย่างจนทุกวันนี้ค่ะยิ่งมาเขียนงานอย่างต่อเนื่องเราจึงยิ่งพัฒนาตนเองขึ้นมาได้เรื่อย ๆ ค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : ถือว่าการประสบอุบัติเหตุในครั้งนั้นเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตของคุณโชเลยก็ว่าได้
นักเขียน : ใช่ค่ะ
ภาพบรรยากาศตอนคุณโชไปอัดรายการให้สัมภาษณ์กับเด็กดี
ผู้สังเกตการณ์ : คุณโชมีใครหรืออะไรที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับการเขียนนิยายไหมคะ
นักเขียน : แรงบันดาลใจในการเขียนนิยายที่ทำให้เรายังคงมีแรงเขียนต่อไปคือนักอ่านที่น่ารัก และครอบครัวค่ะ ทุกวันนี้เราได้รับการยอมรับจากนักอ่านพอสมควร จากนักหัดเขียนที่ไม่มีคนรู้จักในวันนั้น พอเราลงมือแต่งและทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทำให้เรารู้ว่ามีนักอ่านคอยให้กำลังใจและคอยสนับสนุน รวมถึงเรามีรายได้ที่มากพอช่วยแบ่งเบาภาระของสามี รวมถึงยังทำให้เราเลี้ยงลูกได้ ส่งลูกเรียนได้อย่างที่ไม่ต้องกังวลเหมือนแต่ก่อนที่ไม่รู้ว่าอยู่ไป วัน ๆ เพราะอะไร
จากชีวิตที่คิดลบในตอนนั้น ในตอนนี้แม้จะไม่เรียกว่ามีฐานะดีแต่เราก็ไม่ลำบากเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ อีกทั้งเรายังมีรถยนต์จากการเป็นนักเขียนนิยายด้วย แม้จะเป็นรถมือสองก็ตาม แต่นี่คือรางวัลที่ทำให้เราไม่ท้อค่ะ
คิดถึงตอนนั้นที่เราเคยร้องไห้ทุกวันเพราะรู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ แต่ในตอนนี้เรารู้สึกเห็นค่าของตัวเองมากขึ้น อีกทั้งยังมีความสุขที่สามารถทำในสิ่งที่รักได้ และมีผู้คนมากมายคอยสนับสนุน จึงทำให้เราคิดบวกขึ้นมาได้ว่าหากไม่มีอุบัติเหตุในครั้งนั้นจนต้องใส่เข่าเทียมและน็อตทั้งขาก็คงไม่มีเราที่เป็นนักเขียนในวันนี้ค่ะ ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่เช่นกัน
ผู้สังเกตการณ์ : กำลังใจจากผู้คนที่เรารักและรักเราสำคัญมาก ๆ และยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลัง อีกทั้งคุณโชก็มีหัวใจที่เข้มแข็งมากที่สามารถพาตัวเองกลับมาทำงานได้อีกครั้ง
นักเขียน : ขอบคุณค่ะ กว่าจะผ่านมาได้ก็สาหัสค่ะ
ภาพคุณโชในวัยเด็กยืนถ่ายรูปคู่กับคุณแม่ และเธอใช้ภาพนี้เป็นภาพปกนิยายเรื่องแรกคือเรื่องขวัญชีวาคุณแม่สุดแกร่งด้วย
ผู้สังเกตการณ์ : เข้มแข็ง​มา​กค่ะ คุณโชมีใครเป็นไอดอลในการทำงาน​คะ
นักเขียน : คนที่เป็นไอดอลหรือผู้มีอิทธิพลคือคุณแม่ค่ะ แม่ของเราเป็นผู้หญิงที่เก่งมากและทำงานหนักมาก ทั้งชีวิตของแม่ลำบากมากค่ะ เราก็เลยคิดว่าหากสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของแม่ให้เจอคนดี ๆ ได้ก็คงดีแต่ไม่ได้หมายถึงเตี่ยเราไม่ดีนะคะเพียงแต่เมื่อไหร่ที่เขาดื่มเหล้าเตี่ยจะกลายเป็นอีกคน นี่แหละค่ะที่เขาเรียกกันว่าน้ำเมาเปลี่ยนนิสัย
ตอนนี้ท่านก็จากไปแล้วทั้งคู่ แม่เราเองก็คงรักเตี่ยของเรามากท่านถึงยอมเหนื่อยจนตัวตายค่ะ ด้วยความคิดแบบนี้จึงได้เกิดเรื่องขวัญชีวาค่ะ และตัวละครในเรื่องคือเหนื่อยไม่น้อยเลยเหมือนกันแต่จะเหนื่อยแบบไหนต้องลองไปอ่านดูค่ะ😁
ผู้สังเกตการณ์ : คุณแม่เป็นทั้งแรงบันดาลใจและยังต่อยอดมาเป็นพล็อตในการเขียนนิยายด้วย แอดมินฟังแล้วเริ่มอยากรู้แล้วสิคะว่าในชีวิตจริงกับในนิยายเรื่องราวจะเป็นยังไง
นักเขียน : เรื่องขวัญชีวาค่ะ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจนักอ่านด้วยนะคะ
ผู้สังเกตการณ์ : เรื่องเล่าที่ถ่ายทอดมาจากประสบการณ์ตรงของชีวิต มักจะทรงพลัง เข้าถึงใจผู้อ่าน เรื่องนี้ไม่พลาดแน่นอนค่ะ
นักเขียน : เขียนด้วยหัวใจเลยค่ะ
นิยายเรื่อง ขวัญชีวา คุณแม่สุดแกร่ง
ผู้สังเกตการณ์ : คุณโชมีความเห็นยังไงบ้างคะกับวงการนวนิยายในบ้านเราตอนนี้
นักเขียน : สำหรับเรามองว่าไม่ว่าจะวงการนิยายหรือไม่ใช่เส้นทางนี้ก็ไม่ได้ราบรื่นทุกอย่างค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : เวลาเจอกับคำวิจารณ์ที่เป็นลบ คุณโชมีวิธีคิดวิธีรับมือยังไงคะ
นักเขียน : บางครั้งเราต้องเจอความคิดเห็นที่ไม่ดี ก็ทำให้จิตตกได้ แต่เราก็จะต้องข้ามความรู้สึกนี้ไปให้ได้ พยายามคิดว่าเราไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกชอบเราได้ ดังนั้นสิ่งไหนควรปล่อยก็ต้องปล่อยค่ะ
ในมุมมองของเรา เราคิดว่าต้องพยายามพัฒนางานของตัวเองให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ อย่าเอาเวลาไปให้ค่ากับเรื่องไร้สาระ หรือทำให้เราคิดมาก หากจะเศร้าหรือผิดหวังก็ขอแค่แป๊บเดียว จากนั้นต้องฮึดกลับมาให้ได้เพราะสำหรับเรานั้นอาชีพนักเขียนเป็นทุกอย่างให้เราค่ะ ไม่ว่าจะรายได้หรือเวลาที่สามารถบริหารเองได้ ที่สำคัญยังทำให้เราได้พูดคุยกับนักอ่านที่ชื่นชอบและติดตามงานทำให้เรามีความสุขค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : เป็นแนวคิดที่ดีมาก ขอบคุณค่ะ
นักเขียน : คิดถึงนักอ่านที่น่ารักดีกว่าค่ะ จะทำให้เรามีกำลังใจเพิ่มขึ้น
นิยายเรื่อง เมื่อฉันต้องกลายเป็นสาวชาวนายุค 2499
ผู้สังเกตการณ์ : ถ้าตอนนี้มีผู้คนสนใจอยากเข้ามาเป็นนักเขียนนวนิยายบ้าง คุณโชพอจะแนะนำ ๆ คร่าว ๆ ได้ไหมคะ
นักเขียน : ฝากถึงน้อง ๆ และผู้ที่กำลังจะเข้ามาในวงการนี้นะคะ ในเมื่อคิดอยากเป็นนักเขียนต้องลงมือทำค่ะ อย่ากลัวที่จะเขียน หากว่าเราไม่ลงมือทำเราไม่สามารถรู้ได้หรอกค่ะว่าผลจะเป็นยังไง จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ดีแต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าเราได้ทำมันแล้วค่ะ
ผลงานมหัศจรรย์ของโลกมากมายก็ยังไม่ได้สร้างสำเร็จในวันเดียว ดังนั้นงานเขียนของเราก็เช่นกันตราบใดที่เรามีความมุ่งมั่น ความพยายามก็ไม่ทอดทิ้งเราค่ะ (อยากให้ทุกคนลองคิดบวกค่ะ) จากคนที่ชีวิตเคยติดลบและทุกวันนี้แม้จะเดินได้แต่บุคลิกก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะขาไม่เท่ากัน
นิยายในนามปากกา เฟยเทียน
ผู้สังเกตการณ์ : เป้าหมายในการเป็นนักเขียนของคุณโชละคะ
นักเขียน : ความฝันของเรา ในตอนแรกคือขอให้ได้สัมภาษณ์ลงในเว็ปไซต์เด็กดีค่ะ ตอนที่ยังไม่ได้เป็นคนแต่งนิยาย เราเป็นแฟนตัวยงของแอปนี้ค่ะ ในตอนนั้นยังทำงานได้ มีเงินเดือนก็เปย์ไปเยอะเหมือนกันค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : เริ่มจากการเป็นนักอ่านมาก่อน
นักเขียน : ใช่ค่ะ เราเป็นนักอ่านตั้งแต่เด็กดีเริ่มทำแอปเลยก็ว่าได้และได้เห็นบทสัมภาษณ์นักเขียนเรารู้สึกชื่นชมพวกเขามากค่ะ แต่นักเขียนคนอื่นเราก็ชอบนะคะเพราะเราคิดว่าพวกเขาเก่งมากที่สามารถเขียนนิยายออกมาให้อ่านได้ กระทั่งเราประสบอุบัติเหตุและได้มาแต่งนิยายด้วยตัวเอง
ผู้สังเกตการณ์ : ตอนนี้บรรลุเป้าหมายแล้ว
นักเขียน : ค่ะ ก็ได้รับการติดต่อให้ไปสัมภาษณ์มาแล้วจำได้ว่าตัวเองตื่นเต้นมากค่ะ ทีมงานเป็นกันเอง น่ารักสุด ๆ ด้วยค่ะ
ผู้สังเกตการณ : ยินดีกับความสำเร็จด้วยนะคะ
นักเขียน : ขอบคุณค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : เป้าหมายต่อไปของคุณโชละคะ
นักเขียน : ตอนนี้ขอให้ตัวเองสามารถแต่งนิยายไปได้นาน ๆ ค่ะ ที่สำคัญคือขอให้นักอ่านให้การตอบรับและสนับสนุนด้วยนะคะ🙏(โหมดอ้อนค่ะ😁😁)
ผู้สังเกตการณ์ : เป็นนักเขียนที่น่ารักจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมถึงมีแฟนคลับเยอะแบบนี้ คุณโชอยากขอบคุณใครเป็นพิเศษไหมคะ
นักเขียน : บนเส้นทางนี้ อยากขอบคุณสามีมากที่สุดค่ะ เขาเลี้ยงดูเรามาตลอดช่วงเวลา7-8 ที่เราว่างงาน และไม่เคยทอดทิ้งเราในตอนที่ยังเดินไม่ได้ ทั้งยังไม่เคยพูดให้เราเสียกำลังใจเลยแม้แต่ครั้งเดียว ปลอบใจเราตลอดที่ร้องไห้ ตอนที่เราโดนรถชนระหว่างรอผ่าตัดครั้งที่สอง เขาบอกว่า “ร้องทำไม ไม่ต้องทำงานก็สบายดีออกเขาเลี้ยงได้ จะมีใครสบายแบบนี้เหมือนเธออีก” 😂 เรานี่ยิ้มทั้งน้ำตาเลยค่ะ🤣🤣
แต่เขาก็ทำตามที่พูดมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าเราจะทำงานได้เองก็ตาม และขอบคุณพี่สองคนที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลยทางสายเลือดแต่ดียิ่งกว่าพี่น้องแท้ ๆ ทั้งพาเราไปหาหมอตามนัด ไปเป็นเพื่อนขึ้นโรงพักขึ้นศาลตามนัดกับคนที่ขับชนเพราะเขาไม่คิดรับผิดชอบ ก็เลยต้องฟ้อง ซึ่งเขาก็บ่ายเบี่ยงบอกเพียงแต่ว่าไม่มีเงิน ตอนนั้นเรายังต้องใช้สี่ขาอยู่เลยค่ะ ลงน้ำหนักก็ไม่ได้ต้องมีคนช่วยอุ้มขึ้นลงบันไดศาลก็มีแฟนพี่ผู้หญิงช่วย เราจึงนับถือคนทั้งสองเป็นยิ่งกว่าญาติค่ะ
และสุดท้ายขอบคุณนักอ่านที่ให้การตอบรับ นักอ่านบางคนตามมาตั้งแต่เรื่องแรกจนถึงตอนนี้ ขอบคุณแอปลงนิยายด้วยค่ะทั้งเด็กดี รี๊ดอไรต์ และ mebไม่อย่างนั้นนักอ่านคงไม่เห็นผลงานเรา
ผู้สังเกตการณ์ : นอกจากเขียนนิยายเป็นงานหลักแล้ว คุณโชมีงานอื่นทำเพิ่มด้วยไหมคะ
นักเขียน : ปัจจุบันนี้เป็นนักเขียนอย่างเดียวค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : การเป็นนักเขียนนวนิยายสามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของนักเขียนเองว่าจะไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ กับอาชีพที่เป็นอิสระ ไม่มีเพดานรายได้ ได้ใช้จินตนาการเต็มที่ ทำที่ไหนก็ได้ ทำตอนไหนก็ได้ หรือจะทำเป็นอาชีพเสริมจากงานประจำก็ได้เช่นกัน
นักเขียน : ใช่ค่ะ ขอแค่ทำจริงจัง ตั้งใจ และไม่ย่อท้อ
ผู้สังเกตการณ : ได้ข่าวมาว่าตอนนี้คุณโชก็กำลังสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งมาจากน้ำพักน้ำแรงของการเป็นนักเขียนนิยาย
นักเขียน : บ้านหลังใหม่ ถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจแต่ขออุบไว้ก่อนนะคะ กำลังสร้างค่ะ
ผู้สังเกตการณ์ : แอดมินขอยินดีกับทุกความสำเร็จเลยนะคะ คำถามสุดท้ายแล้วค่ะ คุณโชฝากผลงานให้แฟน ๆ ได้ติดตามกันด้วยค่ะว่ามีเรื่องอะไรบ้าง
นิยายของกัญญ์ภัคญา ทองพูน
นักเขียน : เริ่มจาก ‘ขวัญชีวาคุณแม่สุดแกร่ง’ ‘ตะวันเหนืออสงไขย’ ตอนนี้มีสองภาคค่ะ ภาคสุดท้ายจะมาเร็ว ๆ นี้ ซึ่งแต่ละภาคนั้นสามารถอ่านแยกได้ค่ะ ‘’ผมพบเขาที่สุสาน’ ผลงานจีนมี ‘ซูเหยา เมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย’ ‘ฉินเซียวเมื่อฉันกลายเป็นสาวชาเขียวในนิยาย’ ‘ข้าเกิดใหม่เป็นคุณหนูตกอับตระกูลบัณฑิต’ ‘ฉันเกิดเป็นหลานสาวชาวนายุค60’ และยังมีอีกหลายเรื่องค่ะใน “นามปากกา เฟยเทียน”
ส่วนผลงานล่าสุดที่กำลังเขียนเป็นนิยายชนบทค่ะ ‘เมื่อฉันกลายเป็นสาวชาวนายุค2499’ เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการไปนั่งฟังคุณตาคุณยายคู่หนึ่งพูดให้ฟังในช่วงที่เขายังเป็นเด็ก แล้วเราก็เอาไอเดียตรงนั้นมาเขียนพล็อตใหม่ให้เป็นโลกคู่ขนานค่ะ ขอฝากเอาไว้ในอ้อมอกของนักอ่านทุกท่านด้วยนะคะ และสุดท้ายขอขอบคุณ คุณแสง อักษรผู้เขียนบทความสัมภาษณ์ค่ะ 🙏🥰
ผู้สังเกตการณ์ : ยินดีและขอบคุณคุณโชเช่นกันค่ะที่มาร่วมพูดคุยและให้ทางเพจสัมภาษณ์ ถือเป็นเกีรยติและเป็นความโชคดีของทางเพจผู้สังเกตการณ์ ที่ได้มีโอกาสส่งต่อข้อมูลเรื่องราวที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อ่าน ขอบคุณค่ะ
เครดิตภาพปกนิยายของ กัญญ์ภัคญา ทองพูน
แอดมินหวังใจเป็นอย่างยิ่งว่าบทความสัมภาษณ์นักเขียนในครั้งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจและเป็นเรื่องราวที่ประทับไว้ในใจของทุกคน
มีหลายครั้งในระหว่างที่เราได้พูดคุยกันและน้ำตาแห่งความปลื้มปิติก็ปริ่ม ๆ ที่หน่วยตา จนต้องหยุดการสนทนา และแม้แต่ในการเขียนบทความนี้ที่อ่านทวนกี่ครั้งความรู้สึกนั้นยังคงอบอุ่นในหัวใจ 💓
ขอส่งต่อความรักนี้ให้ทุกคนค่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจผลงาน ติดต่อ ติดตาม สอบถามเพิ่มเติม ช่องทางติดตามนักเขียนทางนี้ค่ะ 👇
ขอบคุณค่ะ
โฆษณา