8 มิ.ย. เวลา 04:00 • การ์ตูน

Kimagure Orange Road : ถนนสายนี้เปรี้ยว

เมื่อวันก่อนเปิดยูทูบแล้วเจอเพลงนี้เข้าให้
เป็นเพลงประกอบanimeเรื่องหนึ่งที่ฮิตกันที่ญี่ปุ่นช่วงยุค80's-90's
ฟังแล้วก็ เออ รำลึกความหลังในยุคนั้นได้สบายมาก เพลงมันเป็นpopใสๆแบบญี่ปุ่นที่ฟังง่ายและติดหู
ลองฟังกันดูครับ
animeที่ว่ามาสร้างจากมังงะชื่อเดียวกันคือKimagure Orange Road เนื้อเรื่องและภาพโดย อ.อิซูมิ มัตซึโมโตะ(ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ตีพิมพ์ลงในนิตยสารโชเน็งจัมป์ระหว่างปี1984ถึง1987 ได้รับความนิยมมากจึงมีการสร้างเป็นanimeขึ้นรวม48ตอน และมีOVA8ตอน หนังโรง2ตอน และsequelออกมาเมื่อปี1997ด้วย ซึ่งได้รับตวามนิยมอย่างสูง
cr. google อ.อิซูมิ มัตซึโมโตะ R.I.P.ครับ
ในไทยรับชมได้ทางช่อง3ช่วงเย็นในชื่อหนุ่มเฟื่อง สาวเฟี้ยว เท่าที่จำได้ไม่เป็นที่นิยมนักแต่ก็ยังฉายได้ครบทุกซีซั่น
ในส่วนของหนังสือ มีการตีพิมพ์ครั้งแรกๆโดยสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ไม่มีลิขสิทธิ์ถูกต้องแต่มีการตีพิมพ์จบครบทุกเล่ม ปัจจุบันได้ยินว่ามีลิขสิทธิ์ถูกต้องแล้ว พิมพ์ใหม่ก็ขายเกลี้ยงแผงเหมือนกัน
เนื้อเรื่องในมังงะกับanimeเกือบเหมือนกันทั้งหมด มีการดัดแปลงบ้างเล็กน้อยเท่านั้น
เนื้อเรื่องเป็นแบบรักสามเส้าของวัยรุ่นมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีความเป็นโรแมนติกคอมเมดี้ที่อ่านได้สนุกและได้กลิ่นอายของยุค80's-90'sไปเต็มๆ
ตัวเอกฝ่ายชายคือคาสึงะ เคียวสุเกะ ที่เพิ่งย้ายโรงเรียนมาได้พบเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ทราบภายหลังว่าชื่ออายูคาว่า มาโดกะ โดยบังเอิญ
หลังจากมีการสนทนากันมาโดกะก็ให้หมวกฟางสีแดงกับเคียวสุเกะ
เหมือนๆว่าทั้งคู่จะLove at first sight
วันต่อมาเปิดเรียนทั้งคู่พบกันอีกครั้งโดยเกิดเหตุการณ์ที่เคียวสุเกะห้ามมาโดกะสูบบุหรี่ในโรงเรียน โดยที่มาโดะเหมือนจะจำเคียวสุเกะไม่ได้
และภายหลังรุ่นน้องของมาโดกะชื่อฮิยาม่า ฮิคารุก็พบกับเคียวสุเกะและเกิดชอบเขาขึ้นมาจริงๆแถมตามติดแจจนคนในโรงเรียนรับทราบกันไปทั่ว
ที่เหลือคือความชุลมุนวุ่นวายทั้งเรื่องเรียนเรื่องรัก ความลังเลหรือโลเลของเคียวสุเกะ การอมพะนำของมาโดกะว่าชอบหรือไม่ชอบเคียวสุเกะ หรือจะเป็นเรื่องการตามติดแจของฮิคารุ
ทุกเรื่องที่ว่ามาสุดท้ายก็คลายปมได้เรียบร้อยสมบูรณ์ครับ
ถ้าหาอ่านได้ขอแนะนำ
ลายเส้นอาจไม่ได้สวยงามแบบมังงะสมัยนี้แต่ผมว่ามันมีเสน่ห์ดีครับ
cr. google ซ้ายคือเคียวสุเกะ กลางคือมาโดกะ ขวาคือฮิคารุ
ตัวละครในมังงะที่ได้รับความนิยมจนถึงตอนนี้คือตัวนางเอกของเรื่องอย่างมาโดกะครับ เธอได้รับคะแนนโหวตมากและยังติดลมบนมาจนถึงปัจจุบัน
เหตุผลที่พอจะมองเห็นได้คือมาโดกะคือหญิงในอุดมคติของทางญี่ปุ่นเอง
ยังไง?
ด้านดีคือหัวดีเรียนหนังสือเก่ง เล่นก็ฬาก็เก่ง ดนตรีก็เล่นเป็น ร้องเพลงก็เริ่ด หน้าตาก็ดี งานบ้านงานเรือนก็ไม่ตกหล่น มีน้ำใจดีงามต่อทุกคน อ้อ เธอยังทำงานพิเศษทั้งที่ไม่มีความจำเป็นอะไรเพราะบ้านเธอมีฐานะค่อนข้างดี
เรียกว่าโปรไฟล์ดีเลิศประเสริฐศรีมณีเด้งกันเลยเชียว
แต่เธอกลับไม่ใช่ผู้หญิงที่ป๊อปนักตามท้องเรื่อง
น่าจะมาจากที่เธอกบฏกับกฏในโรงเรียน สูบบุหรี่ โดดเรียน มีเรื่องกับคนอื่น สภาพเหมือนๆจะเป็นขาใหญ่ในโรงเรียน ไม่ค่อยสุงสิงเป็นเพื่อนสนิทกับใครๆยกเว้นกับฮิคารุที่เธอเอ็นดูเหมือนน้องสาวแท้ๆหรือว่าจะกับพระเอกเรา และครูบาอาจารย์ก็ไม่ค่อยพอใจเธอนักด้วยเรื่องข้างต้น
ด้วยความที่เธอมีทั้งดีและร้ายในตัวคล้ายคนจริงๆในสังคม มีความสามารถและดูลึกลับในแบบที่คาดเดาได้ยาก จึงกลายเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งซึ่งหาได้ยากในชีวิตคนจริงๆ
(การเก็บความรู้สึกในใจของมาโดกะดูจะไปได้กับค่านิยมของคนในสังคมยุคนั้น ผิดกับฮิคารุที่แสดงออกอย่างเปิดเผยและโจ่งแจ้งแต่กลายเป็นเรื่องที่ทางสังคมในยุคนั้นก็ไม่ได้ชื่นชมอะไร)
ดังนั้นตัวละครอย่างมาโดกะจึงได้รับความนิยมมากจนถึงตอนนี้
(นอกเรื่องนิดนึงครับ สังเกตดูได้นะว่าถ้าตัวละครที่ไม่ว่าจะมาจากหนังหรือหนังสือ ถ้าเป็นที่นิยมของคนในสังคม แสดงว่าลึกๆแล้วคนในสังคมต้องการคนแบบตัวละครนั้นให้มาโลดแล่นในสังคมจริงๆหรือไม่ก็อยากทำพฤติกรรมแบบนั้นด้วย ไม่ว่าจะพระเอกหรือนางเอกในซีรี่ส์ต่างๆทั้งไทยและเทศ ตัวละครในการ์ตูนหรือมังงะต่างๆ ยิ่งในมังงะนี่ตัวละครไหนดูกบฏนิดๆก็จะได้รับความนิยมตามไปด้วย ดูๆแล้วน่าจะเก็บกดกับกฏระเบียบหรือค่านิยมสังคมอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ)
มาว่ากันที่เพลงประกอบเรื่องครับ
ตัวที่เปิดให้ฟังก่อนชอบเองเป็นพิเศษ เป็นJ Popที่ติดหูฟังง่ายแต่มีลูกเล่นและมีกลิ่นอายความเป็นยุค80's-90'sมาก
ปกติJ Popจะไม่ใช่popจ๋าหวานเจี๊ยบอย่างเดียว มันมีลูกเล่นบางอย่างที่ผมบอกไม่ถูกว่าคืออะไร แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่ามีมิติมากกว่าจะเป็นเพียงpopดาดๆ บางคนว่าเพราะมันคือแนวCity Popน่ะ ไม่ใช่popธรรมดา
ชื่อเพลงคือOrange Mystery ร้องโดย Nagashima Hideyukiครับ
เพลงนี้เป็นเพลงเปิดเรื่องของซีซั่นที่2ของanimeชุดนี้ อันนี้จะมีคำแปลมาให้ด้วย
มันเล่นกับความรู้สึกของวัยรุ่นว่าเธอนี่จะรักหรือไม่รักกันล่ะนี่
ฉันน่ะรักเธอมากนะ แต่เธอนี่ช่างอมพะนำลึกลับเสียจนฉันไม่รู้ว่าจะยังไงดี
สนุกดีจริง
ผมชอบความเป็นยุค80's-90's
มันคือยุคอนาล็อกและเป็นยุคที่คอมพิวเตอร์ยังไม่เข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเรามากนัก อินเตอร์เน็ตคือเรื่องไกลตัวและเนิร์ดมากๆ
การสื่อสารแบบปัจจุบันคือเรื่องที่ยากในยุคนั้น ต้องนัดกันเป๊ะๆ คลาดกันก็บ่อย หลายครั้งก็ต้องรอกันนานๆกว่าจะมากันครบ
การจะรักจะชอบใครก็เป็นเรื่องที่คิดมาก มีลังเลโลเลบ้างล่ะ กลัวเสียเพื่อนบ้างล่ะ กลัวเขาจะไม่รักตอบบ้างล่ะ ทำให้หลายคู่เลิกราไปทั้งที่ยังไม่ได้สานสัมพันธ์ในฐานะคนรักอะไรเลยก็มี
มังงะกับanimeเรื่องนี้จึงกลายเป็นจี้จุดนี้เข้าจังๆ คนยุคนั้นจึงจดจำมันได้ดี
มาโดกะ เคียวสุเกะ ฮิคารุคือตัวแทนของคนหลายๆคนในยุคนั้น
คนสมัยนี้คงว่าอะไรกัน คร่ำครึ เขาไปถึงไหนแล้วล่ะลุง
จริงครับ สมัยนี้มันไปไกลแล้วจริงๆ
เมื่อสิ่งใดหามาได้ยาก เราจึงถนอมมันเป็นอย่างดี
แต่เมื่อสิ่งใดหามาได้ง่าย เราก็ทิ้งมันไปได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ไม่เว้นแม้แต่กับความรักสำหรับยุคนี้
แน่นอนว่ายุค80's-90's คนไม่ได้ละเมียดละไมแบบยุคเบบี้บูมเมอร์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเร็วรวดด่วนจี๋เกิน5จีเหมือนปัจจุบัน
มันอยู่ที่กลางๆ มีเนิบช้าและรวดเร็วในตัวเอง
ไม่ได้ต้องสมบูรณ์แบบหรือโพสต์โชว์ให้ว่อน
มันมีที่ทางและความเป็นปัจเจกตามยุคสมัย
ผมชอบมันจริงๆ
cr. google ตอนจบในมังงะ
โฆษณา