1 มิ.ย. เวลา 02:17 • ความคิดเห็น
ไม่มีใครไม่มีเพื่อนดอกครับ
เพื่อนมีตั้งแต่เราเดินออกจากประตูบ้าน
ไอ้ดำไอ้หน่องไอ้ต๋องไอ้บ่วนไอ้บ่นเพื่อน
ในซอนบ้าน พอเข้าโรงเรียนก็มีเพื่อน
มากมาย แต่คำว่าเพื่อนมีหลายสถานะ
เพื่อนเรียนเพื่อนกินเพื่อนเกเรเพื่อน..
ท้ายสุดเพื่อนรักและเพื่อนแท้….
อันนี้นี่แหละทำให้เราเลือกวาวสถานะ
หรือเขาเลือกวางสถานะเราก็ขึ้น
อยู่กับเหตุการณ์และช่วงเวลานั้นๆ
Pata ก็มีเพื่อนอย่างที่เจ้าของกระทู้
บอก โดนแกล้งๆๆๆๆจนต้องนัดกันไป
คลุกฝุ่นที่สวนไผ่ เพื่อนๆล้อมเชียร์
เพราะถ้าแพ้เราก็จะเป็นไอ้หงอคนนึง
ที่ต้องถูกเพื่อนเจ้าถิ่นแกล้งตลอด
การชกคลุกฝุ่นหน้าตาเบิกบานทำให้
ชีวิตยืนอย่างไม่ถูกรังแกได้แต่อาจเป็น
สถานการณ์ของPataห้ามเลียนแบบ
ยิ่งกว่านั้นวันนี้เพื่อศัตรูก็เป็นเพื่อนรัก
พากันเรียนช่วยกันจนสำเร็จ
ไม่มีสูตรสำเร็จดอกครับช่วงเวลา
ของเรามันต้องมีสักคนซิน่ะที่เป็น
เพื่อนกับใครแล้วรู้สึกดีจดจำไม่ดี
โตขึ้นมาก็ก้าวข้ามมันด้วยการวาง
ความคิดก้าวข้ามอดีตที่ไม่ส่งผลดี
อะไรต่อเรา เหมือนขยะทิ้งไปแล้วก็
เก็บเอามาหนีบมารกไว้เต็มพื้นที่
รับโอกาสใหม่ๆไปหมด ทิ้งไม่ได้ก็
เอาไว้ข้างหลังแล้วเปิดใจเปิดโอกาส
สร้างเพื่อนใหม่ๆแต่เราต้องใช้ใจดีๆ
ไม่เอาปมในอดีตไปจับไปตั้งกำแพง
สร้างส่งเสริมกำกับทนุบำรุงให้
ความสัมพันธ์ใหม่ได้ใจกันแบบ
บริสุทธิ์ใจจริงใจกัน สร้างเพื่อน
ได้สักคนสองคนไม่ต้องมากมาย
วุ่นวายปวดหัวอันนั้นเราเรียก
เพื่อนในสังคมเอาไว้ประสาน
ประโยชน์ช่วยเหลือกันก็พอ
“ปมในหัวปมในอดีต”วางไว้
ถ้ายังทิ้งไม่ได้ก็วางมันไว้ข้าง
หลัง ถ้าสายบู้ก็นัดเพื่อนคนนั้น
เผชิญหน้าแล้วก้าวข้ามปัญหา
แบบเจ้เลย จบ
เข้าใจเพื่อนนะว่าที่แกล้งเรา
วันนั้น เราเจ็บนะแต่ที่เจ็บมากที่สุด
คือเราเสียดายที่เราควรเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากกว่าที่เราจะจดจำ
เรื่องเลวร้ายติดใจจนถึงวันนี้
เอาละอยากเธอ/นายนะว่า
เรายังเป็นอภัยและเรายังเพื่อนคนนึง
เพื่อนมันจะรับไม่รับ สำนึกไม่รู้สึกก็เรื่องของมันเนาะ
เราเบาเราหลุดเราไปต่อไม่ติดขัดติดใจ
ส่วนเพื่อนคนนั้นหลังจากนี้ก่ะเรื่องของมัน
ไม่ใช่ธุระอะไรของเราถ้าเขายังเป็นคน
นิสัยเดิมๆ
โฆษณา