1 มิ.ย. เวลา 20:56 • ประวัติศาสตร์
นครโฮจิมินห์

เกิดอะไรขึ้นกับ เหงียนหง็อกหลวน(Nguyễn Ngọc Loan) ผบ.ตร. เวียดนามใต้ ชายในภาพ Iconic แห่งสงคราม

หลังจากภาพเหตุการณ์จ่อยิงในระหว่าง การรุกใหญ่ของคอมมิวนิสต์ ในเทศกาลตรุษญวน (Saigon Execution Tet Offensive 1968) ได้แพร่หลายออกไป กลายเป็นภาพถ่ายระดับไอคอนนิกของ Eddie Adams โดยที่บุคคลในภาพที่จ่อยิงศรีษะผู้ก่อการร้าย คือ ผบ.ตร. เวียดนามใต้ เป็นตัวละครหลัก
ภาพนี้ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ แต่เอ็ดดี้ อดัมส์ อดีตนาวิกโยธิน ที่ผันตัวมาเป็นช่างภาพ แสดงให้โลกรับรู้ว่าภาพถ่ายนี้มีอะไรมากกว่าที่เห็น โดยได้ออกมาขอโทษท่านภายหลังด้วยคำพูดว่า
1
ท่าน ผบ. ในภาพฆ่าเวียตกง แต่ผมก็ได้ฆ่าท่าน ผบ. ด้วยภาพนั้น
Eddie Adams
ผบ. ตร. หลวน เกิดในปี พ.ศ. 2473 ในครอบครัวชนชั้นกลางในเมืองเว้ พ่อเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์
ท่านเป็นนักศึกษาระดับหัวกะทิเรียนจบเภสัชศาสตร์ เป็นที่หนึ่งของรุ่นจาก มหาวิทยาลัยเว้ ก่อนที่จะเข้าร่วมกองทัพแห่งชาติเวียดนามในปี 1951การเรียนดีทำให้สามารถสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนฝึกการบินกองทัพอากาศ(RVNAF)มีเพื่อนร่วมชั้นคือ เหงียน เกา กี (Nguyễn Cao Kỳ) เป็นบั๊ดดี้กันในที่สุด และมีโอกาสได้ทำภารกิจคู่กันในปฏิบัติการ Flaming Dart การโจมตีทางอากาศครั้งแรกของเวียดนามใต้ต่อเป้าหมายในเวียดนามเหนือ นอ.หลวน ได้บินในฐานะ Wing Man ของ Kỳ
...มิน่าล่ะ ถึงได้เติบโตเร็วมาก
เหงียน เกา กี (Nguyễn Cao Kỳ) นายก เวียดนามใต้
หลวนได้รับการฝึกนักบินจากฝรั่งเศสก่อนจะเดินทางกลับมาประจำการกับกองทัพอากาศสาธารณรัฐเวียดนาม ในปี พ.ศ. 2498
ท่านสามารถพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะไปเรียน ผบ.ฝูง ที่สหรัฐทำให้เมื่อถึงเวลาที่ท่านต้องสื่อสารกับพันธมิตรอเมริกัน และสื่อต่างชาติ ก็มักทำได้ดีเสมอ จนเป็นหนึ่งในผู้มีชื่อเสียงในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ในที่สุด นอ. หลวน นักบิน A-1 สกายไรดเดอร์ ก็ต้องดำเนินรอยตาม นายพลกี เพื่อนซี้เมื่อ กีขึ้นเป็นผบ.ทอ. RVNAF นอ.หลวน ก็ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น เสธ. ทอ. เมื่อเพื่อนสนิท Nguyen Cao Ky ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเวียดนามในปี 1965 นาวาเอก Loan ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ในหลักฐานชิ้นหนึ่ง(ที่ผมมี) ได้ให้รายละเอียดถึงภาพลักษณ์การเป็น ผบ.ตร.ผู้ซื่อสัตย์ไม่มีข้อด่างพร้อยในเรื่องการฉ้อราษฏร์บังหลวง และมุ่งมั่นกับการรักษาสถานการณ์ความปลอดภัยให้กับเมืองไซ่ง่อน มีความเป็นข้าราชการชาตินิยมเวียตนามใต้อย่างแรง บอกปัดการให้สิทธิดูแลพิเศษกับชาวอเมริกันในพื้นที่ของท่าน
ตัวอย่างเช่น ท่านไม่ยอมให้สารวัตรทหารอเมริกัน จับกุมนายกเทศมนตรีชาวเวียตนาม โดยยืนยันว่า มีแต่เจ้าหน้าที่เวียตนามใต้เท่านั้น จึงมีสิทธิจับกุมและกักขังประชาชนเวียตนามใต้ ท่านยังยืนยันว่า พลเรือนรวมทั้งบรรดานักข่าวของสหรัฐอเมริกา ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย/คำสั่งของเวียตนามในขณะอยู่ในไซง่อน
This Time We Win: Revisiting the Tet Offensive by James S Robbins หน้า 94-104, 105-106
การยืนกรานและแน่วแน่ในการทำงานของท่าน ทำให้ท่านไม่เป็นที่ถูกใจของ คนอเมริกันที่ทำงานในเวียดนามใต้ มากนัก
การรุกเตต (Tet Offensive 1968)
รูปภาพที่เปลี่ยนโลก การประหารชีวิตเหงียน วัน เลิม ในเวียดนาม 1 กุมภาพันธ์ 1968
ส่วนรายละเอียดเหตุการณ์เอาคืน ร้อยเอกเหงียน วัน เลม(Nguyễn Văn Lém) ผู้ก่อการร้ายเวียตกงนักล่าสังหาร อายุ 36 ปี นั้น เลมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมผู้ก่อการร้ายที่เพิ่งจะฆ่าตำรวจเวียตนามใต้ และครอบครัวตำรวจที่พักอยู่ในแฟลตตำรวจ
ก่อนถูกจับได้และยิงทิ้ง หน.เลมเพิ่งจะใช้มีดปาดคอฆ่า ภรรยา ลูก ๆ และสมาชิกทุกคนในครอบครัวของของรองผู้บัญชาการตำรวจ อย่างเลือดเย็นไป 8 ศพ เลมถูกจับตัวได้ใกล้กับคูน้ำ ที่มีศพตำรวจและครอบครัวตำรวจถึง 34 คน (ในนั้นมีเด็กกำพร้า 6 คนที่เป็นลูกเลี้ยง ของ Nguyen Ngoc Loan)
ร้อยเอกเหงียน วัน เลม(Nguyễn Văn Lém) ผู้ก่อการร้ายเวียตกงนักล่าสังหาร
เรื่องนี้ต่อมาได้คุยกับช่างภาพ NBC News ที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า
" ผมยังไม่ได้ยิงในทันทีเลย แต่ดูเหมือนว่าผู้ใต้บังคับบัญชาของผมที่ผมสั่งให้ยิง
มีอาการลังเลใจ ผมเลยคิดว่า ผมต้องยิงมันถ้าคุณลังเลใจ ไม่ทำตามที่สั่ง
พวกลูกน้องจะไม่เชื่อฟังคุณอีก พวกมันได้ฆ่าพวกเราจำนวนมาก
ผมคิดว่า พระเจ้าจะให้อภัยผม "
ผบ. หลวน เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ CIA. ด้วยเช่นกัน ท่านเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยจาก U.S. CIA-backed Phoenix Program ว่าเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีทำลายสถานที่เป็นกลาง ในการเจรจาอย่างลับ ๆ ระหว่างอเมริกันกับเวียตกงในเรื่องการลักลอบเจรจา
หาข้อยุติเรื่องเชลย
ต่อมาที่เว้ หลังจากการปะทะกับพวกเวียตกง ผบ.หลวน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งไปรักษาตัวที่อเมริกา( Walter Reed Army Medical Center ในรัฐ Washington) แต่มีการต่อต้านท่านอย่างรุนแรง เพราะข่าวเรื่องทารุณกรรมเชลยศึก ซึ่งจ้าหน้าที่ตม.สหรัฐ(Immigration and Nationalization Services) จะไปขับไล่นายพลหวนออกไปจากสหรัฐ ด้วยความเป็นคนดังและมีตราบาปในการปฏิบัติต่อนักโทษเชลยศึก
แต่ใครจะไปคิดว่า คนที่ให้การรับรองให้ นายพลหลวนอยู่รักษาตัวในสหรัฐต่อก็คือช่างภาพ Eddie Adams
หลังจากกลับไปไซ่ง่อน ผบ.หลวน ถูกปลดประจำการเพราะขาพิการ(ต้องตัดขาขวาทิ้ง) ยังคงทำงานอยู่ และดูแลเด็กกำพร้า หลาย ๆ คน ที่เป็นลูก ๆ ของลูกน้องเก่า หนึ่งในนั้นได้โอกาส เปลี่ยนสัญชาติเป็นอเมริกัน และได้เป็นนายพลเชื้อสายเวียดนามคนแรกของกองทัพเรือสหรัฐ(Rear Admiral Huan Nguyen)
หลังไซ่ง่อนแตก ท่านอพยพไปอเมริกา ได้รับอนุญาตให้ตั้งรกรากอยู่ในภาคเหนือของรัฐเวอร์จิเนียซึ่งในเวลาต่อมา ท่านก็เปิดร้านอาหาร Les Trois Continents ที่ Rolling Valley Mall แต่มีสื่อท้องถิ่นได้ลงข่าวเรื่องราวในอดีตของท่าน ทำให้ธุรกิจของท่านมีปัญหาในการค้าขายทันที เพราะคนต่อต้าน จนท่านต้องเก็บตัวเงียบและเลิกทำร้านอาหารไปในที่สุด
เหงียนหง็อกหลวน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 1998 ขณะอายุ 67 ปี หลังจากที่เขาเสียชีวิต อดัมส์ได้ขอโทษด้วยตนเองต่อครอบครัวของ ผบ. หลวน สำหรับความเสียหายที่รูปถ่ายของเขาทำให้ชื่อเสียงของ ผบ. เสียหาย อดัมส์กล่าวชมเขาว่า "ชายคนนี้เป็นวีรบุรุษ"
ประวัติศาสต์การยุทธ(Battle History)
เล่าเรื่องประวัติศาสตร์การรบและข้อมูลประกอบให้เพื่อนฟังแบบแฟนพันธ์แท้
ขณะที่เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ก็ถูกสร้างไปพร้อมกัน
ท่านสามารถติดตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องต่อเน่ื่องได้ที่
กลุ่มเฟสบุคชมรมผู้ศึกษาสงครามเวียดนาม
ที่สร้างขึ้นมาเพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ อย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติต่าง ๆ
สามารถแสดงความเห็นได้อย่างผู้ศึกษาและเคารพประวัติศาสตร์
โฆษณา