3 มิ.ย. เวลา 06:01 • ความงาม
กรุงเทพมหานคร

รู้ไว้ก่อน เลือกใช้ Skincare ให้ตรงกับสภาพผิว

ถ้าพูดถึงสกินแคร์ หลายๆ คนก็ยังเข้าใจผิดอยู่ว่ามันคือ ครีม เซรั่ม ที่ใช้กับผิวหน้าและผิวกายมันคืออย่างเดียวหรือเปล่า จะบอกว่ามันมีหลากหลายประเภทมาก ตัวนี้ช่วยแก้ไขในปัญหาผิวต่างๆ มีส่วนผสมที่มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์กับปัญหาผิวนั้นๆ สกินแคร์บางตัวเรียกได้ว่าแทบจะครอบคลุมทุกอย่าง แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วฉันจะเลือกใช้อะไรยังไงดีในการตัดสินใจเลือกใช้ในแต่ละตัว ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ ความพอใจ
และงบประมาณในกระเป๋าของเราค่ะ เพื่อให้พวกเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงได้อย่างเหมาะกับผิวของเราและไม่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาได้ค่ะ ในบทความนี้ก็จะพูดถึงผิว ว่าผิวประเภทไหนเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวยังไงให้เหมาะสมกับผิวของตัวเองค่ะ
เรามี “ผิว” ประเภทไหนกันนะ ?
โดยปกติแล้วเราสามารถแบ่งประเภทของผิวตามสภาพและลักษณะ ได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ผิวแห้ง (Dry Skin) , ผิวมัน (Oily Skin) , ผิวผสม (Combination Skin) และผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin) การเรียนรู้ผิวแต่ละประเภทนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะทำให้เรารู้จักแยกแยะสภาพผิวแบบต่างๆ และเลือกวิธีการดูแลบำรุงรักษาผิวแต่ละประเภทได้อย่างถูกวิธี ทำให้เราสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ตอบโจทย์ความต้องการของสภาพผิวแบบต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ประเภทของผิว ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้
ผิวแห้ง (Dry Skin)
เป็นผิวที่มีลักษณะละเอียดบอบบางและเกิดริ้วรอยได้ง่าย มีความมันน้อยกว่าปกติเนื่องจากขาดกรดไขมันในผิวที่จำเป็นในการรักษาความชุ่มชื่นและสร้างเกราะป้องกันผิวจากสิ่งกระทบจากภายนอก ทำให้ผิวมีการผลิตน้ำมันตามธรรมชาติจากต่อมไขมันใต้ผิวที่น้อยกว่าปกติจึงทำให้ผิวแห้งกร้านและแลดูหมองคล้ำได้ง่าย
ลักษณะผิวที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนก็คือ
ผิวจะมีลักษณะแห้ง หยาบกร้าน ไม่กระจ่างใส
มีแนวโน้มแพ้ง่าย มีผื่นแดงหรือรอยแดงที่ผิว
มีอาการตึงผิว ผิวแตก หรืออาจมีการอักเสบและมีอาการคันได้ง่าย
ผิวแลดูขาดน้ำ มีความยืดหยุ่นน้อย และผิวลอกเป็นขุยได้ง่าย
ผิวมัน (Oily Skin)
เป็นผิวที่มีลักษณะมันวาว จากการที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาหล่อเลี้ยงผิวในปริมาณที่มากจนเกินไป ส่งผลให้ผิวเงา มันวาว โดยปกติผิวมันมักเกิดขึ้นมากในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายกำลังมีการเปลี่ยนแปลง และฮอร์โมนนี้เองเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ
ลักษณะผิวที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนก็คือ
ผิวจะมีลักษณะดูหนา ค่อนข้างหยาบ และดูไม่เรียบเนียน
มองไม่เห็นเส้นเลือดบนผิวอย่างชัดเจนนัก จนบางครั้งอาจทำให้แลดูหมองคล้ำ
และจะมีแนวโน้มเป็นสิวอุดตันและสิว ประเภทอื่นๆ ได้ง่ายอีกด้วย
ผิวผสม (Combination Skin)
เป็นผิวที่มีลักษณะผสมกันระหว่างผิวสองประเภท ซึ่งอาจจะเป็นผิวมันผสมผิวธรรมดา หรือผิวแห้งผสมผิวธรรมดา หรือ ผิวแห้งผสมผิวมัน
ลักษณะผิวที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนก็คือ
ความมันเฉพาะบริเวณที่เป็น T-zone ได้แก่ บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง
มีรูขุมขนกว้างในบริเวณนี้ จนอาจมีสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขนได้
ส่วนบริเวณแก้มทั้งสองข้างจะมีลักษณะแบบผิวธรรมดาหรือผิวแห้ง
ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
เป็นผิวที่มีลักษณะระคายเคืองง่ายและบอบบางมากๆ อ่อนไหวง่ายกับสิ่งต่างๆ ที่สัมผัสผิวหน้า เช่น ฝุ่นควัน แสงแดด กระดาษทิชชู่ เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิวต่างๆ ผิวประเภทนี้จะมีปัญหาแพ้ง่าย ผิวมีสีแดง มีโอกาสระคายเคืองต่อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กับผิวหน้า มักเกิดอาการผิวแห้งลอก ผิวหน้าตึง ผิวหน้าเป็นผื่นแดง แสบคัน อักเสบได้ง่าย
ลักษณะผิวที่สามารถสังเกตได้ชัดเจนก็คือ
การอักเสบได้ง่ายของผิว
ผิวจะเกิดอาการเป็นผื่นแดง คัน แสบร้อน ไปจนถึงผิวแห้งแตก
หลักการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
ผิวมัน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทีมีเนื้อบางเบา ไม่เข้มข้นเกินไป ช่วยควบคุมปริมาณน้ำมันธรรมชาติให้อยู่ในภาวะสมดุล เช่น โลชั่น หรือ ซีรั่ม
ผิวธรรมดา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดที่มีเนื้อไม่เข้มข้น หรือ บางเบาจนเกินไป ทั้งนี้ต้องพิจารณาถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยค่ะ ถ้าอากาศหนาวควรเลือกใช้ชนิดที่เข้มข้นกว่าปกติเลือกเติมคามชุ่มชื้น หรือ ถ้าอากาศร้อน คุณอาจต้องเลือกใช้ชนิดที่บางเบาได้ค่ะ
ผิวผสม สำหรับคนที่มีผิวประเภทนี้ สามารถใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มี ผิวธรรมดาได้เลย คือไม่เข้มข้นหรือบางเบาเกินไป ช่วยปรับสมดุลของผิวทั่วบริเวณให้ใกล้เคียงกัน
ผิวแห้ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เนื้อครีมเข้มข้น ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และ ช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื่นได้ โดยเฉพาะหลังการล้างหน้า
โฆษณา