ชะอำอินเตอร์ เป็นไปได้หรือเพียงแค่ความฝัน
ผมได้รับเชิญจากจังหวัดเพชรบุรีให้ไปช่วยหน่วยงานภาครัฐในการเสนอโครงการของบประมาณภายใต้แผนงาน เพชรบุรี - ชะอำ สู่สากล หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่าแผนงาน “ชะอำอินเตอร์”
ตอนที่ได้ยินวลีนี้ในครั้งแรก คำถามที่ผุดขึ้นมาในทันทีก็คือ ทำไมหัวหินจึงอินเตอร์ และทำไมชะอำยังไม่อินเตอร์ ทั้งที่อยู่ห่างหัวหินเพียงแค่ 25 กม. เพราะถ้าตอบคำถามนี้ไม่ได้ การที่จะทำให้ชะอำเป็นอินเตอร์ย่อมเป็นไปไม่ได้
แม้จะเคยเดินทางผ่านทั้งหัวหินและชะอำมาแล้ว แต่ก็ไม่เคยซักครั้งที่จะมีคำถามนี้และไม่เคยคิดที่จะตอบคำถามนี้ แต่เมื่อเกิดคำถามนี้ขึ้นมาแล้ว ก็ต้องเดินหน้าหาคำตอบ
โชคดีที่การไปหัวหินครั้งนี้ ผมชวนพี่หมอ นพ.ธิติวัฒน์ ประชาธำรงพิวัฒน์ หรือที่เพื่อนของพี่หมอเรียกกันในชื่อเล่นว่า หมอตัง ไปด้วย พี่หมอเลยพาพวกเราไปลงหัวหินแบบลงลึก
จุดแรกที่พาเราไปคือจุดลงชายหาดหัวหิน ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่จุดที่เป็นจุดลงชายหาดแบบสาธารณะ เพราะส่วนที่เหลือต้องผ่านโรงแรมหรือร้านอาหารหรือบ้านพักส่วนตัว แม้จะเคยผ่านหัวหินบ้างแล้ว แต่ก็เคยลงชายหาดเพียงครั้งเดียวและจุดที่ลงก็เป็นจุดที่ไม่สวยมาก แต่พอมาครั้งนี้ เมื่อได้ลงชายหาดแบบจริงจัง ก็ต้องบอกกับตัวเองว่า ชายหาดหัวหินสวยกว่าชายหาดชะอำ
นอกจากพาลงชายหาดแล้วยังพาขับรถตะเวนและลงเดินตามซอกตามซอย พี่หมอยังเล่าประวัติประกอบให้ฟังด้วยอีกว่า พื้นที่ชายหาดหัวหินถูกจับจองโดยคนชั้นสูงของสังคมมาตั้งแต่หลังยุคปฏิวัติ 2475 โดยคนชั้นสูงเหล่านั้นต่างจับจองที่ดินชายหาดหัวหินติดต่อกันไปตลอดแนวยาวร่วม 20 กม. โดยที่ดินเหล่านั้นล้วนติดกับชายหาดโดยไม่มีถนนมาขวางกั้น
และนี่คือคำตอบที่สำคัญสำหรับคำถามที่ว่า ทำไมโรงแรมหรูๆ จึงมาอยู่ที่หัวหิน แทนที่จะอยู่ที่ชะอำ เพราะจำนวนมากเคยเป็นพื้นที่ของคนชั้นสูงที่พี่หมอพูดถึงแล้วถูกถ่ายโอนมาทำเป็นโรงแรมในปัจจุบัน (ผมยังไม่ได้ verify ข้อมูล แต่เท่าที่ฟังดูก็มีความเป็นไปได้ว่าส่วนหนึ่งหรือจำนวนมาก น่าจะเป็นตามที่พี่หมอบอก)
จริงอยู่ ในความเป็นจริง จะมีโรงแรมหรูอยู่ในพื้นที่ของอำเภอชะอำบ้าง แต่ก็เป็นช่วงที่ติดกับอำเภอหัวหิน และที่สำคัญ เป็นพื้นที่ที่ไม่มีถนนคั่นระหว่างโรงแรมกับชายหาด แต่พื้นที่ชะอำที่คนทั่วไปรู้จักจะเป็นพื้นที่ชายหาดด้านเหนือซึ่งมีการวางผังโดยมีถนนกั้นระหว่างชายหาดกับส่วนพักอาศัยและร้านค้า
คำตอบของคำถามที่ว่า ทำไมโรงแรมหรูจึงอยู่ที่หัวหินจึงอยู่ที่ หัวหินเปิดโอกาสให้โรงแรม (หรือเจ้าของที่ดินที่โรงแรมซื้อต่อ) จับจองพื้นที่ติดกับชายหาดโดยไม่มีถนนเข้ามากั้น
ซึ่งไม่ใช่เฉพาะชะอำส่วนเหนือเท่านั้นที่ไม่มีลักษณะเฉพาะเหล่านี้ เพราะแม้แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่โด่งดังอย่างพัทยา กระบี่ ภูเก็ต ก็ไม่มีลักษณะเฉพาะแบบนี้ ถ้าจะมีก็จะประปรายอยู่บริเวณบนเขา หัวหาด หรือบริเวณที่เข้าถึงยาก ไม่เหมือนกับหัวหินที่ทุกโรงแรมเข้าถึงได้ง่ายแต่ในขณะเดียวกันก็มีความเป็น private เพราะด้านหน้าติดถนนใหญ่ ด้านหลังติดชายหาด
เมื่อได้คำตอบนี้แล้ว คำถามต่อไปของผมคือ แล้วทำอย่างไร ชะอำจึงจะอินเตอร์
หลังจากคิดอยู่พักใหญ่ จึงตอบกับตัวเองว่า ในเมื่อโครงสร้างทางกายภาพทำให้ชะอำไม่สามารถเป็นแบบหัวหินได้ เพราะถูกคั่นกลางด้วยถนนทำให้ชายหาดชะอำสามารถเข้าถึงได้ง่ายตลอดแนวยาวของถนน ชะอำจึงกลายเป็นชายหาดสำหรับฉิ่งฉับทัวร์ หาบเร่แผงลอย ร้านอาหารเตียงผ้าใบ ผู้ให้บริการกีฬาทางน้ำ จำนวนมากที่รอให้บริการนักท่องเที่ยว ที่ดูแล้วไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่สวยงาม และง่ายต่อการเกิดขยะ ก็คงจะเหลือทางเดียวที่จะทำให้ดีได้ก็คือ ต้องบังคับด้วยกฎระเบียบ
แต่เทศบาลชะอำก็เหมือนกับเทศบาลอื่นในประเทศนี้ คือ ฝ่ายการเมืองท้องถิ่นไม่กล้าที่จะทำอะไรที่อาจไม่เป็นที่พอใจของประชาชนที่เป็น voters เพราะหากประชาชนไม่พอใจ ก็อาจจะส่งผลต่อคะแนนเสียงในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ จึงต้องค่อยๆ หาทางให้ประชาชนยอมรับ ถ้าเทศบาลไหนทำได้ ก็ดีไป แต่ถ้าเทศบาลไหนทำไม่ได้ ปัญหาก็จะยังค้างคาอยู่อย่างนั้น
และนี่คือข้อเสียของการแบ่งหน่วยบริการภาครัฐที่มาจากการเลือกตั้งให้เล็กจนเกินไป เพราะเทศบาลใหญ่ๆ อย่าง กทม. จะไม่เจอปัญหานี้ ผู้ว่า กทม. (ซึ่งที่จริงคือนายกเทศมนตรี กทม.) จะกล้าเข้าไปจัดระเบียบในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ง่ายกว่า เพราะคะแนนเสียงมาจากคนทั้ง กทม. ไม่ใช่มาจากพื้นที่เล็กๆ อย่างเช่นเทศบาลในต่างจังหวัด
เพื่อให้ปัญหาถูกแก้ไข ผมจึงเสนอให้ฝ่ายปกครอง ในกรณีนี้คือนายอำเภอให้เข้ามาเป็นผู้เล่นหลักแทนเทศบาล ซึ่งทุกคนเห็นด้วย และหากยังไม่สำเร็จก็คงต้องลงมือมาตั้งแต่ระดับจังหวัด
แต่นายอำเภอกับผู้ว่าฯ ล้วนมาแล้วไปในเวลาอันรวดเร็ว หลายคนไม่ทันแก้ปัญหาจนสำเร็จลุล่วงก็ต้องย้ายเพื่อการเติบโตในหน้าที่การงานหรือเปิดโอกาสให้คนอื่นได้เติบโต หรือบางคนมาขึ้นตำแหน่งเพื่อเป็นรางวัลก่อนเกษียณ นี่แหละครับ ระบบที่พิการของประเทศไทย
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
