4 มิ.ย. เวลา 08:26 • ธุรกิจ

ทำไมเราไม่โตไปกว่านี้ในองค์กรล่ะเนี่ย (เช็คตัวเองกันเลย)

สวัสดีท่านผู้อ่านที่เข้ามาอ่านเพื่อต้องการพัฒนาตนเองทุกท่าน สำหรับ EP นี้ ผมอยากสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องการเช็คตัวเราเอง ว่าเรานั้นมีความสามารถในการทำงานที่เราทำอยู่หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน เพราะได้มีโอกาสคุย และสอนวิชาที่เกี่ยวกับเรื่องการเติบโตในหน้าที่การงาน หลายท่านสงสัยว่าเราก็ทำงาน อาชีพ หรือตำแหน่งนี้มานานแล้ว แต่ยังมีโอกาสหรือเติบโตในหน้าที่การงานได้อีกไหม (อารมณ์ว่าอยู่ตรงนี้มานานแล้วอ้า)
ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสคุยกับรุ่นพี่ท่านนึงที่เขามีความตั้งใจอย่างมากกก ในหน้าที่การงานในบริษัท แต่ก็กังวล และสงสัยว่าทำไมถึงสัมผัสได้ว่าอยู่ตรงนี้ที่เดิม ไม่ได้ไปไหนไกลสักเท่าไหร่มาหลายปีแล้ว ผมจึงได้วิเคราะห์ให้รุ่นพี่ท่านนี้ฟังถึงปัจจัยของบุคลิกพี่เขาว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกันหลายๆ เรื่อง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผมเชื่อว่าเราทุกท่าน ถ้าไม่ได้เป็นคนเลว จ้องแต่จะเอาผลงานคนอื่นมาส่งหัวหน้า หรือพูด (Present) เก่งอย่างเดียว ทุกท่านมีสิทธิ์ก้าวหน้าในหน้าที่การงานแน่ๆ ขอเพียงอ่านให้จบครับ
คนเรามีบุคลิกให้เติบโตในหน้าที่การงานแน่ๆ หากเขามีบุคลิกที่ขยันตั้งใจ ไม่ได้ขี้เกียจ หรือสักแต่จะเอางานลูกน้อง งานเพื่อน งานคนอื่นมาส่ง และอาศัยบุคลิกพูดเก่งเอาจนทำให้คนฟังรู้สึกหวือหวาแต่แท้หาใช้งานคนนั้นไม่ ผมว่าแบบนี้ก็โตได้ครับ แต่ไม่ยั่งยืน สิ่งที่โตแท้แบบยั่งยืนคือ สิ่งนั้นเราทำเป็น และมาจากฝีมือของตัวเราเอง
แต่แม้กระนั้นเอง ก็ยังมีคนบอกว่าผมก็มีบุคลิกแบบนี้แหละ มุ่งมั่นตั้งใจกับงาน พยายามผลิตผลงาน แต่ไม่ยักกะโตขึ้นสักที มาลองวิเคราะห์ดูกันครับ
สาเหตุที่ 1 - เราแทบไม่มี People Skill เลย
People Skill คืออะไร ก่อนอื่นเรามารู้จักกันครับ People Skill ไม่ใช่แค่ทักทายคนเก่ง หรือพูดเก่ง เป็นตัวฮาของกลุ่มนะครับ หลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นแบบนั้น แน่นอนว่านั่นเองคือสิ่งที่พอเรียกได้ว่า People แต่มันจะแทบไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการทำงานเลย
People Skill ที่ผมหมายถึงจะนำมาใช้ประโยชน์ในการทำงานได้คือ People Skill ที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเรื่องานได้อย่างเช่น การแสดงออถถึงความเป็นห่วงเป็นใยเพื่อนร่วมงานถึงงานที่เขาทำอยู่ (และยิ่งถ้าเป็นทีมเดียวกัน หรือแผนกเดียวกันได้ยิ่งดีเลย) หากเป็นลักษณะของหัวหน้ากับลูกน้อง People Skill ยังแสดงออกถึงความสามารถในการโค้ช หรือให้คำปรึกษาได้
อย่าเข้าในผมผิด เราไม่จำเป็นต้องจบ Coach Certified แต่เพียงแค่ยอมจ่ายเวลาเรียกน้องมาให้คำแนะนำหน่อย 1-2 สัปดาห์ ต่อครั้ง เพราะนั่นแสดงออกถึงการที่เราช่วยให้น้องสามารถทำงานได้ และสุดท้ายน้องก็ช่วยงานเราได้ สิ่งเหล่านี้เชื่อผมเถิดครับ มันเป็นบุคลิกที่ทางฝ่ายบุคคลเขาคอยมองเวลาคัดบุคลากรขึ้นตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะดูว่าใครดูแลลูกน้องอย่างไร ช่วยเพื่อนร่วมงานหรือไม่
สาเหตุที่ 2 – ทักษะการทำงานที่ไม่สูงไปกว่านี้
งง ไหมครับ ว่าเราเองก็มีทักษะการทำงานมาหลายปีแล้ว แต่ทำไมถึงอยู่ที่เดิมล่ะนี่ ไม่ต้อง งง ครับ ผมจะบอกให้ ง่ายที่สุดคือการดูว่า หัวหน้าเรา หรือคนที่อยู่สูงกว่าเราขึ้นไป เขามีความรู้ความสามารถอะไร และแน่นอนว่าหากเราจำเป็นต้องมีความรู้เหล่านั้นก็ให้เราขวนขวายเช่นออกไปเรียนเสริม หรือหากจำเป็นต้องจ่ายเพื่อได้ปริญญาอีกใบก็เอาเลย !!
หลายท่านคงพูดว่า โธ่ไอ้คุณผู้เขียน อย่าพูดในสิ่งที่ยาก และรู้อยู่แล้วสิ (วะ) ใจเย็นๆ ก่อนครับ ผมจะบอกว่า สิ่งที่เราจำเป็นต้องเรียนเสริม ก็ไม่ได้จำเป็นต้องจ่ายหรือใช้เวลา 3-4 ปี ในมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้สั้นขนาด 1-2 สัปดาห์ ให้เราหาหลักสูตรเรียนเพิ่มเติมแบบกลางๆ แต่ KeyPoint คือได้ใช้จริงในการทำงานนั่นเอง
แล้วจะเรียนอะไรน่ะหรือ ผมจะบอกให้ สิ่งที่แน่นอนสิ่งหนึ่งในโลกใบนี้ และโกหกไม่ได้คือเรากำลังทำงานอยู่กับบริษัท และทุกบริษัทแสวงหาผลกำไรใช่ไหมครับ ? เราปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันเราทำงานเพื่อให้บริษัทได้ Profit แล้วเราจะเรียนอะไรล่ะ นอกจากตัวเลข หลายท่านบอกว่า แหวะ
ผมเองก็ไม่ได้ชอบตัวเลขหรอกครับ แต่จากประสบการณ์การเป็น HR ของผม ผมบอกได้เลยว่า ผู้บริหารทุกคนที่โตขึ้นมาในสายของตนเองนั้น จะมีความสามารถในการวิเคราะห์ตัวเลข แต่จะเรียนเลขอย่างไรล่ะก็ในเมื่อ (กู) พยายามหนีมานี่ ผมอยากบอกว่าผมเองก็หนีมาเหมือนกันครับ (ฮา) แต่เรามีวิธีในการเรียนเลขให้มันรู้เรื่องมากขึ้นได้โดยมีเทคนิคดังต่อไปนี้ (สัปดาห์หน้ามาต่อกันครับ)
เราสูงขึ้นได้อีก
โฆษณา