14 มิ.ย. เวลา 00:00 • หนังสือ

SEUK ไปทำไม ถ้าไม่ได้ใช้ความรู้นั้นจริง

เมื่อวานนี้พูดเรื่อง SEUK แล้ว ขอต่ออีกหน่อย
บางคนถามว่า อ่านมาก อ่านหลากหลายแล้วใช้ประโยชน์ยังไง ถ้าใช้ประโยชน์ไม่ได้ อ่านไปทำไม
นี่ก็คือเหตุผลของคนที่บอกว่า เราไม่ควรบังคับเด็กให้เรียนทุกวิชา
ความจริงคือมีหลายวิชาที่เราจะไม่ได้ใช้ในชีวิตจริง ความจริงคือหากเราคำนวณชั่วโมงที่ใช้ไปกับการเรียนวิชาที่ไม่ได้ใช้ ก็มีเวลาที่ 'สูญเปล่า' จริงๆ
แต่มองแบบนี้เป็นการมองมุมเดียว เพราะเราจะรู้ล่วงหน้าได้ยังไงว่า วิชาที่เรียนไปในวันนี้จะสูญเปล่าหรือไม่สูญเปล่า
รู้ได้อย่างไรว่าถ้าเรียน sin cos tan ในวันนี้แล้วจะไม่ได้ใช้จริงในวันหน้า? ในรูปอื่น? หรือช่วยปลูกฝังกระบวนคิดของเราในอนาคต?
หมอทุกคนต้องเรียนสรีระทั้งหมดของคนก่อนที่จะเข้าเฉพาะ มันทำให้เข้าใจระบบรวมที่สัมพันธ์กับระบบย่อย
การอ่านความรู้หลากหลายไม่เสียเปล่าหรอก เวลาที่เรากดยึกๆ บนมือถือเพื่อระบายอารมณ์นั่นต่างหากที่อาจเสียเปล่า
นักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่เป็นไอดอลของไอน์สไตน์คือ ไมเคิล ฟาราเดย์ เป็นตัวอย่างของคนที่ไต่เต้าขึ้นมาจากชั้นล่างสุด ฟาราเดย์เกิดในครอบครัวยากจน เรียนไม่จบชั้นประถม เขาทำงานเป็นลูกมือในร้านทำปกหนังสือ จึงถือโอกาสอ่านหนังสือทั้งหมดที่มาเข้าปก เขาเรียนเรื่องวิทยาศาสตร์ด้วยตนเอง และค้นคว้าทดลองเรื่องกระแสไฟฟ้าจนกลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ
ครั้งหนึ่งฟาราเดย์สาธิตกลไกการทำงานของกระแสไฟฟ้ากับแม่เหล็กให้นายกรัฐมนตรีอังกฤษดู นายกฯถามว่า “แล้วมันใช้ประโยชน์อะไรได้?” ฟาราเดย์สวนกลับด้วยคำถามว่า “แล้วทารกแรกเกิดใช้ประโยชน์อะไรได้?”
1
เราไม่มีทางรู้ว่า 'ทารก' ที่เราปฏิเสธในวันนี้ จะมีประโยชน์อะไรในอนาคต
การปฏิเสธความรู้โดยมองแค่ผิวเผิน จะสร้างกรอบให้เราก่อนที่จะเริ่มต้นชีวิต ยกตัวอย่าง เช่น เราเลือกไม่เรียนประวัติศาสตร์ ก็ปิดประตูชีวิตอีกหลายบาน ถ้าใครคนหนึ่งปฏิเสธวิชาดาราศาสตร์ ก็ปิดประตูนักบินอวกาศไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีความสามารถพอ แต่เพราะเขาไม่มีข้อมูลที่ทำให้เขาอยากเป็นนักบินอวกาศ
หลายวิชาไม่ได้มีประโยชน์ทันที ไม่ได้มีประโยชน์โดยตรง ไม่ได้นำไปใช้โดยตรง แต่มีประโยชน์ทางอ้อม วางรากฐานหรือต่อยอดให้ตัวเราในวันหนึ่ง
มนุษย์เราไม่ได้มีชีวิตแค่ทำงานใดงานหนึ่ง มันยังมีเรื่องความเข้าใจชีวิต วิสัยทัศน์ โลกทัศน์ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากความรู้หลากหลาย
1
จะเป็นเจ้าของบริษัท ก็ต้องรอบรู้เกินสินค้าที่มีอยู่ในมือ ต้องสามารถมองไปไกล เข้าใจโลก เข้าใจการเมือง เข้าใจเทคโนโลยีต่างๆ ฯลฯ ไม่เช่นนั้นก็อย่าหวังว่าจะไปรอดในโลกที่การแข่งขั้นสูงขึ้นทุกวัน
การเรียนรู้กว้างๆ ทุกสาย ทำให้เรามีข้อมูลมากขึ้น ข้อมูลมากขึ้นคือทางเลือกมากขึ้น สมองพัฒนาได้ไกลขึ้น
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ใช่เพราะเขาฉลาดกว่า แต่เพราะเขามีข้อมูลมาใช้งานมากกว่า
การเรียนไม่มีวันจบ ต้องเรียนตลอดชีวิต ดังนั้น ระวัง! อย่าคิดแต่จะใช้ชีวิตแบบสบายๆ ท้ายที่สุดแล้ว เราอาจตื่นขึ้นมาพบตัวเองเดินตามรอยเท้าคนอื่นๆ ที่นำหน้าเราอยู่ไกลลิบ
1
โฆษณา