ดร.พิมพา ลิ้มทองกุล นายกสมาคมเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานไทย (TESTA) กล่าวว่า วันนี้ เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ถูกนิยามว่าเป็น "Key enable to energy transition" หรือ กุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากการใช้พลังงานฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด
โดยบทบาทสำคัญที่ผ่านมาทางสมาคมฯได้ดำเนินการในการให้ข้อมูล ส่งเสริมความเข้าใจให้เกิดการใช้งานที่ถูกต้อง ประหยัด ปลอดภัย ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีกับหลายๆภาคส่วน รวมถึงให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องในด้านมาตรฐานและนโยบายที่สำคัญจากเทคโนโลยีดังกล่าว และในปีนี้ยังคงเดินหน้าสานต่อการจัดงานสัมมนา International Energy Storage Forum ร่วมกับ TESTA Symposium ซึ่งจัดขึ้นในงาน Energy Storage Asia 2024
ทั้งนี้ยังได้รวบรวมเทคโนโลยีล่าสุดจากแบรนด์ชั้นนำด้านพลังงานกว่า 1,500 รายทั่วโลก และพาวิเลียนนานาชาติจากประเทศผู้นำด้านนวัตกรรมพลังงานยั่งยืน ร่วมสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยและอาเซียนได้สร้างเครือข่ายกับผู้นำด้านพลังงานจากทั่วทุกมุมโลก อาทิ ATESS, DELTA, ABB, AIKO SOLAR, BCPG, HITACHI ENERGY, SCG, SMA,SOLAREDGE, SOLIS, TESLA ENERGY เป็นต้น
ปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 33,000 คน จากทั่วภูมิภาคครอบคลุมทุกห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมไทย และเพื่อให้เป็นงานที่ครอบคลุมทุกมิติของพลังงาน เราจึงขยายงานด้านระบบกักเก็บพลังงาน หรือ Energy Storage Asia
โดยงานนี้จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้งาน ASEW มีความครบทุกด้านของพลังงานสะอาด รวบรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบกักเก็บพลังงานล่าสุดจากบริษัทชั้นนำระดับโลก และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือ การจัดสัมมนาเชิงลึกด้านพลังงานที่ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับโลกมาแลกเปลี่ยนความรู้ในการประชุมและสัมมนานานาชาติ อาทิ REA Conference, Asia Urban Energy Assembly, ASEAN Bioenergy and Bioeconomy Conference, Energy Storage Forum เป็นต้น และสัมมนาอื่นๆกว่า 200 หัวข้อ