หุ้น MK สุกี้ยังเหลือความน่าสนใจอะไรบ้างมั้ย ?
.
ช่วงนี้มีคนพูดถึงปัญหาของธุรกิจ MK สุกี้กันเยอะมาก สิ่งที่ผมสงสัยคือ ทำไมปัญหานี้กลับมาถูกพูดถึงในช่วงนี้ ? ทั้งๆ หลายประเด็นเป็นประเด็นเดิม เป็นแบบนั้นมาซักพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคู่แข่งรายใหม่ สุกี้ราคาสูงสู้คู่แข่งไม่ได้ คนรุ่นใหม่ไม่กิน MK แล้ว
.
ผมคิดว่าสาเหตุน่าจะเป็นเพราะ ราคาหุ้นลงมาทำ New low ใช่ครับ ! คนมองธุรกิจ MK แย่ลง เพราะราคาหุ้นไหลลงมา ตามจิตวิทยาการลงทุน “ราคานำความคิด”
.
บทความนี้ ผมเลยขอมาเขียนถึงประเด็น “หุ้น MK สุกี้ยังเหลือความน่าสนใจอะไรบ้างมั้ย ?” ไม่ได้จะมาอวยให้ซื้อหุ้น M นะครับ แค่เห็นว่าคนพูดถึงข้อเสียกันเยอะแล้ว ผมเลยอยากชวนมามองอีกด้านหนึ่งด้วย ราคาหุ้นที่ลดลงอาจเป็นโอกาสทองสำหรับนักลงทุนที่มองการณ์ไกลก็เป็นได้
.
1. ถึงแม้คนรุ่นใหม่จะไม่เข้า MK แต่ครอบครัวยังกิน
.
เท่าที่ผมสังเกตุ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปกินกันแบบครอบครัว MK ยังคงเป็นหนึ่งทางเลือกสำคัญ เพราะเป็นแบรนที่ทุกวัยในครอบครัวกินได้ ลองดูจากรายได้ของ MK ได้ครับ 17000 ล้านบาท !!! เยอะนะครับ ธุรกิจอาหารส่วนใหญ่ยังอยู่แค่ระดับ 1000-2000 ล้าน หรือต่อให้ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็อยู่แถวๆ 5000 ล้านบาท… ทำไมร้านอาหารอื่นถึงทำรายได้ระดับนี้ไม่ได้ ? คำตอบคือ ถ้าจะทำให้ได้รายได้ระดับหมื่นล้านมันต้องขายทั้งประเทศ และเรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย
.
2. จำนวนสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ
.
MK มีสาขาทั่วประเทศมากถึง 500 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ ในขณะที่คู่แข่งส่วนใหญ่มีไม่ถึง 100 และกระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ๆ เท่านั้น
.
ใครทำธุรกิจร้านอาหารจะรู้ดีว่าต่างจังหวัดถือเป็นจุดปราบเซียน ธุรกิจหลายแบรนเติบโตได้ดีในช่วงแรกด้วยการขยายตัวภายในกรุงเทพฯ แต่พอต้องขยายไปต่างจังหวัดกลับล้มลุกคลุกคลาน
.
หลายคนจะบอกว่าเป็นเพราะราคา คนต่างจังหวัดไม่ชอบกินอะไรราคาสูง แต่ผมว่าเรื่องนี้ไม่จริงซะทีเดียว มีร้านอาหารมากมายที่ราคาถูกกว่า MK ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝันในการขยายตัวไปต่างจังหวัด
.
จุดตายที่สำคัญกว่าก็คือ “ปริมาณลูกค้าที่คาดการณ์ยาก” (ลองสังเกตุได้เลยครับ ห้างต่างจังหวัด วันไหนมีมีคนก็แน่นจนเดินเบียด แต่วันไหนไม่มีคน เราแทบจะกลายเป็นลูกค้าคนเดียวในห้าง) และ “ระบบโลจิสติกส์”
.
ใครทำงานสาย Supply chain จะรู้ดีว่าการจัดการให้มีของพอขายในตลาดที่มีปริมาณลูกค้าไม่แน่นอนเนี่ย ยากสุดๆ โดยเฉพาะในตลาดที่ของเสียง่ายอย่างธุรกิจร้านอาหาร และถ้าระบบโลจิสติกส์ไม่แข็งแรง ก็เรียบร้อยครับ รอยร้าวนี้จะไปโผล่ที่หน้าร้าน ลูกค้าอาจจะไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ร้านอาหารหลายร้าน กินต่างจังหวัด คุณภาพสินค้าจะไม่ดี ของจะไม่สด รสชาติจะไม่ได้… สาเหตุ หลักๆ คือเรื่อง Supply chain และโลจิสติกส์หลังบ้านครับ
.
ภายใต้แบรน MK มีบริษัทโลจิสติกส์ที่เชี่ยวชาญการขนส่งอาหารทั่วประเทศและมีประสบการณ์มายาวนาน ทำให้สามารถบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้สำหรับร้านอาหารที่อยากเติบโตคลอบคลุมทั้งประเทศ
.
คู่แข่งรายใหม่ที่เข้ามาแข่งกับ MK ยังต้องผ่านการพิสูจน์ในเรื่องนี้ การกินตลาด MK อาจไม่ได้ทำได้ง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิดนะครับ
.
3. ความสามารถทางการแข่งขัน
.
ผมมักจะเปรียบเทียบความสามารถทางการแข่งขันโดยภาพรวมด้วยอัตราการทำกำไร (Net profit Margin) ซึ่ง MK ยังถือว่าแข็งแกร่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่ที่ประมาณ 10% ในขณะที่ร้านอาหารอื่นอยู่ที่ประมาณ 5-7%
.
อย่างไรก็ตาม ในอดีต MK มีอัตราการทำกำไรถึง 15% การที่ตกลงมาเหลือ 10% ชี้ให้เห็นว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมยังคงสูง และความสามารถทางการแข่งขันของ MK เริ่มสั่นคลอน
.
4. เงินสดเยอะมาก
.
ด้วยความที่เป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งมานาน และทำธุรกิจแบบรับเงินสดแต่จ่ายเงินเชื่อ (คนขายของให้ MK กว่าจะได้เงินต้องรอ 3 เดือน ซึ่งบริษัทสามารถทำได้เพราะมีอำนาจการต่อรองสูง) ทำให้ MK มีเงินและสภาพคล่องในมือสูงมาก 8000 ล้านบาท มากพอที่ไปซื้อกิจการและทำข่าวให้ราคาขึ้นได้ไม่ยากเลย แต่ MK ยังคงเลือกที่จะไม่ทำ และเก็บเงินไว้รอโอกาสลงทุนที่เหมาะสม
.
แต่เชื่อผมเถอะครับ ผู้บริหารเค้าก็กำลังกำเงินจ้องมองอยู่ เมื่อไหร่ที่มีโอกาสดีๆ เข้ามา เค้าสามารถใช้เงินที่มีในมือเพื่อซื้อกิจการเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มกำไร และความสามารถการทำกำไรให้กับบริษัทแน่นอน
.
5. ปันผลสูง
.
อันนี้ต่อจากข้อที่แล้ว ด้วยความที่ MK มีเงินสดในมือเยอะ ทำให้บริษัทเอากำไรเกือบทั้งหมดมาปันผลได้ ขนาดปี Covid ที่แย่ที่สุด บริษัทยังสามารถปันผลได้
.
.
.
โดยสรุป ผมว่า MK ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นจุดวัดใจของนักลงทุนครับ ราคาหุ้นที่ตกลงมา เป็นจุดหนีตายสำหรับคนที่เชื่อว่า MK จะไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิม แต่ก็อาจจะเป็นโอกาสสำคัญ สำหรับคนที่มองว่าธุรกิจ MK ยังคงแข็งแกร่ง และจะสามารถใช้จุดแข็งที่ผมพูดถึงข้างบนทั้งหมดเพื่อพลิกเกมกลับมาได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่า MK จะต้องใช้เวลากี่ปีในการกลับมาแกร่งเหมือนเก่า แต่ปันผลที่สูงเทียบเป็น 5% ของราคาหุ้นปัจจุบัน มันก็ไม่ไ่ด้แย่นะครับ สามารถกินปันผลรอจุดกลับตัวได้สบายๆ
.
ลองพิจารณาดูนะครับ #Salarymanติดปีก #มาลงทุนหุ้นแข็งแกร่งกันครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
หากคุณเป็นนักลงทุน ที่ทำควบคู่งานประจำ
หรือชอบเนื้อหาของ Salaryman ติดปีก
ฝากกดไลค์
กดแชร์
กดติดตาม
เพื่อเป็นกำลังใจให้กับเรา
และจะได้ไม่พลาดเนื้อหาใหม่ๆ ของเรา ด้วยนะครับ
▃▃▃▃▃▃▃▃
- 71
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
