7 มิ.ย. เวลา 03:00 • ธุรกิจ

วิเคราะห์เทรนด์ AI ในมุม Data ด้วย Google Trends โดย MarketThink

Google Trends คือ เครื่องมือที่ใช้สำรวจความนิยมของคีย์เวิร์ดที่คนใช้ค้นหาบนเว็บไซต์ Google ในช่วงเวลาที่กำหนดได้
ที่น่าสนใจคือ “ใช้ฟรี” เพียงเซิร์ชว่า Google Trends ในเว็บไซต์ Google ก็ใช้งานได้เลย
ความสามารถเด่น ๆ ของ Google Trends ยกตัวอย่างเช่น
- ดูความนิยมของคำค้นหานั้น ๆ ในแต่ละช่วงเวลา โดยสามารถใช้ Google Trends เปรียบเทียบความนิยมแต่ละคีย์เวิร์ดได้สูงสุด 5 คีย์เวิร์ด
- ดูเทรนด์มาแรง (Trending Now) จะบอกคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหามากที่สุด ทั้งแบบรายวันและแบบเรียลไทม์
- สามารถบอก “คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง” ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าสนใจอะไรอีกบ้าง ที่มีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาที่เราใส่ไป
- และ “หัวข้อที่เกี่ยวข้อง” ช่วยให้รู้ว่าลูกค้าใช้คีย์เวิร์ดอะไรในการค้นหาบ้าง โดยเราอาจจะเลือกคีย์เวิร์ดเหล่านี้ ไปต่อยอดการทำคอนเทนต์ให้คนค้นหาเจอ หรือใช้ในเชิงการตลาดต่อได้
ทีนี้เรามาดูตัวอย่างการใช้งานจริง ๆ
โดยวันนี้ MarketThink จะเอาคีย์เวิร์ดคำว่า “AI” มาวิเคราะห์ด้วย Google Trends ให้ดูเป็นข้อ ๆ
Trend #1 : ChatGPT ปลุกกระแสเทรนด์ AI ในไทย
กราฟที่เห็นในภาพ Trend #1 ไม่ได้บอก จำนวนการค้นหา แต่บอกเป็น “ระดับความสนใจ” ภายในกรอบเวลาที่ตั้งค่าไว้
โดยความหมายของตัวเลขสเกล 0-100 ก็คือ
- 100 หมายถึง ณ เวลานั้นมีการค้นหาคีย์เวิร์ดสูงสุด ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
- 50 หมายถึง ณ เวลานั้นมีการค้นหาเป็นครึ่งหนึ่ง เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดของความสนใจ ในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
- 0 หมายถึง ณ เวลานั้นไม่มีการค้นหาเลย หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอ
ถ้าดูจากกราฟ จะเห็นได้ว่าคำว่า AI เริ่มได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2022
ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ OpenAI เจ้าของ ChatGPT ประกาศเปิดตัว ChatGPT 3.5 ให้คนทั่วไปได้ทดลองใช้งานเป็นครั้งแรกผ่านเว็บไซต์
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ OpenAI เปิดให้ใช้งานผ่านระบบ API สำหรับนักพัฒนาเท่านั้น
หลังจากนั้น AI ก็ยังคงได้รับความนิยมเรื่อย ๆ
อย่างในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ปี 2023 กระแส AI ก็พุ่งกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นอีกครั้ง เนื่องจาก ChatGPT ได้เปิดให้คนไทยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ChatGPT ผ่าน iOS และ Android ได้
จนกระทั่งคำว่า AI ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน สอดคล้องกับการเกิดแพลตฟอร์มด้าน AI ใหม่ ๆ มากมาย
ซึ่งหลาย ๆ คนก็นำ AI เข้ามาช่วยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น ช่วยเขียนงาน ช่วยสร้างรูปภาพ ช่วยสรุปประชุม ช่วยสร้างวิดีโอ
จนปฏิเสธไม่ได้ว่า คนรุ่นใหม่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก AI อีกแล้ว..
Trend #2 : คนทั่วโลกถ้านึกถึง AI ก็นึกถึง ChatGPT มากที่สุด
ทีนี้หากเรามาลองดูเทรนด์คำว่า AI ในระดับโลกกันบ้าง จะพบว่า
เทรนด์การค้นหาคำว่า AI เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2022 ไม่ต่างจากไทย เพราะการเปิดตัว ChatGPT 3.5 ให้คนทั่วไปได้ใช้งานกันเป็นครั้งแรก
และหลังจากนั้น กราฟความนิยมของคำว่า AI ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างชัดเจน
โดยเฉพาะในช่วงปี 2023 ที่เราเห็นบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เริ่มให้ความสนใจกับการพัฒนาเทคโนโลยี AI กันอย่างกว้างขวาง
อย่างในช่วงเดือนพฤษภาคม จนถึงช่วงเดือนสิงหาคม เป็นช่วงที่แบรนด์ดัง ได้ประกาศพัฒนาและทดลอง AI ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น
- TikTok ทดสอบ AI Chatbot ชื่อว่า Tako ทำหน้าที่พูดคุยและแนะนำคลิปวิดีโอให้ผู้ใช้งาน
- Instagram ทดสอบ AI Chatbot ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยส่วนตัว ตอบคำถามใน Direct Message
- Adobe Photoshop เปิดตัวเครื่องมือ AI แก้ไขภาพ ด้วยการพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ ในบรรทัดเดียว
- Google เปิดตัวเครื่องมือ AI บน Google Ads ช่วยคิดพาดหัว คำโฆษณา ออกแบบรูปภาพได้อัตโนมัติ
ที่น่าสนใจคือ หากเราไปดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า AI ที่คนทั่วโลกค้นหา จะพบว่า 5 อันดับแรก ที่กำลังมาแรง ล้วนแล้วแต่เป็นคำที่เกี่ยวข้องกับ ChatGPT ทั้งหมด ได้แก่
- chatgpt
- ai chatgpt
- ai chat gpt
- chat gpt
- gpt
จะเห็นได้ว่า ChatGPT เป็น AI ที่มาแรงในระดับโลก
แล้วถ้าถามว่า ChatGPT กับ Gemini อีกหนึ่ง AI ตัวฮิตจาก Google อันไหนมาแรงกว่ากัน ? อ่านต่อได้ที่ Trend #3
Trend #3 : Gemini vs ChatGPT ใครฮิตกว่ากัน ในไทย และทั่วโลก
นับตั้งแต่การมาของ AI ได้รับความนิยม และบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งก็เริ่มตื่นตัวถึงการมาของกระแส AI จนทำให้มี AI เกิดขึ้นมามากมาย เพื่อตอบสนองการทำหน้าที่ในหลากหลายรูปแบบ
โดยเฉพาะ Generative AI ที่มาช่วยสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ มากมาย
ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนบทความ Copywrite รูปภาพ อินโฟกราฟิก และวิดีโอ
แต่ AI ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ก็คงหนีไม่พ้น Gemini จาก Google และ ChatGPT จาก OpenAI
ซึ่งผลการค้นหาจาก Google Trends แสดงให้เห็นว่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 นั้น ChatGPT ได้รับการค้นหาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เนื่องจาก OpenAI เปิดตัว ChatGPT ให้คนทั่วโลกได้ทดลองใช้
ซึ่งก็ได้ผลตอบรับที่ดีมาก โดยจะเห็นได้ว่า ผลการค้นหาคำว่า “ChatGPT” พุ่งขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
และหลังจากนั้นไม่นาน Bard ซึ่งเป็น AI ของค่าย Google ก็ได้เปิดตัวช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2023 จึงส่งผลให้การค้นหาคำว่า “Bard” ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่จากกราฟจะเห็นได้ว่า คนไทยก็ยังใช้งาน ChatGPT เป็นเครื่องมือหลัก มากกว่า Bard
และในระยะเวลาต่อมา ก็เป็นจุดที่ทำให้คนไทยเริ่มให้ความสนใจ ในการค้นหาคำว่า Bard อีกครั้ง
เนื่องจากการเปลี่ยนชื่อจาก Bard มาเป็น “Gemini” ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 นั่นเอง
แต่หลังจากนั้นไม่นาน OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4o ในช่วงเดือนพฤษภาคม ปี 2024 ซึ่งมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งการแสดงอารมณ์ลงในน้ำเสียงที่ดีขึ้น
ส่งผลให้ยอดการค้นหา “ChatGPT” กลับมาแซงหน้า Gemini อีกครั้ง
ส่วนถ้ามาดู Gemini vs ChatGPT ในเทรนด์ระดับโลก จะเห็นความแตกต่าง..
เพราะถ้าดูจากกราฟ จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ChatGPT ได้รับความสนใจจากคนทั่วโลกมากกว่า Gemini อย่างชัดเจน นับตั้งแต่ช่วงสิ้นปี 2022 จนถึงปัจจุบัน
Trend #4 : คนไทยนิยมใช้ AI ทำอะไร
ถ้าเราลองดูคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า AI ที่กำลังมาแรง 10 อันดับแรกของคนไทย
จะเห็นได้ว่ามีคำค้นหาที่เป็นชื่อของ AI อยู่หลัก ๆ 4 ตัว คือ
1. Gemini (ชื่อเก่าคือ Bard) เป็น Generative AI ของ Google ที่มีลักษณะเป็นแช็ตบอต สามารถถาม-ตอบคำถามต่าง ๆ ของเราได้
2. ChatGPT เป็น Generative AI ของ OpenAI ที่มีลักษณะเป็นแช็ตบอต สามารถถาม-ตอบคำถามต่าง ๆ ของเราได้ คล้าย ๆ กับ Gemini ของ Google
3. Midjourney เป็น AI ที่สามารถสร้างภาพตามข้อความที่พิมพ์ได้
โดยสามารถกำหนดสไตล์ของรูปภาพได้หลากหลาย ตั้งแต่แบบสมจริง ไปจนถึงภาพแบบแอนิเมชัน
4. JanitorAI เป็น AI ที่สามารถสร้างภาพตามข้อความที่พิมพ์ได้ คล้าย ๆ กับ Midjourney
แต่ความพิเศษของ AI ตัวนี้คือ จะสามารถสร้างรูปภาพที่มีความล่อแหลม 18+ ได้ด้วย
ดังนั้น ถ้าวิเคราะห์ตามความสามารถของ AI แต่ละตัว
ที่ติดอันดับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำว่า AI ของคนไทยแล้ว
ก็น่าจะพอบอกได้ว่า คนไทย นิยมใช้ AI มาช่วยงานต่าง ๆ เช่น เขียนบทความ
เขียนโคด หรือช่วยงานจิปาถะต่าง ๆ คล้ายกับการมีเลขาฯ ส่วนตัว
1
รวมไปถึงยังมีการนำ AI มาใช้สำหรับสร้างรูปภาพแบบง่าย ๆ ตามคำบอก นั่นเอง
ซึ่งก็น่าสนใจว่า AI ผู้ช่วยอีกตัวที่ก็เรียกเสียงฮือฮาตอนเปิดตัวได้ไม่แพ้ค่ายอื่น ๆ
อย่าง Copilot ของ Microsoft กลับไม่ติดอันดับคำค้นหาที่เกี่ยวข้องในไทย
ทั้งหมดนี้ คือการวิเคราะห์เทรนด์ AI ในมุม Data ด้วย Google Trends โดย MarketThink
ซึ่งต้องหมายเหตุชัด ๆ อีกทีว่า
ข้อมูลเทรนด์ความนิยมทั้งหมดนี้ เป็นแค่เพียงข้อมูลจาก “คำค้นหาใน Google”
หมายความว่า เทรนด์ที่เราวิเคราะห์กันนี้ อาจไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้แม่นยำ 100%
แต่อย่างน้อย ก็พอให้เราเห็นภาพรวมความนิยมของคำว่า AI
ซึ่งก็น่าจะช่วยเป็นไอเดียให้เราไปต่อยอดได้ ไม่ว่าจะเรื่องธุรกิจ หรือการตลาด..
โฆษณา