Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สามก๊กฉบับนักกลยุทธ์
•
ติดตาม
6 มิ.ย. เวลา 21:55 • ประวัติศาสตร์
Gaoyique
“ป่วยการเมือง” ละครเศร้าของราชครูสุมาอี้ ที่เป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จในการรัฐประหาร "เกาผิงหลิง"
พึงโจมตีในขณะที่ข้าศึกไม่เตรียมพร้อม จู่โจมในขณะที่ข้าศึกไม่คาดฝัน
มีขีดความสามารถพึงแสดงว่าไร้ขีดความสามารถ
จะทำสงคราม พึงแสดงว่าไม่คิดทำสงคราม"
สามก๊กฉบับนักกลยุทธ์
ปัจจัยแห่งควมสำเร็จ(Key Sucess Factor) ของรัฐประหารสุมาอี้ หรือ The Gaoping((高平陵)Tombs coup d'état ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนี้มี Theme ในการเล่าเรื่องเน้นที่ The Art of Strategic Warfare มีบทเรียนประวัติศาสตร์จีนในเรื่องสามก๊ก ที่เป็นจุดเริ่มอารยธรรม(Civilization) รวมทั้งศาสตร์ และศิลป์ในการรบ ที่ต่อมาถูกพัฒนามาเป็นวิชาการจัดการเชิงกลยุทธ์(Strategic Management)
ที่เป็นวิชาที่ผมชอบทั้งตอนเรียน และตอนที่ได้สอนครับ
ในประวัติศาสตร์จีน สุมาอี้ถือได้ว่าเป็นยอดคน แต่ไหงกลายเป็นตัวตลกขวัญอ่อน ในนวนิยายงิ้วสามก๊กไปได้ ก็ไม่รู้
1
เมื่อพระเจ้าโจยอย(หลานปู่โจโฉ) สวรรคต และในราชโองการของจักรพรรดิโจยอยก็ระบุอย่างชัดเจนว่าให้ สุมาอี้ กับโจซอง(พระญาติ) ช่วยกันว่าราชการแทนโจฮองรัชทายาท(พระชันษาเพียงแค่ 8 ปี) ทั้งสองขุนนางมีตำแหน่งเป็น ซื่อจง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมากในราชสำนักในเวลานั้น ศักดิ์ของสองคนนี้เท่าเทียมกัน
ในเวลานั้นแต่ถ้าเทียบอิทธิพลในราชสำนัก สุมาอี้เป็นไท่เว่ย และ ต้าเจียงจวิน
อยู่ก่อนแล้ว(มีอำนาจทางทหาร) ถ้าจะขึ้นชั้นโจซองจะใช้อำนาจทหารกำจัดสุมาอี้จึงเป็นไปได้ยากเพราะ ณะนั้นยังอยู่ในระยะเริ่มรับต้นมีอำนาจทหารน้อยกว่าแบบ Out Class
1
ที่โจซองและพรรคพวกเลือกกลยุทธ์ คือการเอาชนะสุมาอี้ด้วยวิธีทางการเมือง
วางแผนระยะยาว ค่อย ๆ เอาชนะด้วยเทคนิคทางการเมืองแบบละมุนละม่อม ไม่ใช่การรัฐประหาร เริ่มจากพวกเขาทูลขอให้อวยยศให้สุมาอี้มีศักดิ์สูงขึ้นไปอีก แต่เป็นตำแหน่งที่ไม่ได้ควบคุมอำนาจบริหารในราชสำนักโดยตรง ด้วยการทูลให้พระเจ้าโจฮองแต่งตั้งสุมาอี้เป็น ไท่ฟู่ (มหาราชครู) ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงแต่ไม่มีอำนาจบริหารส่วนราชการ หลังจากนั้นโจซองก็ค่อยๆให้คนของตัวเองเข้าไปดำรงตำแหน่งสำคัญในสายการบริหารราชการแผ่นดิน
เนื่องจากโจซองมองว่า สุมาอี้มีอิทธิพลทางทหารมากจะปลดตำแหน่งทางทหารของสุมาอี้ไม่ได้ เพราะอาจเป็นตัวเร่งให้สุมาอี้กระทำการรัฐประหาร แต่เลือกใช้วิธีลดอำนาจในราชสำนักด้านการบริหารราชการแผ่นดินของสุมาอี้ และค่อย ๆ เอาคนของตัวเองใส่เข้าไปแทน หวังว่าระยะยาวเมื่ออำนาจบริหารเป็นของพรรคพวกแล้ว อำนาจทหารของสุมาอี้ก็จะค่อย ๆ ฝ่อไปเอง กลยุทธ์นี้ เวอร์ครับ
เวลาก็ค่อย ๆ ผ่านไปกว่าสิบปี ยุทธศาสตร์ Slow Certain ที่โจซองวางไว้ได้ผล เขาค่อยๆกุมอำนาจในราชสำนักมากขึ้น โจซองก็ยังแสดงความเคารพ สุมาอี้ตามปกติและลึก ๆ ผมคิดว่าโจซองไม่ได้โหดพอที่จะคิดฆ่าแกงสุมาอี้ แค่คิดว่าสุมาอี้เป็นขุนนางเก่าต้องเคารพยำเกรง แต่ก็ไม่ได้เชื่อฟังอะไรมากนัก และมองว่าเมื่อตนควบคุมอำนาจในราชสำนักได้ สุมาอี้ก็คงเบื่อและรามือจากราชการกลับบ้านไปเอง
จนถึงปี คศ. 247 สุมาอี้ก็ค่อย ๆ ทำท่าเหมือนปลีกตัวจากวงการตามที่กุนซือค่ายโจ วิเคระห์หากพิจารณาจากอายุ ที่แกแสดงตัวว่าจะล้างมือในอ่างทองคำ ก็สมเหตุผลเพราะสุมาอี้อายุได้ 60 ปลายๆแล้วนะครับ เป็นคนแก่มากแล้วตามมาตรฐานคนในยุคสองพันปีก่อน การที่สุมาอี้อ้างว่าป่วยไข้และอยู่บ้านไม่ค่อยมาเข้าเฝ้าฮ่องแต้อีก โจซองก็คงคิดว่าตัวเองชนะแล้ว สามารถเขี่ยสุมาอี้ออกจากวงจรของอำนาจได้แบบเนียนๆและไม่น่าเกลียด ตัวเขามีอำนาจทหารในมือบางส่วนแล้ว อำนาจบริหารก็มีมากมายล้นเหลือ
สุมาอี้ก็ล้างมือไปแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องไปตามล้างสุมาอี้อีก เพราะไม่คิดว่าสุมาอี้ทำอะไรต่อแล้วในบั้นปลายขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้วางใจเสียที
เดียวแม้สุมาอี้ชราร่วงโรยเต็มที แต่โจซองก็ยังตามดูเป็นระยะ ๆ
“ป่วยการเมือง”
วันหนึ่งโจซองก็ใช้ลูกน้อง หลี่เซิน ขุนนางเกรดเจ้าเมือง ไปหยั่งเชิงสุมาอี้ที่บ้าน นำไปสู่ฉากละครการเมืองสำคัญที่สุมาอี้เล่นตบตาโจซอง ที่ผมคิดว่านอกจากสิงห์เฒ่า คู่กัดขงเบ้งอย่างป๋าสุมาอี้แล้ว คงไม่มีใครจะเล่นตีบทแตกได้ ออสการ์ อย่างนี้อีกแล้ว
หลี่เซินที่โจซองส่งมาดูลาดเลา เห็น สุมาอี้นอนบนเตียง ใบหน้าซูบซีดอิดโรย สาวใช้คนหนึ่งประคอง อีกคนป้อนข้าวต้มใส่ปาก สภาพสุมาอี้เป็น Dead Man Walking แข็งทื่อคล้ายท่อนไม้ ริมฝีปากแทบไม่ขยับ ข้าวต้มที่ถูกป้อน ไหลออกทางมุมปากเลอะ เสื้อนุ่งและผ้าห่ม สองสาวใช้ช่วยเช็ดกันวุ่นวาย
หลี่เซินเข้าคารวะ “นานมาแล้วไม่ได้มาเยี่ยมท่านราชครู คิดไม่ถึงท่านจะป่วยขนาดนี้” สุมาอี้ทำเป็นไม่ได้ยิน ค่อยๆลืมตา ถามเสียงอ่อนระโหย “ท่านคือใคร” “ฝ่าบาทตั้งข้าให้ไปเป็นเจ้าเมืองเซียงจิ๋ว จึงแวะคารวะอำลาท่าน” สุมาอี้แสร้งหอบถาม “เป็งจิ๋ว หรือท่านจะไปอยู่เมืองเหนือต้อง ป้องกันให้ดี” หลี่เซินรีบบอก “ข้าจะไปเป็นเจ้าเมืองเซียงจิ๋ว” สุมาอี้ทำเป็นฟังผิด “อ๋อ” ท่านเพิ่งมาจากเป็งจิ๋ว
1
สาวใช้บอกว่า “ท่านป่วยมานาน จนหูตึงหนัก”
หลี่เซิน ขอกระดาษพู่กัน เขียนความตั้งใจยื่นให้ สุมาอี้อ่านแล้ว พูดเป็นช่วงๆ “ข้าป่วยหนัก หูก็ตึง ตาก็ลาย โอกาสหายคงยาก ท่านไปเซียงจิ๋วครั้งนี้ จงตั้งใจทำราชการ อย่าได้ประมาท”
หลี่เซิน เห็นอาการเช่นนั้น ก็ไม่คิดจะนั่งนาน รีบขอลากลับไป รายงานโจซอง “ท่านราชครู ป่วยหนักจนสติเลอะแล้ว” โจซองฟังแล้ว ก็กระโดดโลดเต้นดีใจ “ไอ้เฒ่าคนนี้ กำลังจะตาย ข้าก็ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรอีก”
กลับเข้าสู่การใช้กลยุทธ์(Back to Street)
ฝ่ายสุมาอี้ เมื่อหลี่เซินไปแล้ว ก็เปลี่ยนบทแสดงเป็นคนปกติสั่งลูกชายทั้งสอง ต่อจากนี้โจซองคงระวังป้องกันพวกเราน้อยลง จากนั้นก็ยิ่งกำเริบเสิบสานใช้อำนาจ บาตรใหญ่ไปทั่ว พวกเรามาวางแผนต่อกันเถอะ จะทำอย่างไรต่อไป
ต่อมาไม่นาน ระหว่างโจซอง คุมกำลังส่วนใหญ่ออกไปนอกเมือง สุมาอี้ก็ได้โอกาสใช้นักรบเก่าที่แอบซ่องสุมไว้ จับโจซองสังหาร และยึดอำนาจได้สำเร็จ
บัลลังก์ราชวงศ์โจที่โจผี บุตรของเสด็จเจ้าโจโฉยึดมาจากฮ่องเต้ราชวงศ์ฮั่น ก็ค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นราชวงศ์สุมาอี้
สิ่งที่เรียนรู้(Lesson Learn)
สุมาอี้ก็เปลี่ยนกลยุทธ์เช่นกัน พยายามหยุดยั้งโจซองแต่ไม่สำเร็จ แต่เขายังมีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง มีภูมิปัญญา มีผู้จงรักภักดีและศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม แถมมีด้านมืดของจิตใจ ที่แสนจะเหี้ยมเกรียม เขาปรับกลยุทธ์และเฝ้ารอคอยโอกาสสิบสองปีอย่างอดทน แกล้งป่วยอย่างน่าเวทนา แต่แอบลับดาบ อย่างอุตสาหะ ครั้นถึงเวลานำกระบี่ออกจากฝัก ตวัดเพียงครั้งเดียว อำนาจของตระกูลโจก็ขาดไม่เหลือชิ้นดี
นี่เป็นเหตุผลที่ว่าแต่เดิมสามก๊ก ได้รับการยอมรับและแพร่หลายในฐานะเป็นตำราพิชัยสงคราม และการบริหารงานภาครัฐ ต่อมาการเปลี่ยนสนามรบให้เป็นสนามการค้า ก็ทำให้สามก๊กได้รับการแปรความหมายในฐานะที่เป็นยุทธศาสตร์ ในการบริหารของธุรกิจภาคเอกชนด้วย บางทีคนเราก็ต้องอดทนรอและมีลูกหนัก ปั๊กเข้าให้ บ้างนะครับ
เพื่อน ๆ ล่ะครับได้บทเรียนอะไรบ้าง ที่เห็นสุมาอี้รอดจากถูกกำจัดด้วยความหวาดระแวงของโจโฉ ด้วยปัญญาของขงเบ้ง หรือด้วยอำนาจในมือโจซอง มาได้ คงไม่ใช่ เพราะสุมาอี้ สุขภาพดี อย่างคนที่อ่านสามก๊กน้อยกว่า 3 จบ เอามาโม้ในโซเชียลนะครับ
ดาราบางดวงเปล่งประกายในห้วงนภาแห่งประวัติศาสตร์
หนึ่งความฮึกเหิมเยี่ยงวีรบุรุษยังควบตะบึงไปในโลกหล้า
สามก๊กฉบับนักกลยุทธ์
ประวัติศาสตร์
จิตวิทยา
จีน
3 บันทึก
8
4
3
8
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย