9 มิ.ย. 2024 เวลา 02:10 • บันเทิง

"BTS" เสียงเพลงแห่งวัยเยาว์ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลก

ถ้าหากว่าแบล็กพิงก์เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ประดับโลกของอุตสาหกรรม K-pop แล้ว ฝ่ายวงบอยแบนด์ระดับโลกก็คงจะต้องนึกถึง “บังทัน” หรือ “BTS” (ที่ไม่ใช่รถไฟฟ้า) อย่างแน่นอน ซึ่ง BTS นับว่าเป็นอีกหนึ่งวง K-pop ชื่อดังที่มีฐานแฟนคลับมากเป็นอันดับต้น ๆ อีกวงหนึ่งเลยทีเดียว
พร้อม ๆ กับมีชื่อเสียงมากมายในวงการดนตรีระดับโลก แต่กว่าที่ BTS จะมายืนในจุดนี้ได้ก็นับว่าผ่านช่วงเวลาและถนนหนทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เป็นขวากหนามที่ขัดขวางจากการเป็นศิลปินค่ายเล็กท่ามกลางอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง
ซึ่งเรื่องราวความสำเร็จของ BTS จะเป็นอย่างไร สัปดาห์นี้ Bnomics จะขอเชิญชวนทุกท่านมารู้จักกับตัวตนและและเบื้องหลังแห่งความสำเร็จของวงบอยแบนด์ค่ายเล็ก ๆ ที่สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกวงนี้กัน
🔴 วงไอดอลค่ายเล็กที่ค่อย ๆ ไต่เต้า
BTS หรือบังทันโซยอนดัน (Bangtan Sonyeondan - เด็กหนุ่มชุดเกราะกันกระสุน) เป็นวงบอยแบนด์ 7 คนที่รวมตัวขึ้นมาภายใต้สังกัด Big Hit Entertainment สังกัดเล็ก ๆ ที่เคยปลุกปั้นศิลปินมาเพียงไม่กี่ราย โดยทางต้นสังกัดภายใต้การชี้นำของ CEO อย่างบังชีฮยอกอยากจะได้กลุ่มไอดอลเด็กหนุ่มฮิปฮอปขึ้นมา โดยได้ออดิชั่นคัดเลือกนักร้องนักดนตรีในช่วงปี 2010-2011 มาได้ 7 คนซึ่งมีชื่อในสังกัดคือ อาร์เอ็ม, จิน, จิมิน, วี, เจโฮป, ชูก้า, และจองกุก ซึ่งใช้เวลากับ Big Hit ในฐานะของเด็กฝึกเหมือนอย่างวงไอดอลทั่วไป
การเริ่มต้นของ BTS ก็เรียกได้ว่าไม่ได้เป็นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบนัก เด็กฝึกเจ็ดคนต้องฝ่าฟันความกดดันต่าง ๆ จากการฝึกเพื่อให้พวกเขาเป็นไอดอลในอุดมคติ ซึ่งก็ใช้เวลาเป็นปีกว่าจะได้เดบิวต์ในปี 2013 ผ่านอัลบั้ม 2 Cool 4 Skool ซึ่งความพยายามของพวกเขาก็ไม่ได้สูญเปล่า
โดยอัลบั้มแรกนั้นได้ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักในฐานะของศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจากเนื้อหาของเพลงที่ค่อนข้างโดนใจผู้ฟัง และได้รับรางวัลจากเมล่อนมิวสิคอวอร์ดด้วย แต่ก็เป็นเพียงแค่การดังแค่ชั่วครู่เท่านั้น ท่ามกลางอุตสาหกรรม K-pop ที่แสนจะใหญ่โต พวกเขายังคงต้องต่อสู้อีกมากกว่ากว่าจะมาเท่าเทียมกับวงอื่น ๆ ในแวดวงบันเทิงของเกาหลีใต้
🔴เสียงเพลงแห่งวัยเยาว์
ดนตรีของ BTS เริ่มต้นมาในประเภทของฮิปฮอป โดยมีเนื้อหาของเพลงที่เกี่ยวข้องกับช่วงชีวิตวัยเยาว์, จิตใจ, การรักตัวเอง, ชีวิตของเด็กหนุ่มที่กำลังก้าวข้ามไปสู่วัยผู้ใหญ่ ซึ่งล้วนแต่เป็นการเยียวยาจิตใจ โดยในการศึกษาของ HBS มองว่าเป็นการเยียวยาในบริบทของสังคมเกาหลีที่บรรทัดฐานทางสังคมค่อนข้างที่จะกดดันชีวิตและความคิดของผู้คนในสังคม ดนตรีของ BTS จึงถูกวางให้เป็นสิ่งที่จะมาส่งเสียงและชี้ให้เห็นถึงปัญหาจุดนี้ของสังคมซึ่งเป็นเทคนิคที่ทางต้นสังกัดใช้เพื่อมัดใจแฟนคลับในสังคมเกาหลี
กว่า BTS จะกลับมาเฉิดฉายอีกครั้งก็หลังจากนั้นอีกราว ๆ 2 ปีผ่านอัลบั้มสั้นอย่าง The Most Beautiful Moment in Life, Pt. 1 ในปี 2015 ซึ่งเป็นการพยายามทดลองออกจากสไตล์เพลงฮิปฮอปซึ่งเป็นแนวเพลงเริ่มต้นของวงมาเป็นสไตล์ที่ดูป็อบขึ้น
ซึ่งมันก็นำมาพร้อมกับเพลงแจ้งเกิดที่พุ่งฮิตติดชาร์ตเพลงหลายเจ้าในเกาหลีอย่างเพลง I NEED U ซึ่งเพลงนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนของวง ทำให้ชื่อเสียงของ BTS เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปีถัดมา พวกเขาก็ได้รับรางวัล “แดซัง” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรางวัลใหญ่ของวงการ ชี้ให้เห็นถึงความสามารถของพวกเขาในฐานะของดาวรุ่งที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งอนาคตของวงการ K-pop
🔴 ถ้าตลาดเพลงในประเทศไม่รุ่ง ก็ลองตีตลาดนานาชาติ
อัลบั้มสั้นดังกล่าวไม่ได้เป็นเพลงแค่เพลงที่ฮิตในเกาหลีใต้เท่านั้น หากแต่ยังพุ่งทะยานเข้าไปสู่บิลบอร์ด 200 ซึ่งเป็นชาร์ตเพลงฮิตในอเมริกา ซึ่งการที่ชื่อของ BTS ได้ไปติดอันดับนั้นยิ่งทำให้พวกเขาได้เข้าไปอยู่ในสายตาของประเทศเจ้าอิทธิพลและเป็นที่รู้จักของชาวโลก
ซึ่งหลังจากนั้นมา ทุกครั้งที่ BTS ปล่อยเพลงใหม่ ก็เป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็ว และติดชาร์ตบิลบอร์ดหลายต่อหลายครั้งโดยถือสถิติศิลปินที่มีเพลงเดี่ยวเข้าชาร์ตบิลบอร์ด 200 บ่อยที่สุดในประวัติศาสตร์ (7 เพลง) และเข้าไปในบิลบอร์ดฮอต 100 บ่อย ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า BTS เริ่มทำการตีตลาดในอเมริกาแล้ว
มีเพลงของ BTS หลายเพลงที่ดูมีความเป็นอเมริกันมากกว่าเกาหลี อย่างเพลง Fire จากอัลบั้ม The Most Beautiful Moment in Life: Young Forever ซึ่งถูกใจผู้ฟังในอเมริกาเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาหรือการออกแบบท่าเต้นในมิวสิควีดีโอ ตลอดจนการตลาดอย่างการเผยเบื้องหลังก็เป็นเหมือนกับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับแฟนคลับ ซึ่งทำให้ BTS มีฐานแฟนคลับที่มั่นคงและแข็งแรง
🔴วงบอยแบนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์ K-pop
BTS มาถึงจุดสูงสุดในฐานะศิลปินในปี 2020 กว่า 10 ปีหลังการรวมตัว โดยในที่สุดพวกเขาก็มีผลงานเดี่ยวในฐานะวงอย่างเพลง “ไดนาไมต์” ที่ติดอันดับ 1 ของชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ซึ่งเป็นวงเกาหลีวงแรกในประวัติศาสตร์ที่เดินทางมาแตะอันดับ 1 ได้สำเร็จ แถมยาวนานถึง 32 สัปดาห์
โดยก่อนหน้านี้เคยมีผู้ที่ทำอันดับสูงสุดก็คือ ไซ (Psy) เจ้าของเพลงฮิต “กังนัมสไตล์” ซึ่งดำรงอันดับ 2 บนชาร์ตเมื่อช่วงปี 2012 นาน 31 สัปดาห์ เรียกได้ว่าสามารถล้มศิลปิน K-pop รุ่นพี่ได้อย่างเฉียดฉิว ตลอดจนเป็นหลักฐานยืนยันว่า BTS สามารถตีตลาดอเมริกาและตลาดสากลได้อย่างประสบความสำเร็จอีกทั้งยกระดับ K-pop ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของ BTS ที่มีอยู่ทั้งในแวดวง K-pop และแวดวงดนตรีของโลก
BTS ไม่ได้เป็นเพียงแค่วงดนตรีไอดอล ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ยังเป็นผู้มีอิทธิพล ตลอดจนเป็นกระบอกเสียงสะท้อนถึงปัญหาทางสังคมหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการการเรียกร้องการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติผ่าน #stopasianhate เพื่อต่อต้านการเหยียดเอเชียที่เกิดมาในช่วงวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 รวมไปถึงการบริจาคเงินเพื่อการกุศลมากมาย ซึ่งการกระทำของพวกเขาได้สร้างอิทธิพลต่อเหล่าแฟนคลับให้ออกมาสนับสนุนการเรียกร้องของพวกเขาด้วย
จากวงเล็ก ๆ ในค่ายเล็ก ๆ กว่าที่ BTS จะก้าวขึ้นมาอยู่ในอันดับต้น ๆ ของวงการได้ก็นับว่าต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายภายในอุตสาหกรรมที่ใหญ่และเต็มไปด้วยคู่แข่ง ความสำเร็จของ BTS ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นมาในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน หากแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาได้โดยใช้เวลายาวนานและความมานะอุตสาหะมาโดยตลอด
เรื่องราวเส้นทางแห่งความสำเร็จที่เต็มไปด้วยโขดหินของ BTS นับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจและเป็นแรงบันดาลใจให้คนตัวเล็ก ๆ สู้ต่อไปด้วยความหวังว่าจะสามารถกลายเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ในอนาคต เหมือนกับกับ BTS
“ผู้ใดที่พยายามอยู่เสมอโดยไม่ยอมแพ้
ผู้นั้นคือผู้ประสบความสำเร็จ”
-คิมซ็อกจิน, จิน BTS
อ้างอิง:
Priscilla Kim and Dr. Ethan Hutt1. K-pop as a Social Movement: Case Study of BTS and
Their Fandom ARMY. Journal of Student Research. Volume 10 Issue 3 (2021).
โฆษณา