7 มิ.ย. เวลา 14:25 • กีฬา

อดัม วอร์ตัน : กองกลางตัวเซอร์ไพรส์ที่ใช้เวลาแค่ 6 เดือนไป ยูโร 2024 | Main Stand

ถ้าชื่อของ ค็อบบี้ เมนู ถูกเรียกว่า "เซอร์ไพรส์" ในการประกาศชื่อนักเตะทีมชาติอังกฤษชุด ยูโร 2024 ... กองกลางอย่าง อดัม วอร์ตัน จะเรียกว่าอะไร ?
เด็กหนุ่มที่เป็นผลผลิตจากทีมยักษ์หลับที่จมอยู่ในเดอะ แชมเปี้ยนชิพมานานอย่าง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส รายนี้มาไกลเกินใครคาด ถ้า 6 เดือนก่อนมีคนบอกว่าเขาจะไปเล่น ยูโร 2024 คงขำกันจนฟันร่วง
1
แต่ตอนนี้มันเป็นไปแล้ว และนี่คือเรื่องราวของ อดัม วอร์ตัน คนที่คุณอาจจะได้เห็นจัง ๆ ดูเต็ม ๆ ว่าเขามีดีแค่ไหนในศึกยูโร 2024 ที่กำลังจะมาถึงนี้
เด็กเส้นของพี่ชาย
อดัม วอร์ตัน เด็กหนุ่มจากเมืองแบล็คเบิร์น แคว้นแลงคาเชียร์คนนี้ เติบโตมาอย่างแบบคนรักกีฬาของแท้
จอห์น พ่อของเขา เป็นนักกีฬาคริกเก็ตอาชีพ, เฮเลน แม่ของเขา คือครูพละที่เคยเป็นนักกรีฑาในระดับสมัครเล่นมาก่อน ส่วน สก็อตต์ พี่ชายของเขา เติบโตและเข้ามาเป็นหนึ่งในแข้งทีมเยาวชนของ แบล็คเบิร์น และไต่สู่ระดับชุดใหญ่ก่อนเขาไป 6-7 ปี
ตัวของอดัมมีพี่ชายเป็นไอดอล เขาเชียร์แบล็คเบิร์นตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ในบ้านของเขายังมีรูปเขาตอนอยู่ในวัยอนุบาล เดินลงสนามในฐานะเด็กมาสคอตที่ อีวู้ดพาร์ค สนามเหย้าของ แบล็คเบิร์นอยู่เลย โดยเป็นเกมที่ แบล็กเบิร์น เปิดบ้านพบ เชลซี เมื่อปี 2008
"ผมเดินลงสนามพร้อมกับนักเตะตั้งแต่สมัยที่ทีมมีนักเตะอย่าง โรเก้ ซานตา ครูซ, เบนนี่ แม็คคาร์ธี่, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ไรอัน เนลเซ่น นักเตะพวกนี้ทำให้ผมหัวใจเต้นแรงเสมอ แม้กระทั่งทุกวันนี้" เขาเล่าย้อนความ
1
"ผมมีพี่ชาย 2 คน และพวกเรามักจะเล่นฟุตบอลด้วยกันตลอดทั้งวัน เล่นกันทุกที่ พวกเราคุยกันว่าเราจะไปเล่นให้กับทีมแบล็คเบิร์นด้วยกัน พี่ชายคนโตของผม สก็อตต์ นำไปก่อน เขาเก่งมากเข้าทีมรุ่นอายุ 12 ปีได้ ส่วนผมเข้าไปเพราะโควต้าเป็นน้องชายเขาแหละ" วอร์ตัน หัวเราะถึงจุดเริ่มต้นในการเป็นนักเตะอาชีพของเขา
"สก็อตต์ ถูกถามว่า เธอมีพี่น้องบ้างไหม ? หลังจากนั้นเขาก็จะชวนผมไปคัดตัว ผมไปที่สโมสรสัปดาห์ละครั้งในช่วงวันศึกร์หลังเลิกเรียน ... ตอนแรกผมก็จะไปแบบสนุก ๆ ตามคำชวนเท่านั้น แต่เมื่อผมได้สัมผัสฟุตบอลอีกแบบ ผมก็ไม่เคยมองกลับมาข้างหลังอีกเลย"
"สก็อตต์ คือไอดอลของผมตลอดมา การได้เห็นพี่ชายที่อายุมากกว่าหลายปีพัฒนาขึ้น ขยับขึ้นในแต่ละระดับอายุ เขาอาจจะเป็นกองหลัง แต่นั่นแหละ พี่เหมือนเข็มทิศนำทาง ผมพยายามเดินตามรอยเท้าของเขา ในฐานะคนที่ประสบความสำเร็จมาก่อน นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมเติบโตได้ไวขึ้น" วอร์ตัน ที่เล่นตัวหลักให้แบล็คเบิร์นตั้งแต่อายุ 18 ปีกล่าว
ตัวของ อดัม วอร์ตัน นั้นถือเป็นมิดฟิลด์ระดับแถวหน้าของทุกรุ่นอายุ มาเด่นเอาสุดในช่วงเล่นในชุดยู 18 ปี ด้วยทักษะเชิงบอล และจุดเด่นที่เปล่งประกายมากที่สุดคือการแย่งบอลจากเท้าคู่แข่ง เสียงเล่าอ้างนั้นมาถึง โทนี่ โมว์เบรย์ กุนซือของ แบล็คเบิร์น ในเวลานั้น เขาจึงเรียก วอร์ตัน มาซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในทันที และที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์
2
"โทนี่ โมว์เบรย์ เรียกผมขึ้นมาซ้อมกับทีมชุดใหญ่เมื่อสัก 3 ปีก่อน ในฐานะนักเตะเด่นจากทีมชุดยู 18 ตอนนั้นผมอย่างอายเลยล่ะ พูดตรง ๆ ผมไม่อยากให้ใครส่งบอลให้ผมเท่าไรนัก เพราะผมเกร็งไปหน่อย ผมแค่คิดว่าขอแค่ได้ผ่านทุกอย่างไปโดยที่ไม่มีข้อผิดพลาดก็พอ"
"แต่จริง ๆ มันคิดแบบนั้นไม่ได้หรอกผมรู้ดี เมื่อมันผ่านการซ้อมไปสัก 2-3 เซสซั่น คุณไม่สามารถซ่อนคาแร็คเตอร์ของคุณได้ ผมเริ่มสบายใจขึ้น และแสดงทุกสิ่งที่เป็นตัวเองออกมา ผมพยายามจะลองยิงถ้ามีโอกาสที่ดี ผมเข้าปะทะด้วยความรู้สึกที่ว่าผมอยู่ในจุดที่สามารถทำได้อย่างแม่นยำ ทุกอย่างผมแสดงออกมาทั้งหมด จากนั้นผู้คนก็เริ่มสังเกตเห็นผมด้วยตัวเอง"
หลังจากการซ้อมครั้งนั้น วอร์ตัน ก็เป็นกองกลางของทีมชุดใหญ่ โทนี่ โมเบรย์ ยังใช้งานเขาได้ไม่มากนักก็โดนไล่ออกไปก่อน จนกระทั่งการมาของ ยอห์น ดาล โทมัสสัน กุนซือชาวเดนมาร์ก วอร์ตัน ก็ถูกใช้เป็นตัวหลักทันที
จากแบล็คเบิร์นถึงพรีเมียร์ลีก
โทมัสสัน เข้ามาและรู้ทันทีด้วยเซนส์ของนักเตะที่ผ่านเกมระดับอาชีพกับทีมใหญ่ ๆ มามาก วอร์ตัน มีคุณสมบัติบางอย่างคล้าย ๆ กับ นักเตะดังหลาย ๆ คนที่เขาเคยเล่นได้ด้วย คุณสมบัตินั้นคือมีศักยภาพให้พัฒนาต่ออีกมาก
"อดัม เป็นเด็กที่โตไวกว่าอายุในแง่ของการเล่นฟุตบอล ผมเห็นภาพเขาตอนครองบอลกับเท้า ผมรู้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ระดับแชมเปี้ยนชิพแล้ว นี่มันระดับเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีกได้เลย ผมยืนยันอีกทีว่าเขาจะเก่งกว่าระดับนักเตะพรีเมียร์ลีกทั่วไป ผมบอกเขาว่าเขาจะไปถึงจุดนั้นได้ หากเขาสามารถทำตัวเองให้มีอิทธิพลต่อเกมเสมอ"
1
"บังเอิญว่า วอร์ตัน ดันเป็นคนแบบนั้นด้วย เขาบอกผมตลอดว่าอยากไปไต่ระดับให้สูงขึ้นแบบไม่มีเพดานบินจำกัด ผมให้เขาเล่นในเดอะแชมเปี้ยนชิพตั้งแต่อายุ 18 ปี และเขาแสดงให้เห็นตามคำบอกนั้น เขาเก่งได้กว่านี้อีกเยอะ แต่ละนัดผ่านไป จุดอ่อนของเขาจะลดน้อยลงเสมอ"
"ถ้าคุณจะถามผมว่าเขาเล่นเหมือนกองกลางคนไหน ผมบอกได้เลยว่าหมอนี่แปลก ตัวผมเองก็เคยถามเขา และเขาบอกว่าอยากเป็น อดัม วอร์ตัน ในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด หมอนี่อาจจะดูเป็นเด็กเงียบ ๆ แต่มันคือความเงียบสงบที่รู้ว่าชั่วขณะจิตต่อไปตัวเองจะต้องทำสิ่งใด" โทมัสสัน ที่ปัจจุบันคุมทีมชาติสวีเดนชุดใหญ่กล่าว
ยิ่งส่งลงเล่นก็ยิ่งได้ดั่งใจ อดัม วอร์ตัน คือนักเตะกองกลางเท้าซ้ายธรรมชาติ ที่มีสถิติการจ่าบอลแม่นยำถึง 92% ในตอนที่เล่นใน แชมเปี้ยนชิพ นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะที่พาบอลไปข้างหน้าได้ถึง 90 ครั้ง รวมถึงมีการผ่านบอลแบบโปรเกสซีฟ (ผ่านบอลขึ้นหน้า) มากที่สุดในทีมอีกด้วย ส่วนเรื่องเกมรับ นี่คือนักเตะที่ถ้าคุณโดนเขาประกบเมือไหร่ ยากที่คุณจะขยับออก เขาจะยืนชิดและคอยเกาะแกะคุณตลอดเวลา
"การเล่นของผมขึ้นอยู่กับวิธีการเล่นของทีม ผมเล่นกองกลางได้หลายแบบตามที่ผู้จัดการทีมสั่ง ผมถูกสอนมาว่า เมื่อได้บอล ต้องทำอะไรก็ได้ที่มีประสิทธิภาพ อย่าขอไปทีและทำให้พ้น ๆ ตัวไป ผมพยายามส่งบอลแนวลึกให้ได้เยอะ ๆ ยิ่งคุณเล่นแนวลึกได้แม่นยำ คุณจะสร้างความกดดันให้คู่แข่งอีกระดับเลย"
ขณะที่ โดมินิค ไฮแอม (Dominic Hyam) เซ็นเตอร์ฮาล์ฟของทีมก็บอกว่า เมื่อเขาได้บอลเมื่อไหร่ วอร์ตัน จะเป็นกองกลางคนแรกที่ถอยลงมาและเรียกขอบอล และจากนั้นจะเป็นที่รู้กันว่า วอร์ตัน จะลุยแล้ว ทุกคนต้องเตรียมพร้อม
ซึ่ง วอร์ตัน ก็พูดตรงกันถึงเรื่องนี้เขาบอกว่า "คุณต้องกล้าหาญที่จะครองบอล กล้าเรียกบอลจากเซ็นเตอร์แบ็ก ในทางเดียวกันเมื่อคุณมีบอลกับตัว คุณจะโดนกดดันสารพัด แต่คุณเอาชนะพวกเขาได้ด้วยการเปิดวิสัยทัศน์ ให้คุณทำยังไงก็ได้ให้บอลมันขึ้นหน้า ผมพยายามฝึกที่จะมองเห็นสนามให้ทั่วจากทุก ๆ มุมมอง ผมอยากจะฝึกความคิดแบบนี้ให้เป็นธรรมชาติ และผมคิดว่าตัวของผมก็รู้สึกว่ามันกลายเป็นวิธีที่ติดตัวผมไปแล้ว"
ฤดูกาล 2023-24 มันคล้าย ๆ กับที่ โทมัสสัน บอกว่าเกมระดับแชมเปี้ยนชิพจะเล็กเกินไปสำหรับเด็กคนนี้ ในตลาดหน้าหนาว คริสตัล พาเลซ เบิกงบจำนวน 20 ล้านปอนด์ เพื่อคว้า วอร์ตัน ไปร่วมทีม และเมื่อเขาได้เล่นในระดับพรีเมียร์ลีก เด็กคนนี้ก็ติดปีกบินติดลมบนทันที
6 เดือนสู่ทีมชาติอังกฤษ
หลัง วอร์ตัน ย้ายมาร่วมทีมไม่นาน คริสตัล พาเลซ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือชาวออสเตรีย เข้ามาคุมทีมต่อจาก รอย ฮอดจ์สัน
กลาสเนอร์ เป็นกุนซือที่ชอบนักเตะสมัยใหม่ อย่าง วอร์ตัน กล่าวคือแม้จะเป็นกองกลางตัวรับแต่การพาบอลขึ้นหน้า หรือการจ่ายบอลขึ้นหน้าก็เป็นจุดเด่นที่ทำได้อย่างไม่เคอะเขิน หรือแม้กระทั่งเรื่องของความฟิตที่สามารถเล่นบอลเพรสซิ่งแบบฉบับโค้ชที่เคยทำงานในเยอรมันอย่างเขา
กลาสเนอร์ แทบไม่เคยติ วอร์ตัน เลยด้วยซ้ำ มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาแนะนำ วอร์ตัน คือ "เพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกาย" ให้กลายเป็นมิดฟิลด์ระดับ ชนคนอื่นกระเด็น โดนกระแทกแล้วไม่สะท้าน อะไรประมาณนั้น ส่วนเรื่องฟุตบอลหมดห่วง เซนส์ของ วอร์ตัน เหลือกินเหลือใช้ เป็นกองกลางไฮบริดสมัยใหม่ที่เล่นได้ดีทั้งเบอร์ 6 และเบอร์ 8
1
"อดัม เล่นได้ดีแทบทุกเกม ช่วงเวลาของเขากับเราผ่านไปอย่างยอดเยี่ยม ทักษะการผ่านบอลของเขาคือสิ่งที่ผมชอบมาก เขาทำมันได้ดีแม้กระทั่งกลางวงความกดดัน สร้างไดนามิกที่ดีให้กับทีม จากนี้ไปเขาจะถูกคู่แข่งรุมบี้หายใจรดต้นคอมากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะทำให้เขาเป็นนักเตะที่สามารถรับมือกับความกดดันในระดับที่มากกว่านี้ให้ได้"
"คุณไม่รู้จะอธิบายยังไงกับนักเตะหนุ่มคนนี้ บทบาทในเกมรับเหรอ ? เขาสำคัญกับเกมรับของทีมชุดนี้มาก เขาชนะการดวล 1-1 ไม่ปล่อยให้ใครเลี้ยงผ่านง่าย ๆ มีความเร็วและอึดพอที่จะแย่งบอลจังหวะสองในพรีเมียร์ลีก จริง ๆ ความเร็วของเกมพรีเมียร์ลีกมันมากกว่าแชมเปี้ยนชิพนะ แต่ อดัม เรียนรู้ไว และผมก็เชื่อว่าคุณน่าจะได้เห็น" กลาสเนอร์ ว่าแบบนั้น
หากใครได้ดูเกมที่ วอร์ตัน เล่นในพรีเมียร์ลีกในช่วงครึ่งซีซั่นหลัง 2023-24 คุณจะเข้าใจได้ทันทีที่ กลาสเนอร์ บอก เขาคือกองกลางที่ เจมี่ เร้ดแน็ปป์ ยกให้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมบุกชนะ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ เช่นเดียวกับเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากการโหวตของแฟน ๆ ของ Sky Sports ในเกมที่ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0
ภาพเหล่านี้ย้อนกลับไปตั้งแต่วันที่ โทมัสสัน พูดถึงเขาตอนอายุ 18 ปี ที่ดูเหมือนการอวยนักเตะตัวเองว่า "ผมเชื่อจริง ๆ ว่า อดัม วอร์ตัน จะดีกพอเป็นนักเตะระดับทีมชาติอังกฤษ เขาจะเก่งขึ้นกว่านี้มากถ้าได้เล่นในระดับแชมเปี้ยนส์ลีกทุก ๆ สัปดาห์ ... คุณจะได้เห็นสิ่งที่ผมพูดเองในวันหนึ่ง" โทมัสสัน ว่าแบบนั้น ซึ่งตอนนี้ วอร์ตัน ทำได้หนึ่งข้อแล้วนั่นคือการก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่
6 เดือนเท่านั้นที่เขาเดินลงสู่เวทีที่มีสปอตไลท์ ตอนนี้เขากำลังทำสิ่งที่เหลือเชื่อและกลายเป็นเซอร์ไพรส์ที่สุดในทีมชาติอังกฤษชุดนี้ ... จอน พ่อของเขาบอกว่า แม้แต่เขาที่มั่นใจในตัวลูกชายมาโดยตลอด ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่า วอร์ตัน จะถูกเรียกไปเล่นในยูโร 2024
"ผมโคตรจะตื้นตันเลยที่เห็นลูกชายของผมลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเร็วจนเหลือจะเชื่อเลย"
"ดูเขาตอนนี้สิ นั่งกินข้าวเช้าร่วมกับ แฮร์รี่ เคน และเดินคุยสนุกสนานกับ เดแคลน ไรซ์ ถ้าบอกว่าภาพนี้จะเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ผมก็ยากจะเชื่อเหมือนกัน ... จากนี้เป็นเรื่องของความสำเร็จระยะยาวแล้ว แต่ผมเชื่อว่าลูกชายของผมเป็นเด็กดี มีความรับผิดชอบ เขาจะเข้ากันได้ดีกับทุก ๆ และสนุกกับประสบการณ์ที่เหลือเชื่อครั้งนี้" จอน กล่าว
1
บทความโดย ชยันธร ใจมูล
2
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา