Ep. 28 > Part 1 ดึกลับดับแสง
กลิ่นหวนชวนหอม ลอยหายไปไกลแสนไกล
ดั่งดวงดอกไม้ เจ้าส่งสายใย ถึงใครอีกคน
ที่ลับลาไป ทิ้งให้ราตรีหม่น
ดุจดังหัวใจ ของคนที่เด็ดเจ้ามา
เนื้อเพลง ดอกราตรี - ดา เอ็นโดรฟิน (Endorphine)
Written by：ผาเรือง ยั่งยืน
ปี 2563
“พี่มีเรื่องจะบอกครับ คือจริง ๆ ที่เราเคยคุยกันช่วงหนึ่ง ที่คุยกันทุกวันอะครับ ตอนนั้นมันดี พี่รู้สึกดีกับน้องมากเลย พี่ชอบน้องมากครับ แล้วพี่ก็ไปติดตามน้องทุกแพลตฟอร์มที่น้องใช้อยู่สักพัก ไล่ดูโพสเก่าของน้องไปเรื่อย ๆ จนเข้าไปใน social network หนึ่ง เจอรูปน้องกับเด็กผู้ชายที่น้องกอดคอ น้องเขียนว่า เป็นลูกชายใช่ไหมครับ? พี่ก็เลยเงียบไปดีกว่า” พี่นายเผยความในใจบอกฉัน
“ใช่ค่ะ ฉันลงรูปถ่ายกับลูกชายของฉันทุกช่องทาง” ฉันตอบ
มนุษย์เรานั้นชอบตัดสินคนอื่น เมื่อไรก็ตามที่คนรอบข้าง ทำสิ่งที่ไม่สอดคล้องกับ สิ่งที่ตัวเองหวัง เราก็จะเริ่มให้ความสนใจ และเริ่มมองว่ามันแปลก ดังนั้นก็คงต้องยอมรับว่า การที่เราจะไปถึงจุดที่ผู้คนหยุดตัดสินหรือตีตราคนอื่น 100% นั้นคงเป็นไปได้ยาก
ดร.รังสิมา วิวัฒน์วงศ์วนา กล่าวถึงประสบการณ์ในการตีตราแม่เลี้ยงเดี่ยวว่าเป็น “ลูกสาวที่ไม่ดี” “เมียที่ไม่ดี” และ “แม่ที่ไม่ดี” ทำให้ผู้หญิงกลายเป็นวัตถุทางเพศและยังเป็นข้ออ้างให้กับความเจ้าชู้ของผู้ชาย
ปี 2009 จำนวนครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวเพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านครอบครัว การตีตราผู้หญิงที่ผ่านการหย่าร้างและมีลูกมาก่อนว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่ดี ไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะมีความรักดีๆ เป็นมาตรฐานทางความคิดยังคงถูกสังคมปฏิบัติด้วยความไม่เท่าเทียมกันทางเพศ
ไม่มีใครรู้ว่ารูปถ่ายวันนั้นคือรูปแรกของฉันกับลูกชายที่ฉันรัก ฉันรอคอยที่จะได้เจอลูกมานานหลายปี รูปถ่ายที่ฉันโพสต์ลงโซเชียลเน็ตเวิร์กในวันนั้นเป็นวันที่ฉันได้เจอกับลูกชายของฉันครั้งแรกในรอบ 10 ปี
ฉันรู้ดีว่า ถ้าฉันตัดสินใจลงรูปถ่ายลูกชายฉันใน social network เพียงแค่ภาพเดียว โพสเดียว มันจะเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของฉัน ในความคิดของคนอื่นไปด้วย แต่ฉันคิดดีแล้ว
“พี่ไม่ได้รังเกียจนะครับ พี่เคยคบกับผู้หญิงที่เป็นซิงเกิ้ลมัมมาก่อนครับ คบกันนานหลายปี พอเวลาผ่านไป ผู้หญิงเขาก็อยากจะขอเข้าไปที่บ้านพี่ เพื่อไหว้พ่อกับแม่พี่ แต่ผิดที่พี่เอง พี่ไม่รู้จะบอกกับพ่อ แม่พี่ว่ายังไง ว่าแฟนพี่เขามีลูกติด พี่ไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ครับ พี่จึงขอเลิกกับผู้หญิงคนนั้น เพราะถ้าคบกับพี่ เขาจะเสียเวลาเปล่า ๆ” พี่นายพูด
“ค่ะ” ฉันตอบ
“พี่รู้ครับว่า น้องชอบพี่ ๆ ต้องขอบคุณความรู้สึกน้องที่มีให้ แต่พี่รับไว้ไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยนะครับ” พี่นายพูด ขอโทษขอโพยฉันยกใหญ่
“ค่ะ” ฉันตอบ ที่พี่นายพูดก็ไม่ได้ผิดเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ไม่ถูกต้องเสียทีเดียว พี่นายจะรู้สิ่งที่ฉันคิดได้อย่างไร ในเมื่อฉันไม่เคยบอกใคร
จริงที่ฉันอาจจะชอบพี่นาย ที่ดูอ่อนโยน ค่อนข้างจริงจัง สุภาพ และดูเป็นผู้ใหญ่
แต่เดิมทีฉันก็ไม่เคยคิดจะมีสามีใหม่หรือแฟนใหม่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉันเคยบอกกับลูก ตอนเจอกันครั้งแรก ตอนนั้นอายุลูกฉันประมาณ 9 ขวบ ว่า "ฉันจะไม่มีลูกใหม่ และครอบครัวใหม่" ฉันจะไม่ผิดคำพูดนั้น ลูกฉันอาจจะยังเล็ก อาจจะไม่ได้สนใจคำพูดที่ฉันพูดออกไปเสียเท่าไรนัก แต่ฉันไม่ใช่เด็ก ฉันจำคำพูดของตนเองได้เป็นอย่างดี และฉันยึดคำนั้นเป็นคำสัตย์
เช้าวันนึงขณะที่ฉันกำลังทำงาน มีเสียงข้อความเข้ามาถี่มาก ประมาณ 5-6 ครั้ง ต่อเนื่องกัน จนทำให้ฉันจำเป็นต้องพักจากงานตรงหน้า แล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า ด้านขวาของกางเกงยีนส์ขาสั้น สีดำ ที่ฉันใส่อยู่ เพื่อเปิดอ่านข้อความ
ฉันเริ่มจิตใจไม่ค่อยสู้ดีเท่าไรนัก เพราะคิดว่าลูกน้องอาจจะส่งข้อความมาขอลาหยุดงาน ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ พรางคิดว่าวันนี้ฉันคงต้องเหนื่อยเป็นแน่
หน้าจอแสดงผลปรากฏชื่อผู้ชาย ที่ฉันเคยคุยทางข้อความ เมื่อประมาณปีก่อน ฉันเรียกเขาว่า “พี่นาย” อายุมากกว่าฉันราว 5-7 ปี รูปร่างสันทัด ผิวขาว เคยส่งข้อความคุยกันสักพัก แล้ว จู่ ๆ วันนึงเขาก็หายไป ทางด้านฉันก็ไม่ได้ตาม หรือถามไถ่ ฉันก็ใช้ชีวิตตามปกติ
“พี่นอนไม่หลับเลยครับช่วงนี้ พี่เครียดมาก พี่อยากคุยกับน้องมาก ๆ ครับ” พี่นายส่งข้อความบอกฉัน
“เป็นอะไรคะ” ฉันส่งข้อความถามกลับพี่นาย
“ที่หายไป 10-11 เดือน พี่แอบไปมีแฟนครับ แล้วเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว พี่ก็เพิ่งรู้ว่าแฟนของพี่ นอกใจครับ” พี่นายส่งข้อความบอกฉัน
“รู้ได้ยังไงว่านอกใจ หึงกินไปป่าว” ฉันถามกลับ
“พี่เครียดครับ ทำไงให้ไม่เครียด เขานอกใจไปกับแฟนเก่าเขาที่เป็นพ่อ เป็นสามีคนอื่น ไปที่โรงแรม xx ครับ เขาบอกกับปากเขาเองเลยครับ” พี่นายส่งข้อความบอกฉัน
“โอ้วววว พี่นายยังจะคบแฟนคนนี้ต่อหรอ? เขาก็ชัดเจนดีเนอะ” ฉันตอบไม่ถูกเลย ไม่รู้ว่าฉันควรจะตกใจกับสถานการณ์ใดเป็นอันดับแรก
“ไม่อยากคบแล้วครับ พี่ไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ มีพี่คนเดียวไม่พอหรือครับ” พี่นายถามฉัน ดูเสียใจอยู่ไม่น้อย
“ไม่น่าจะเกี่ยวกับพอหรือไม่พอไหมคะ เขาก็กล้าพูด เป็นคนตรงหรืออะไรแยกไม่ออกเลย คนแบบนี้ออกไปจากชีวิตมันก็น่าจะดีแล้วนี่นา จะเครียดอะไรคะ” ฉันส่งข้อความถามกลับ
“พี่ไม่เข้าใจครับ” พี่นายถามฉัน ฉันอ่านข้อความที่พี่นายส่งถามฉัน พรางคิดในใจว่า สมองของพี่นายไม่น่าจะสมบรูณ์ ดูสับสน
“แฟนพี่นอกใจ พี่ไม่อยากคบต่อแล้ว ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้ ความสัมพันธ์ของพี่มันก็ต้องจบแล้วหรือเปล่าคะ? แล้วก็มาบอกกับปากเองไม่รอให้ใครเดาเลย เหตุการณ์มันปกติหรอคะ? ตอนนี้พี่นายคงไม่ต้องเครียด แต่คงต้องเลือกไหมคะ? ว่าจะทำไงต่อ?” ฉันอธิบาย
บริษัท ถุงยางอนามัยชื่อดังอย่าง ดูเร็กซ์ (2006) ได้สำรวจคู่รักที่นอกใจจากทั่วโลก พบว่า ประเทศที่มีการนอกใจสูงที่สุด คะแนนสูงถึง 51% เกิดจากสาเหตุ 1) ความต้องการของตนเอง 2) ต้องการหาความตื่นเต้น 3) สถานะทางการเงิน และ 4) ไม่รักกันมาก
เมื่อถูกนอกใจ อาจจะไม่จำเป็นต้องเลิกรากันเสมอไป แต่ถ้าฝ่ายใดมีความคิดแบบผัวเดียวเมียเดียว (Monogamy) การนอกใจก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ในความสัมพันธ์นั้น ผลที่ตามมาก็คือ การเลิกลา
อรัณย์ หนองพล (2019) กล่าวว่า ปัจจุบันคนมองเรื่องเซ็กซ์ และเรื่องความสัมพันธ์ แยกออกจากกัน บางคนมองเป็นเรื่อง ‘นอกกาย’ หรือเรียกว่า ความสัมพันธ์แบบ Open Relationship หมายถึง ต่างฝ่ายต่างเปิดโอกาสให้อีกฝ่าย ไปมีความสัมพันธ์ และ/หรือมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นได้ ซึ่งต่างฝ่ายต้องมีความใจกว้างเป็นอย่างสูงเป็นอย่างมาก
“น้องก็พูดถูก น้องดูเด็ดขาดมาก” พี่นายบอกฉัน
“ประชดไหมคะ มันไม่ใช่เลยค่ะ” ฉันตอบพี่นาย
“เปล่าครับ ดูเด็ดขาดมากจริง ๆ ทำยังไงถึงจะเด็ดขาดแบบนี้” พี่นายถามฉัน
“รักตัวเองให้ได้ค่ะ เดี๋ยวมันจะรักคนอื่นน้อยลง ใครทำให้อึดอัดไม่คบ ใครทำให้ร้องไห้ไม่คบ ใครทำให้ไม่มีความสุขไม่คบ ทำยากนะคะ แต่ก็ทำได้” ฉันตอบ ฉันชอบวิธีนี้มากมันทำให้ฉันรู้สึกเป็นอิสระ เด็ดขาด เป็นผู้เลือก ฉันหวงความสุข ความสบายใจ และคุณภาพชีวิตเดิมของฉัน ซึ่งมันคือความแข็งแกร่งทางจิตใจ
การรักตัวเอง เป็นพื้นฐานที่สำคัญของการมีชีวิตที่มีความสุข รวมไปถึงการมีความรักที่ดี ทุกคน ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ ต้องการเป็นที่รัก เป็นที่ต้องการ เป็นที่ยอมรับจากคนอื่น อาจมีบ่อยครั้งที่รู้สึกว่า ไม่คู่ควรกับการมีความรักที่ดี หรือยังดีไม่พอ มันคือความรักที่ยังมีเงื่อนไข ดังนั้นการที่จะมี “ความรักที่ดีแบบไม่มีเงื่อนไข” สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้เป็นเสียก่อน
ปี 2559
ฉันเพิ่งกลับจากที่ทำงาน เพิ่งเปิดประตูเข้าห้องกำลังจะเปิดไฟ เสียงโทรศัพท์ฯ ของฉันก็ดังขึ้น ฉันปล่อยให้มันดังไปก่อน ฉันต้องการอยู่นิ่ง ๆ สักพัก ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็เงียบลง ฉันทำธุระส่วนตัวเสร็จจึงหยิบโทรศัพท์มาดู หน้าจอขึ้นชื่อ ตั้น ตั้งแต่วันที่เจอกลุ่มเพื่อนของเขา ฉันก็ไม่อยากคุย ไม่อยากสนใจเรื่องตั้น เกือบ 3 อาทิตย์ แล้วที่ไม่ได้คุยกัน แต่คุยกันให้จบไปเลยเสียก็ดี สิ้นสุดที่ฉันคิดเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฉันรับ
“เราคบกันไม่ได้ คบกันไม่ได้ ทำไม่ได้” ตั้นบอกกับฉันผ่านการคุยทางโทรศัพท์ เสียงขึ้นจมูกมากขึ้น ๆ ตามเวลาที่เดินไป เขาพูดซ้ำ ๆ เหมือนว่าเขากำลังบอกตัวเองมากกว่าบอกฉันเสียอีก
“อืม” ฉันตอบ เขาพูดสวนขึ้นมาทันทีที่ฉันรับสายโทรศัพท์ จากที่เขาพูดแม้เสียงจะสั่น และอู้อี้เหมือนคนแน่นจมูก แต่ฉันกลับรู้ราง ๆ ว่าตั้นกำลังพูดเรื่องอะไร
“เขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เราจะแต่งงานกันไม่ได้” ตั้นบอกกับฉัน เสียงสั่น พูดไม่ชัดเจน อารมณ์ไม่แจ่มใส เสียงเบา กังวล และดูเครียด พูดวนไปมา
“อืม” ฉันตอบ พรางคิดว่า ฉันเคยคุยเรื่องแต่งงานตั้งแต่เมื่อไรกันนะ? แล้วที่ผ่านมานี่คือคบกันแล้วหรือ? ฉันไม่ถามเพื่อความแน่ใจ ฉันต้องการรีบคุยรีบจบ ๆ ไป
“เอาชื่อนาม สกุลไปเช็คประวัติขอโทษด้วย” ตั้นบอกกับฉัน น้ำเสียงสั่นเครือ พูดติด ๆ ขัด ๆ พูดไม่เต็มเสียง ไม่ร่าเริงเหมือนเคย คล้ายคนร้องไห้
“อืม ไม่เป็นไร เข้าใจแล้วจะวางสายแล้วนะ” ฉันตอบก่อนกดวางสายฉันได้ยินเสียงสะอื้น ฉันอาจจะคิดไปเองเสียก็ได้
หลังลูกจากฉันไปช่วงแรก ๆ ฉันเคยตอบคำถามคนอื่นที่ถามถึงเรื่องลูก หลังการตอบคำถามแต่ละครั้ง ฉันกลับบ้านมาอย่างเศร้าใจเกือบเสียทุกครั้ง คนที่ต้องมารับรู้ความเสียใจของฉันมีเพียงแค่ "ป๊า และแม่" ฉันยังจะมีหน้าแกมบังคับป๊า แม่มาเห็นฉันร้องไห้ หน้าตาอมทุกข์อย่างเสียไม่ได้ ฉันละอายแก่ใจเสียเต็มประดา
ฉันไม่สามารถอดทนตอบคำถามเรื่องลูกให้ใครรับรู้ได้อีกต่อไป ทุกครั้งที่ต้องมีมารยาทตอบคำถามเรื่องลูก สมองของฉันต้องย้อนคิดเรื่องเก่า สักพักความทุกข์ ความเสียใจที่พยายามเก็บไว้มันก็เข้ามาจู่โจม ทำร้ายจิตใจของฉันเหมือนที่เคย
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วเมื่อไรที่ความเสียใจของฉันมันจะลดลงหรือหายไปจากใจของฉันเสียทีเล่า ฉันต้องการเข้มแข็งขึ้นบ้าง ฉันระอากับความทุกข์เต็มกลืนแล้ว ฉันจึงเลือกถนอมความรู้สึกของฉันเอง คือ ฉันจะพยายามไม่นึกถึงเรื่องที่ทำให้ฉันเศร้าอีก ใครจะคิดว่าฉันปิดบัง ซ่อนเร้น อำพราง หลอกลวง จะเรียกว่าฉันว่าอย่างไรก็ตาม เชิญได้เลยตามที่ทุกคนเห็นควร
ฉันทนความผิดหวังเรื่องความรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้เป็นอย่างดี ฉันคุ้นชินกับสายตาดูถูก คำพูดด้อยคุณค่า คำพูดสกปรก และการปฏิเสธฉันเรื่องใด ๆ ก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ว่า ฉันเคยมีลูกมาแล้ว แต่น่าแปลกใจเสียจริงที่ฉันไม่เจ็บปวด ไม่รู้สึกเสียดายหรือเสียใจเลยสักครั้งที่ถูกใครตีตราเช่นนั้น
ผศ.ดร.ปณิธี (2022) การที่เรามีรูปแบบครอบครัวที่ไม่เหมือนกับความคาดหวังของสังคม ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ” กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (2015) ระบุว่า ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว จำนวน 9.7 แสนครัวเรือนในปี 2530 เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ล้านครัวเรือนในปี 2556 หรือคิดเป็น 41% ซึ่งในจำนวนนี้กว่า 80% เป็นครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว
ตั้น อายุน้อยกว่าฉัน 7-8 ปี เป็นผู้ชาย หัวเกรียน ผิวขาว ตัวสูงใหญ่ ตาโต หน้าตาดี ทำธุรกิจส่วนตัว การศึกษาสูง ฐานะการเงินดี
เรามักจะนัดเจอตามที่ต่าง ๆ นัดกินข้าว ไปเดินห้างฯ ในวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนมากส่งข้อความหากันระหว่างวัน และคุยกันทางโทรศัพท์ช่วงก่อนนอน เป็นแบบนี้นานสักระยะหนึ่ง
หลังคุยกับตั้นเข้าเดือนที่ 5-6 ตั้นนัดกินข้าวกับกลุ่มเพื่อนของเขา ฉันรู้จากเพื่อนของเขาที่พยายามแซวฉันกับตั้นแบบสนุกสนาน แต่สมองของฉันจับใจความแต่เรื่องโปรไฟล์ของตั้น เช่น เขามีนามสกุลเก่าแก่ และพ่อเขาก็มียศเสียใหญ่โต ฉันกลับคอนโดฯ เข้านอน และคิดเรื่องความสัมพันธ์ครั้งนี้ แล้วฉันตัดสินใจหยุด
เช้าวันรุ่งขึ้น ความรู้สึกของฉันที่มีต่อตั้นมันเปลี่ยนไป ฉันเงียบ ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ส่งข้อความ ไม่ทักทาย เพราะฉันอึดอัดกับโปรไฟล์หรือคุณสมบัติที่ดีเลิศของเขา มันไม่ใช่เรื่องว่าฉันชอบเขาหรือไม่ แต่มันเป็นเรื่องความเหมาะสม เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรกับเขา ฉันตระหนักรู้ถึงข้อนี้เป็นอย่างดี
เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ตั้นได้จัดงานแต่งงานอย่างยิ่งใหญ่ ที่โรงแรมดัง ใจกลางมหานคร และมีพิธีลอดซุ้มกระบี่เสียด้วย กับเจ้าสาวแสนสวย คุณสมบัติเหมาะสม สามารถส่งเสริม สนับสนุนกันและกัน ตั้นเลือกคู่ครองได้ดีทีเดียว วันนั้นฉันถอยออกมามันถูกต้องที่สุดแล้ว
รศ. ดร. คัคนางค์ มณีศรี คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2022) กล่าวถึงผลการวิจัยที่ศึกษาความแตกต่างในเรื่องความรักของผู้หญิง และผู้ชายไว้ว่า ผู้หญิงตกหลุมรักบ่อยกว่าผู้ชาย และเป็นความรักที่รุนแรงกว่าผู้ชาย ผู้หญิงคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและมีอุดมคติเรื่องคู่มากกว่าผู้ชาย แม้ผู้หญิงจะรักบ่อยกว่าและรุนแรงกว่า แต่กลับพบว่าผู้ชายตกหลุมรักเร็วกว่าผู้หญิง
ชายหนุ่มอยากสร้างบ้านสักหลัง จึงแบกขวานไปตัดไม้ เขาพบกับต้นไม้ที่ถูกใจ รีบนำขวานฟันต้นไม้นั้นทันที ไม่นานต้นไม้ต้นนั้นก็ล้มครืนลงมานอนอยู่เหนือแผ่นดิน
ชายหนุ่มเดินไปในป่าลึกเข้าไปอีก เขาก็พบกับต้นไม้ต้นที่สอง เขาชื่นชอบ และถูกใจกว่าต้นแรก ชายหนุ่มจึงทิ้งต้นไม้ต้นแรก ไปตัดต้นที่สอง
สักพักเจอต้นที่สาม ก็ทิ้งต้นสองเช่นเดิม แล้วเขาก็เดินป่าเข้าไปอีก ก็เจอต้นไม้อื่นที่สวยกว่าต้นที่แล้ว เขาทำวนไปอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
ตอนนี้เขามีต้นไม้เพียงพอแล้ว ในการสร้างบ้านหนึ่งหลัง แต่เขาเอะใจ อยากลองเดินเข้าป่าไปอีกสักนิด เขาก็ได้พบกับ “ต้นไม้ที่สวยงามที่สุดในโลก”
ชายหนุ่มชอบต้นไม้ต้นนี้มากที่สุด แต่เขาก็ไม่มีเรี่ยวแรง และขวานก็บิ่นมากเสียแล้ว เขาจึงทิ้งขวานบิ่น ด้ามนั้นไว้ในป่า และเดินทางกลับบ้านด้วย “ความรู้สึกผิดหวังในตัวเอง”
ป๊าฉันเตือนตั้งแต่ฉันยังเล็กบ่อยครั้งว่า “ระวังจะพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น” ภาษาอังกฤษ คือ It’s too late to turn back now หรือ The river has no return ซึ่งหมายถึง กาลเวลาได้ล่วงเลยไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว
ฉันฟัง จำได้ และเข้าใจในสิ่งที่ป๊าฉันพยายามสอนฉัน ตักเตือนฉัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี ฉันกลับตาบอด หูหนวก ไม่ระวังจิตใจตนเอง เผลอเลอ ประมาท โง่เขลา จองหอง อวดดี จนกลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ป๊าสอน
แต่ฉันก็ไม่นึกเสียดายอดีต เพราะประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมาของฉัน มันสอนให้ฉันเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างแจ่มแจ้ง ฉันเติบโตขึ้น และแข็งแกร่งจากสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต ฉันเพียงแต่คิดว่า คำเตือนของป๊า "มันเป็นจริง มันเกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่แน่แท้แบบที่ป๊าว่าจริง ๆ ด้วย"
ถ้าวันนั้นฉันฉลาดเพียงพอที่จะเชื่อฟังคนที่รักฉันที่สุดในชีวิตของเขาบ้าง ตอนนี้ชีวิตของฉันจะเป็นอย่างไรบ้างนะ
รัก
- 13
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
