8 มิ.ย. เวลา 23:28 • การศึกษา
เรื่องของการประพฤติปฏิบัติธรรม ด้วยนิสัยที่ติดตามในชั้นดุสิต องค์พระสิทธัตถะ ท่านนั่งพับเพียบกัน นั่งกายนิ่ง เหมือนเสาปลักลงไปเลย เรื่องนี้เราเคยถามพระที่เรานับถือ สาวกของท่านก็นั่งพับเพียบ
..ลงมีอปฏิบัติธรรมขึ้นมา ..มันจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
การนั่งพับเพียบเป็นกิริยาที่นอบน้อม หูทิพย์ตาทิพย์ ท่านมองดูออก เค้ามองเห็นที่จิต ที่เป็นนามธรรม ส่วนกายนั้นเค้าเห็นเป็นเงา เค้าสามารถดูได้ว่า จิตดวงไหน ทำจิตได้ หรือไม่ได้ เป็นสมาธิ หรือไม่เป็นสมาธิ หรือ วุ่นวายอยู่กับอารมณ์นึกคิด เรื่องอารมณ์นั่น ที่ปรุงแต่งในเรือนกาย เค้าก็เห็นเป็นสีดำ สีน้ำตาล สีกรรมท่า สีม่วง จิตดวงมีสีที่ดี สีบุญกุศล สีฟ้า สีเหลือง สีแดง สีเขียว สีขาวใสบริสุทธิ์ จิตที่เป็นสีขาวไม่ขาวใสบริสุทธิ์ จิตนั้นก็มีเรื่องราวของโลกีย์
ยิ่งมีเรื่องราวไสยศาสตร์ คาถาอาคม เวทมนต์ อิทธิฤทธิ์โลกีย์ มันเป็นสีดำสนิทติดทนนาน เหนียวเหมือนยางมะตอยไปเลย ยิ่งมานั่งปฏิบัติธรรมในรอยนี้ไม่ได้ จะเร่าร้อน หงุดหงิด แล้วก็จะทำตัวว่า รู้แล้ว อวดเก่ง อวดดี เหมือนเทวทัต หลงว่าตนเองทำได้ ก็ชักชวน สอนว่า ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ รู้ไปหมด แต่ตนเองปฏิบัติธรรมไม่ได้เลย ..บอกว่า ..รู้น่ะ ..รู้จริง? ..แต่ทำไม่ได้ ..แล้วมันมีประโยชน์อะไร ..
อีกเรื่องหนึ่ง ในการกล่าวคำอธิฐานปฏิบัติธรรมตามรอยองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำกล่าวนี้ ส่งขึ้นไปถึงศูนย์ของธรรม สมมุติว่า เรามีสัจจะปฏิบัติธรรม ห้านาที ก็เหมือนมีกล้องส่องลงมา ดูว่า เราทำจริงมั้ย จะอดทน มีความตั้งอกตั้งใจ ที่จะปฏิบัติธรรมหนีกรรมของตนเอง มันจึงเป็นเรื่องขิงการฝึกหัด ที่มีรายละเอียด เหตุผลขเงโลกของธรรม ที่จะไปสู่เรื่องของปัญญาธรรม เวลาปฏิบัติธรรม ..คำภีร์ตำราที่จดจำมา มันเป็นอารมณ์ทั้งนั้น ทิ่งให้หมด
ในเรื่องของกาย กายที่มีกรรมมาก จะไม่สามารถ นำมานั่งในกิริยานี้ได้เลย กายที่ไม่ครบอาการสามสิบสองก็ทำไม่ได้ กายไม่แข็งแรงก็นั่งลำบาก เป็นกายที่มีกรรม ท่านจึงแนะนำ ให้สร้างบุญกุศลขึ้นมา ให้กายนี้เป็นกายบุญ กายบุญนั้น ก็ทำให้ร่างกายแข็งแรง โรคภัยไม่ค่อยเบียดเบียน อารมณ์ก็ไม่ค่อยมีมากนัก จิตก็มีความสุข ในกายที่เป็นบุญ พอกายเป็นบุญ กายบุญเกิดขึ้น ก็สามารถ นำกายบุญ นั้นมาปฏิบัติธรรมได้สะดวกขึ้น
เรื่องกายบุญ จิตนั้นต้องมีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ นำธาตุทั้งสองของบิดามารดามา สร้างบุญกุศล ปฏิบัติธรรมขึ้นมา เพื่อสร้างบุญกุศลบารมี การที่นำกายพ่อแม่มาปฏิบัติธรรม ธาตุสองของพ่อแม่ ก็พลอยได้รับบุญกุศลได้
การนำกายมานั่งให้นิ่ง ได้จะเกิดปัญญาธรรมเกิดขึ้น บางทีท่าน ก็บอกว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรเลย เหมือนผักผลไม้ หากตั้งทิ้งไว้เฉยมันก็เน่าเหม็น พอเราไปกินผักผลไม้ มันก็ไปเน่าในกาย แล้วก็ขับถ่ายทิ้งไป โลกนี้ไม่มีอะไร ท่านก็นั่งได้เป็นวันเป็นคืน แล้วเรื่องของกายที่ท่านเป็นพระ กายของท่านไม่มีอะไร ไม่มีอารมณ์
คราวนี้ เวลาปฏิบัติธรรม ท่านก็ไม่ไปนั่งนึกคิดอะไร ท่านนั่งนิ่ง จิตไม่มีอะไร ไม่มีสิ่งปรุงแต่งกาย จิตก็มีความสุข นั่งก็มีความสุข สุขกายสุขใจ สุุขในธรรม
เรื่ิองของการกราบพระ ยังต้องฝึกหัด ไม่ใช่แค่ตอนไปนั่ง เค้านอบน้อมตั้งแต่การกราบพระ ไม่รีบร้อน กายนิ่งๆ จิตเฉยๆ ไม่มีอารมณ์ กราบยังไง ให้จิตกราบไปถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำอย่างไร เอาอารมณ์ลุกลี้ลุกลนมากราบ มันก็ไม่ได้อะไรเลย กราบด้วยกรรม เอาอารมณ์กรรมมากราบ แล้ววิญญาณทั้งหกก็มีแต่อารมณ์ จะกราบพระ ก็คิดนั้นคืนนี้ กรรมทั้งนั้น จะพนมมือกราบพระ ก็นึกคิดเรียกร้องจมอยู่กับกรรม
.ที่เขียนมานี้ ..ขอให้จิตน้อยๆของข้าพเจ้า อย่าได้เห็นตัวเองดีแล้วเลย ขออย่ามีตัวอวดเก่งอวดดีเลย ขอให้จิตข้าพเจ้ามีความอ่อนน้อม นอบน้อม ในคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ..
โฆษณา