8 ก.พ. เวลา 10:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
ไทย

ทำอย่างไรถึงจะให้“หิมะ”ตกในประเทศไทย?

ทางโน้นหนาวแล้ว ทางนี้จะหนาวเมื่อไหร่? และถ้าอยากให้“หิมะ”ตกในประเทศไทยเราจะต้องใช้พลังงานเท่าไรในการแช่แข็งโลกทั้งใบ?.... "Ice No. 7" จะให้คำตอบแก่คุณ!
มีสสารลึกลับบนโลกของเราซึ่งมีพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้และมีคุณสมบัติแปลกประหลาดอยู่จริง ถ้าหากโยนน้ำแข็งหมายเลข 7 (Ice No. 7)ลงทะเล มันจะทำให้น้ำในมหาสมุทรทั้งหมดแข็งตัวจริงๆหรือ?
1
และมุกเก่าๆก็ขอเรียกวัสดุนี้ตามที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า Ice 7 หรือ Ice VII มันซ่อนตัวอยู่ในสภาวะความดันและอุณหภูมิที่รุนแรงราวกับมาจากอีกโลกหนึ่ง
ด้วยความสามารถของมัน จนบางคนถึงกับบอกว่าถ้าน้ำแข็งนี้ปรากฏบนโลกมันสามารถเปลี่ยนมหาสมุทรของเราให้กลายเป็นโลกน้ำแข็งได้ แต่สิ่งนี้เป็นไปได้จริงเหรอ?
น้ำแข็งลึกลับหมายเลข 7
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ มีน้ำแข็งชนิดหนึ่ง ราวกับว่าธรรมชาติได้ท้าทายขีดจำกัดของมันน้ำแข็งลึกลับนี้เรียกกันติดปากว่า "Ice No. 7" หรือ Ice VII โดยนักวิทยาศาสตร์
แต่อย่าสับสนกับผลึกน้ำแข็งใสๆที่เราเห็นในฤดูหนาวที่ต่างประเทศกันนะครับ
เพราะน้ำแข็งหมายเลข 7 เป็นสสารแปลก ๆ ที่จะสามารถก่อตัวได้ภายใต้สภาวะที่รุนแรงเท่านั้น
ลองนึกภาพตามนะครับ ถ้าคุณมีเครื่องอัดพิเศษที่สามารถอัดน้ำให้อยู่ในระดับที่แทบจะจินตนาการไม่ถึง
คุณก็สามารถสร้างน้ำแข็งหมายเลข 7 ได้
น้ำแข็งมหัศจรรย์นี้ต้องใช้แรงกดดันอย่างน้อย 3 พันล้านปาสคาลจึงจะเกิดได้
1
แต่ตัวเลขนี้มีขนาดใหญ่มากจนเกินแรงกดดันที่สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติบนโลกสามารถทำได้
ในความเป็นจริง แม้แต่ร่องลึกบาดาลมาเรียนา ซึ่งเป็นร่องลึกมหาสมุทรที่ลึกที่สุดในโลกก็มีแรงกดดันมากกว่า 100 ล้านปาสคาลนิดล์ๆเอง
โครงสร้างของ Ice No. 7 มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก
โดยผมสามารถทดแทนได้ด้วยการนำรูปแบบคริสตัลของระบบลูกบาศก์คริสตัลมาใช้ ซึ่งหมายความว่าโมเลกุลของน้ำนั้นถูกอัดแน่นอย่างแน่นหนา
โดยมีออกซิเจนแต่ละอะตอมล้อมรอบด้วยอะตอมไฮโดรเจนแปดอะตอม
โครงสร้างที่หนาแน่นนี้ทำให้น้ำแข็งหมายเลข 7 แข็ง และมีเสถียรภาพมากกว่าน้ำแข็งที่เรามักจะพบเห็น
ตามทฤษฎีแล้ว ความเร็วของการตกผลึกของน้ำแข็งหมายเลข 7 สามารถเข้าถึงได้ที่ 1,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
1
ซึ่งหมายความว่าหากมีเงื่อนไขเพียงพอ ก็สามารถปกคลุมมหาสมุทรทั้งหมดได้เกือบจะในทันที
1
อย่างไรก็ตาม ความเร็วนี้สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขการทดลองเฉพาะเท่านั้น และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเกิดขึ้นในธรรมชาติ
แต่อย่ารีบไปหา Ice No. 7 เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเจอบนโลก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบมันในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
เนื่องจากไม่มีสถานที่ใดที่ความกดดันจะสามารถตอบสนองเงื่อนไขในการก่อตัวของIce No. 7 ได้
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะสามารถสร้างน้ำแข็งหมายเลข 7 ขึ้นมาในห้องปฏิบัติการได้ก็ตาม
แต่มันก็จะเปลี่ยนกลับเป็นน้ำธรรมดาได้อย่างรวดเร็วเมื่อถูกนำออกมาจากสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันสูง
แม้ว่าน้ำแข็งหมายเลข 7 จะหายากมากบนโลก
แต่ก็มีคุณค่าที่ไม่อาจทดแทนได้ในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และด้วยการศึกษา Ice 7 นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจได้ดีขึ้นว่าน้ำมีพฤติกรรมอย่างไรในสภาวะที่รุนแรง
สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสำรวจดาวเคราะห์ที่อยู่นอกโลกและแม้กระทั่งการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
การศึกษาเหล่านี้เป็นก้าวสำคัญในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมอื่นๆ ในจักรวาลและเงื่อนไขของชีวิต
ดังนั้น ครั้งต่อไปที่คุณมองดูดวงดาว
ลองจินตนาการว่าอาจมีน้ำแข็งลึกลับหมายเลข 7 บนดาวเคราะห์อันห่างไกลใบนั้นซึ่งบอกเล่าความลับของจักรวาลไว้อย่างเงียบๆ
เอาล่ะๆๆๆ แล้วใครเป็นผู้ค้นพบมุก Ice No. 7 กันล่ะ????
ในกระบวนการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ การค้นพบบางอย่างเกิดขึ้นโดยบังเอิญ
ผมขอย้ำนะครับว่า....บังเอิญ นั่นคือในขณะที่บางอย่างถูกเปิดเผยหลังจากการสำรวจและการวิจัยในระยะยาว
การค้นพบน้ำแข็งหมายเลข 7 จัดอยู่ในประเภทถูกค้นพบโดยบังเอิญ
นั่น คือ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์กำลังมองหาสิ่งอื่นอยู่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำแข็งหมายเลข 7
เรื่องราวมันเริ่มต้นในปี 2561 เมื่อนักธรณีวิทยาชื่อ Oliver Schooner และทีมของเขาค้นพบน้ำแข็งลึกลับนี้โดยบังเอิญขณะค้นหาเพชรธรรมชาติ
การค้นพบน้ำแข็งหมายเลข 7 เปรียบเสมือนการค้นพบอัญมณีเรืองแสงในถ้ำอันมืดมิดโดยไม่ได้ตั้งใจ
นักวิทยาศาสตร์พบเพชรที่มีน้ำแข็งหมายเลข 7 อยู่ลึกเข้าไปในเขตเปลี่ยนผ่านเนื้อโลก
ซึ่งอยู่ใต้ดินประมาณ 410-660 กิโลเมตร
เพชรเหล่านี้ไม่ใช่เพชรที่เรามักจะพบเห็น พวกมันถูกสร้างขึ้นภายใต้ความกดดันและอุณหภูมิที่รุนแรง และในกระบวนการนี้ มันห่อหุ้มโมเลกุลของน้ำที่อยู่ลึกลงไปในโลก
การค้นพบนี้ทำให้เส้นทางการสำรวจของชุมชนวิทยาศาสตร์สว่างขึ้น
และเผยให้เห็นความลับอันน่าอัศจรรย์ที่อาจซ่อนอยู่ลึกลงไปในโลก เพชรแต่ละเม็ดที่ถูกแกะสลักตามเวลาและสิ่งแวดล้อม
1
ได้กลายเป็นพยานในการสำรวจภายในของโลกและพฤติกรรมของน้ำภายใต้สภาวะที่รุนแรง
การค้นพบที่ไม่คาดคิดนี้นำไปสู่การผจญภัยทางวิทยาศาสตร์
ที่ทำให้เราเข้าใจความลึกลับของโลกเราอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ปาฏิหาริย์ของการก่อตัวตามธรรมชาติของน้ำแข็งหมายเลข 7 บนโลกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
มันเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับพลวัตที่ซับซ้อนภายในโลก
โลกไม่คงที่แต่เป็นระบบไดนามิกของแมกมาที่ไหล แผ่นเลื่อน ตลอดจนอุณหภูมิและแรงกดดันสุดขั้ว
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
โมเลกุลของน้ำสามารถถูกบีบอัดจนถึงสภาวะสุดขั้วจนกลายเป็นน้ำแข็งหมายเลข 7
1
แต่สถานการณ์นี้เป็นไปได้เฉพาะในเขตเปลี่ยนผ่านชั้นเปลือกโลกชั้นลึกเท่านั้น ความดันและอุณหภูมิภายในโลกสูงมาก
ซึ่งทำให้โมเลกุลของน้ำถูกบีบอัดและก่อตัวเป็นน้ำแข็งหมายเลข 7 ได้
1
และเมื่อน้ำแข็งหมายเลข 7 เหล่านี้ถูกห่อหุ้มด้วยเพชร พวกมันก็เหมือนกับถูกผนึกไว้ในแคปซูลเวลาเล็กๆ
เพื่อรักษาสภาพที่พวกมันก่อตัวขึ้นมา
ในที่สุดเพชรเหล่านี้(อาจ)ถูกนำขึ้นสู่ผิวน้ำโดยกิจกรรมทางธรณีวิทยา
เช่น การปะทุของภูเขาไฟ หรือการแปรสัณฐานของแผ่นเปลือกโลก เมื่อนักวิทยาศาสตร์ค้นพบเพชรเหล่านี้ มันก็เหมือนกับการค้นหากุญแจสู่ความลับที่อยู่ลึกลงไปในโลก
แต่นักวิทยาศาสตร์ยืนยันได้อย่างไรว่าสิ่งเหล่านี้คือ Ice No. 7
ก็เหมือนการศึกษาอะตอมทั่วๆไป คือการยิงนิวตรอนเพื่อศีกษาการเลี้ยวเบนของนิวตรอนไงล่ะครับ....
พวกเขาใช้เทคนิคที่เรียกว่าการเลี้ยวเบนของนิวตรอน เทคนิคนี้สามารถยิงกระแสนิวตรอนไปที่วัสดุ
และเปิดเผยโครงสร้างอะตอมของวัสดุโดยการสังเกตรูปแบบการเลี้ยวเบนที่เกิดขึ้น
เมื่อใช้วิธีนี้ นักวิทยาศาสตร์สามารถสังเกตโครงสร้างผลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ice No. 7 เพื่อยืนยันการมีอยู่ของมัน
เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามองเห็นโลกลึกลับที่อยู่ลึกลงไปในโลกอีกด้วย
1
ในจักรวาลอันกว้างใหญ่และน่าทึ่งของเรา Ice No. 7 เปรียบเสมือนกุญแจลึกลับที่เผยให้เห็นความลับอันมหัศจรรย์
ที่อยู่ลึกลงไปในโลก
การค้นพบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลงานจากเส้นทางการสำรวจและค้นพบระยะยาวและต่อเนื่องของนักวิทยาศาสตร์
การดำรงอยู่ของน้ำแข็งก้อนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นข้อพิสูจน์ถึงสภาพแวดล้อมที่รุนแรงภายในโลกเท่านั้น
แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงพฤติกรรมของน้ำภายใต้สภาวะที่รุนแรงอีกด้วย
จากการศึกษา Ice No. 7 นักวิทยาศาสตร์ได้สำรวจส่วนลึกของโลกและสภาวะสุดขั้วของน้ำ
งานวิจัยนี้ยังกลายเป็นส่วนสำคัญในการสำรวจจักรวาลและค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก
ความมหัศจรรย์ของ Ice No. 7 ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สภาพการก่อตัวของมันเท่านั้น
แต่ยังรวมถึงการรับรู้กฎธรรมชาติอีกครั้งและการสำรวจทางวิทยาศาสตร์เชิงลึกที่มันนำมาด้วย
โลกนี้เต็มไปด้วยสิ่งลึกลับและความลึกลับกำลังรอให้นักวิทยาศาสตร์ไขความลับเพิ่มเติมต่อไป
ในการเดินทางทางวิทยาศาสตร์อันไม่มีที่สิ้นสุดนี้
Ice No. 7 เป็นเพียงจุดแวะพักที่ยอดเยี่ยมบนถนนแห่งการสำรวจ และการเดินทางสำรวจโลก
1
และจักรวาลของเราจะไม่มีวันสิ้นสุด
โฆษณา