10 มิ.ย. เวลา 13:20 • ความคิดเห็น
คำสองคำนี้ ที่จริง มันหมายถึงเรื่ิองภพภูมื สถานที่เดียวกัน นรก เปรต สัตว์ อสุรกาย พวกสัตวที่เราเห็น ก็เป็นอบายภูมิ เหมือนกัน ที่เรียกว่า จิตตกลงไปสู่อบายภูมิมีกายให้จิตอาศัย เป็นช้างม้าวัวควายมจิ้งจกตุ๊กแก หมูหมากาไก่ มดปลา จิตเค้าอยู่ในอบาย จิตเค้าไม่รู้จักดีชั่วได้ ไปอยู่ในรูปของกรรมนั่นๆ แล้วก็กินกับนอน อยู่ในสังขารกรรมนั้น จิตเค้าถูกปิดกั้น ไม่ให้รักเหตุผล ดีหรือชั่วได้ ไม่รู้จักคำว่า พ่อแม่ได้เลย
พวกจิ้งจกตุ๊กแก ก็เหมือนจิตที่เค้ายึดบ้าน ยึดสมบัติ พอจิตออกจากร่าง ก็ไปเป็นจิ้งจกตุ๊กแกเกาะเฝ้าบ้าน อะไรทพนองนี้ พวกที่หวง ที่โกงที่ไร่ที่นา ก็ไปเฝ้า ที่ไรที่นา นั่งเฝ้านอนเฝ้า ไม่มีอะไรกิน ปากมันก็เลก็ลงไปๆ นานไปก็ตัวสูงๆ อดอยากหิวโหย พวกโกงที่นี่น่า ..ก็ไปอยู่แบบนั้น
.. ยิ่งโกงบ้านโกงเมือง โกงเงินหลวง นั้นก็เหมือนโกงเงินวัดเงินที่เค้าสาธุ .เพราะเป็นเงินส่วนกลาง ที่ทุกคนเค้าสละออกมาทเค้าต้องเหน็ดเหนื่อยยากลำบาก ก็เป็นกรรมของคนคดโกง
เราก็ไปสังเกต ดูได้ ที่เค้าว่า คนคดโกงบ้านเมือง ยามแก่เฒ่าชราเป็นเย่างไร แต่บางทีกรรมเค้าส่งเสริม ให้หลงสร้างกรรมมากๆๆหนักๆ จิตออกจากกาย จะได้ลงนรกให้มันลึกๆ สร้างเจ้ากรรมนายเวรให้มากๆ จะได้ไม่ผุดไม่เกิด ไม่มีโอกาศมีกายมนุษย์เป็นโกฎเป็กัปป เรื่องพวกนี้ บางที่เค้าก็ทรมานจิต ตั้งแต่ยังไม่ตาย
ส่วนที่เป็นนามธรรม นรก เปรต อสุรกาย ส่วนจิตอีกประเภท หนึ่ง ที่เป็นโอปปติกะเร่รอน ก็มี เหมือนว่าตายก่อนอายุขัย ไม่มีบุญ กุศล พวกนี้เหมือนว่า นายนิรบายยังไม่รับไปตัดสิน พวกนี้ก็ทุกข์ทรมานมาก ..บางที่ไปเจอะเจอ เค้าท่องบ่นคาถาอาคม ก็ไหลไปยึด สิ่งนั้น เหมือนว่า ตอนเป็นคนชอบเรื่องทำนองนี้ ก็ไปติดกับดัก (เหมือนโซ่ล่ามยึดกับสิ่งนั้น) ยึดวัตถุสิ่งของนั่น เป็นเหมือแม่เหล็กดูดจิตเลย
เรื่องภพภูมิ เมื่อเราปฏิบัติธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราก็จะได้ครอยเรียนรู้ขึ้นมา ส่วนมากเค้าให้เห็นพอรู้จัก ไม่ให้เราไปยึด ..บางคนอยากเห็นนรก ก็ต้องถามว่า หากเราเห็นจิตที่ถูกในเหมือนนรก จิตเราพร้อมมั่ย หรือ ว่าสติแตก บางคนไปเห็นแล้วจิตเสียก็มี คนที่ไปเห็นนรก เค้าไม่รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร เพราะเค้าไม่ได้ สัมผัสในเวทนาทุกข์ของเมือนรก
เรื่องราวของการ พิสูจน์ อย่าไป ลองเลย มันไม่ได้ จะช่วยอะไรให้จิตเราดีได้ เราก็ปฏิบัติธรรม ลดละอารมณ์ ไปเรื่อยๆ ไม่เห็นอะไรนั่นดีที่สุด เพราะจิตเรายังแยกแยะ เรื่องราวต่างไม่ได้ เรื่องเหตุเรื่องผล มันมีอะไรที่พร้อมจะหลอดจิตให้หลงใหลตลอด ยิ่งชอบอิทธิฤทธิ์โลกีย์ มันก็จะทำให้จิตเสียหาย
การศึกษาธรรมนั้น ท่านให้เรียนรู้ทุกอย่าง มันเป็นหมวดๆ หมวดโลก หมวดธรรม หมวดกรรม หมวดจิต มันมีเรื่องราวมากมายก่ายกอง ที่เราไม่รู้จัก เราเป็นจิตน้อยๆ เป็นจิตกึ่งพุทธกาล ไม่ใช่จิตต้นพุทธกาล ที่ท่านสะสมบุญบารมี มาเกิดทันองค์พระสมณะโคดม ..เราค่อยเรียนรู้ไป สร้างบุญกุศลไป ให้รู้จักอานิสงส์ของการทำบุญทำทาน เป็นอย่างไร เพราะ จิตเราต้องการบุญกุศล เราก็สละวัตถุปัจจัย แปรสภาพมาเป็นบุญ สละความยึดถือออกไป สละโลภโกรธหลงออกไป ตรงนี้แหละที่จะช่วยให้จิตไปสู่สุคติภูมิ มีกายบุญ เป็นเทพยดาอินทร์พรหม
โฆษณา