มีเพื่อนแท้ต้องได้อย่างคู่นี้ เมล กิ๊บสัน และโรเบิร์ต ดาวนีย์
เล่าเรื่อง Life Second Chance ให้ฟังผ่านหนัง Air America
มิตรภาพและคำว่า “เพื่อนแท้” ระหว่าง Mel Gibson และ Robert Downey jr เกิดขึ้นจากทั้งสองมีโอกาสได้ร่วมงานกันครั้งแรกใน Air America (1990) ภาพยนตร์ลงทุนสูงยกกองถ่ายทำมาบ้านเรา ทั้งจังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะสนามบินเชียงใหม่เป็นสถานที่ถ่ายทำหลัก โดยแบ่งกองไปถ่ายที่แม่ฮ่องสอน และภูเก็ตโดยสมมุติเป็นประเทศลาวตามเนื้อเรื่อง อันนี้ซอฟต์ เพาเวอร์ ยุค เก้าศูนย์ชัด ๆ
Air America - Anything ; Anytime ; Anywhere
ในแง่ของเกร็ดประวัติศาสตร์นั้น หนังดำเนินเรื่อง ท่ามกลางบรรยากาศร้อนระอุของสงครามเย็น หน่วยข่าวกรองกลางของสหรัฐอเมริกา (CIA) เปลี่ยนชื่อสายการบินขนส่งทางอากาศ (Civil Air Transport – CAT) มาเป็นสายการบินแอร์อเมริกา’ (Air America) และตั้งสำนักงานใหญ่และฝ่ายซ่อมบำรุงใหญ่ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ฐานบินอุดร (Udon Air Force Base) จังหวัดอุดรธานี
เครื่อง PC-6 ของ Air America ที่สนามบินเชียงใหม่ในยุค 1960
สายการบินแอร์อเมริกาถูกออกจัดตั้งมาเพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายระหว่างประเทศในสงครามลาว Air America มีสถานีเรดาห์ เครื่องรับส่งวิทยุที่ทันสมัยที่สุดในโลก เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงเครื่องบินที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถวิ่งขึ้นลงทางสั้นสำหรับขึ้นลงสนามบินล่องแจ้งมีภารกิจส่งกำลังบำรุงและสนับสนุนกองกำลังม้งของนายพลวังเปาและกองกำลังทหารอาสาไทยในลาว และในหนัง ฉาก สนามบินแม่ฮ่องสอนใช้เป็นตัวแทนสนามบินลับแห่งนั้น
Air America มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนสงครามลับในลาว เพื่อสกัดกั้นภัยคุกคามตลอดจนขัดขวางลอจิสติกส์ของฝั่งคอมมิวนิสต์ในเส้นทางโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงอุปกรณ์ส่งกำลังบำรุงของเวียดนามเหนือสู่เวียดนามใต้ รวมทั้ง คอยรับส่งเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่ CIA หน่วยรบพิเศษที่คอยกู้ภัยนักบินอเมริกันที่ถูกยิงตกเหนือน่านฟ้าลาว รับส่งบุคคลสำคัญ ทูต ผู้ลี้ภัย สายลับ แพทย์ ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไป-กลับ จากพื้นที่ปฏิบัติงานอุดร ไปในส่งในประเทศลาว
ฉากในภาพยนต์ ฉากหลังคือโรงเก็บฝูง 411 เชียงใหม่
Air America (1990) มีดาราไทยหลายท่านได้ร่วมแสดงคือคุณสินจัย รับบทเป็นภรรยาของเมล จำได้ว่ามีฉากสวยงามฉากหนึ่งที่ดาวน์นี่อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ โดยมีฉากหลังเป็นบึงจองคำ ที่แม่ฮ่องสอน สามารถมองเห็นวัดคู่แฝดอย่างงดงาม หลังจากนั้นทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลไปเยี่ยมสถานที่หลังภาพยนตร์ออกฉาย
ส่วนนักแสดงนำสองคนกลายเป็นคู่ซี้ ต่างวัยตั้งแต่นั้น และต่างคนต่างแยกไปตามทางของตน
Mel Gibson และ Robert Downey jr สมัยยังเอ๊ะ
ในตอนที่เมลกลายเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จไม่ว่าจะทั้งงานแอ็คชั่น งานดราม่า ไปจนถึงความยิ่งใหญ่ในฐานะผู้กำกับที่พา Braveheart (1995) คว้าห้ารางวัลออสการ์ ผิดกับเส้นทางของดาวนีย์อย่างสิ้นเชิงที่มีแต่ลงเหวไปทุกทีเพราะปัญหายาเสพติด เมล กิ๊บสัน เป็นคนดึง โรเบิร์ต ดาวนีย์ ขึ้นจากปัญหาชีวิต จนกลับไปดัง เพราะช่วงนั้นเมลมือขึ้นมาก หยิบจับอะไรก็ดังไปหมด กำกับหนังก็ทำกำไรให้สตูดิโอเยอะมากๆ มีอำนาจต่อรองเจรจาในฮอลลีวูด แกก็พาดาวนีย์กลับคืนวงการอีกครั้งโดยการการรับประกันในหนังหลายเรื่อง
ให้มันเล่นเรื่องนี้เถอะนะ หมอนี่มันเจ๋งดี มันเลิกยาเด็ดขาดแล้ว นายเชื่อฉัน ฉันเอาหัวเป็นประกันได้
เมล ที่เป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับฯ ใหญ่ เชียร์ให้ซะขนาดนี้ใครจะปฏิเสธ ดาวน์นี่ จึงได้บทนำในหนังไป เมื่อหนังออกฉาย ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ในทางที่ดีอย่างท่วมท้น หลังจากนั้นไม่นานนัก RDJ ก็กลับมาโด่งดังในเส้นทางฮอลลีวูดอีกครั้ง จนได้มาสวมเกราะเหล็กใน Iron man อย่างที่เห็น
ส่วนป๋าดัน กลับพลิกล๊อก ก็ชีวิตคนเรามันมีขึ้นมีลง ในช่วงหลังจากประสบความสำเร็จในชีวิต ป๋าเมล ดารารุ่นใหญ่ก็เข้าสู่ขาลง เพราะเมาซ้ำเมาซาก เมาได้ที่แล้วก็ซ้อมเมีย แถมเมาแล้วขาดสติ ชอบด่ากราดออกสื่อ มีช๊อตนึงเมาแล้วไปด่าคนยิวแรงๆ จนเป็นข่าวใหญ่โต ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา เมลประสบปัญหาโดนฮอลลีวูดแอนตี้ และแบนในที่สุด ไม่มีใครเสนองานให้ทำ เพราะแฟน ๆ รับไม่ได้กับพฤติกรรมขาดสติ จนงานหด เงินหมด ครอบครัวร้าวฉาน
ป๋าเมลวูบ หมดทางไปไม่มีใครเข้ามาช่วย ทั้งที่มีมากมายในวงการบันเทิงที่ได้รับโอกาสที่ดีเพราะแรงสนับสนุนของเมล ดาวนีย์ก็ไม่ใช่เพื่อนคนแรกและคนเดียวที่ได้รับความช่วยเหลือจากป๋าดันคนนี้
แต่ก็เป็นน้องเลิฟดาวนีย์นั่นเองที่ออกโรงช่วยซี้เก่าที่เคยช่วยเหลือเขา ให้กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง หลังจากเจอมรสุมในชีวิตส่วนตัวอย่างหนัก ปี 2011 ในงานมอบรางวัลที่ ไอรอนแมนเขาได้รับรางวัล เขาวิ่งเต้นให้เกิดเซอร์ไพรซ์ ขอทีมงานให้ เชิญ เมลเป็นคนมามอบรางวัลให้เขา และพูดบนเวทีว่า
พวกเราควรมูฟออนจากผิดบาปที่ คนเราพลาดกันได้ พวกคุณควรจะให้อภัยเขาได้แล้ว และให้เขากลับมาทำงาน ทำหนังดีๆ ให้เราดูกันซะ
หรือ ถึงขนาดที่พยายามเกลี้ยกล่อมบอร์ดบริหารของ Marvel ให้รับ Mel มาเล่นบทผู้ร้ายขาใหญ่ที่สุด(น่าจะเป็นธาโนส ) แต่เมลก็โดนปฏิเสธเพราะบอร์ดบริหารใหญ่หลายๆคนเป็นยิว โจทย์เก่าพี่เมลนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ยอดฝีมืออย่างเมลต้องการโอกาสก็จริง แต่ถ้าไม่ใช่แนว เขาก็ไม่ทำในที่สุดหนังแนวถนัดของเขา Hacksaw Ridge เข้าชิงออสการ์หลายรางวัล ซึ่งเป็นสัญญาณที่แน่ชัดแล้วว่า Mel Gibson มี Second Chance และผมเชื่อว่าคนเราก็มี แม้เขาจะไม่ได้กำลังจะกลับมายิ่งใหญ่ในฮอลลีวูดอีกครั้ง แต่ก็ยังรักษาเกียรติยศของตัวเองเอาไว้ได้ ไม่ให้มาตัดสินว่าล้มเหลว
และที่สำคัญที่สุดแล้ว
คุณงามความดีที่เมลสร้างไว้ก็สะท้อนออกมาในวันที่ใครก็ตามตกลงไปอยู่ในจุดต่ำสุด ซึ่งทุกคนก็มีโอกาสเจอเสทอ ใครคนนั้นจะพบว่ามีใครอีกหลายคนที่เขาเคยดูแลกันยามยาก จะยืนหยัดเพื่อเขา ตัวอย่างเช่น ดาวนีย์ที่ออกตัวแทนอย่างกระตือรือร้นจนทำให้อาชีพของเมลกลับมามั่นคงอีกครั้ง
ประวัติศาสต์การยุทธ(Battle History)
เล่าเรื่องประวัติศาสตร์การรบและข้อมูลประกอบให้เพื่อนฟังแบบแฟนพันธ์แท้
ขณะที่เราเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์ก็ถูกสร้างไปพร้อมกัน
ติดตามเนื้อหาที่เกี่ยวข้องที่กลุ่มเฟสบุค "ชมรมผู้ศึกษาสงครามเวียดนาม"
ที่ศึกษาประวัติศาสตร์ อย่างเป็นกลาง ปราศจากอคติต่าง ๆ
สามารถแสดงความเห็นต่างได้อย่างผู้ศึกษาและเคารพประวัติศาสตร์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
